คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
เครื่องวัดชำรุด

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 3 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5711/2541

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดร่วมกันชำระค่าไฟฟ้าค้างชำระจากเครื่องวัดชำรุด และอายุความของการเรียกร้องหนี้ค่าสาธารณูปโภค
ส. เป็นผู้ขอใช้ไฟฟ้าระบุสถานที่ใช้ไฟฟ้าคือบ้านซึ่งเป็นที่ตั้งของบริษัท พ.จำเลยที่2เมื่อส. ถึงแก่กรรม จำเลยที่ 1 ได้ยื่นแบบขอเปลี่ยนชื่อผู้ใช้ไฟฟ้า จาก ส. มาเป็นชื่อจำเลยที่ 1 เมื่อบ้านเลขที่ดังกล่าวเป็นทั้งที่อยู่ของจำเลยที่ 1 และที่ทำการของจำเลยที่ 2 จึงต้อง ถือว่าจำเลยทั้งสองใช้ไฟฟ้าจากเครื่องวัดหน่วยไฟฟ้าดังกล่าวร่วมกัน จำเลยทั้งสองจึงต้องร่วมกันรับผิดชำระค่าไฟฟ้าแก่โจทก์ เครื่องวัดหน่วยไฟฟ้าอยู่นอกอาคารของจำเลยที่ 2 และ การที่เครื่องวัดหน่วยคลาดเคลื่อนมิใช่เป็นการกระทำของจำเลยทั้งสอง ทั้งเครื่องวัดที่ใช้ในการตรวจสอบหน่วยไฟฟ้าก็ไม่สามารถแสดงค่าจำนวนหน่วยคลาดเคลื่อนว่าเกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อใด การที่โจทก์เรียกเก็บค่ากระแสไฟฟ้าย้อนหลังโดยดูจากประวัติการใช้กระแสไฟฟ้าของจำเลยที่ 2 ในเดือน มกราคม 2531 ซึ่งเป็นเดือนที่มียอดต่ำสุดมาเป็นเกณฑ์คาดคะเน ว่าเครื่องวัดหน่วยคลาดเคลื่อนตั้งแต่เดือนนั้นเป็นต้นไปเป็น หลักการคาดคะเนที่ไม่มีน้ำหนักเพียงพอที่จะฟังว่าเครื่องวัด หน่วยคลาดเคลื่อนตั้งแต่เดือนดังกล่าว แต่เมื่อวันที่22 ตุลาคม 2531 เจ้าหน้าที่ของโจทก์ตรวจพบว่าเครื่องวัดหน่วยไฟฟ้าที่ตั้งไว้สายควบคุมเส้นสีแดงต่อเข้าหม้อแปลงหลวงไฟฟ้าลัดวงจร จึงถือว่าเครื่องวัดหน่วยไฟฟ้าชำรุดตั้งแต่วันที่ไฟฟ้าลัดวงจร ดังนั้น โจทก์มีสิทธิเรียกค่าไฟฟ้าเพิ่มย้อนหลังตั้งแต่วันที่ 22 ตุลาคม 2531 เป็นต้นไป กิจการของโจทก์เป็นกิจการสาธารณูปโภค และการฟ้องเรียก ค่ากระแสไฟฟ้าจากจำเลยทั้งสองเป็นการเรียกหนี้ค่ากระแสไฟฟ้า เพราะเหตุเครื่องวันหน่วยไฟฟ้าคำนวณค่าใช้ไฟฟ้าขาดตกบกพร่อง ไป เมื่อคำนวณใหม่ให้ถูกต้องแล้วเรียกค่าใช้กระแสไฟฟ้า เพิ่มเติมในส่วนที่ขาด อายุความส่วนนี้มิได้มีกฎหมาย บัญญัติไว้โดยเฉพาะ จึงให้ใช้อายุความ 10 ปี ตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 164 ซึ่งเป็นกฎหมาย สารบัญญัติที่ใช้ขณะนั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4106/2532

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิเรียกค่าไฟฟ้าเพิ่มหลังพบเครื่องวัดชำรุด: โจทก์ต้องรับความเสี่ยงจากความชำรุดของอุปกรณ์ที่ติดตั้ง
เครื่องวัดไฟฟ้าที่โจทก์ติดตั้งให้จำเลยชำรุดเองโดยจานวัดหมุนช้าทำให้จำเลยชำระเงินน้อยกว่าความเป็นจริงโจทก์ตรวจพบเมื่อวันที่ 20 เมษายน 2526 หลังจากติดตั้งและเริ่มเก็บเงินเป็นเวลาเกือบ 5 ปี และโจทก์ไม่ได้เปลี่ยนเครื่องวัดไฟฟ้าให้ใหม่ยอมให้จำเลยใช้เครื่องเดิมจนถึงเดือนตุลาคม 2526 ทั้งโจทก์นำสืบไม่ได้ว่าเครื่องวัดไฟฟ้าชำรุดตั้งแต่เมื่อใด ดังนี้ โจทก์ไม่มีสิทธิเรียกค่าไฟฟ้าเพิ่มตั้งแต่วันที่ 10 ตุลาคม 2526 ย้อนหลังไปจนถึงวันที่15 พฤษภาคม 2521 ซึ่งเป็นวันเรียกเก็บค่าไฟฟ้าครั้งแรกของจากจำเลย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 11027/2553

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาซื้อขายไฟฟ้า: การชำระค่าไฟฟ้าเมื่อเครื่องวัดหน่วยไฟฟ้าชำรุด และการลดเบี้ยปรับ
ตามคำฟ้องโจทก์ขอให้จำเลยที่ 1 ผู้ซื้อสินค้าไฟฟ้าจากโจทก์รับผิดชำระค่าไฟฟ้าเพิ่มเติมแก่โจทก์ในกรณีที่เครื่องวัดหน่วยไฟฟ้าแสดงค่าคลาดเคลื่อนตามสัญญาซื้อขายไฟฟ้า ข้อ 6 ซึ่งกำหนดว่า "ในกรณีที่เครื่องวัดหน่วยไฟฟ้าแสดงค่าคลาดเคลื่อน ผู้ซื้อยินยอมชำระค่าไฟฟ้าประจำเดือนไปก่อน โดยให้นำค่าไฟฟ้าเฉลี่ยของ 3 เดือนหลังสุดที่ถือว่าปกติติดต่อกัน หรือค่าไฟฟ้าที่คำนวณพื้นฐานวิศวกรรมไฟฟ้า โดยอาศัยหลักฐานข้อมูล ซึ่งตรวจสอบได้ในช่วงเวลานั้น มาเป็นค่าไฟฟ้าประจำเดือนของเดือนที่เริ่มมีการผิดพลาดเป็นต้นไป หากภายหลังการตรวจสอบเครื่องวัดหน่วยไฟฟ้า มีผลแตกต่างจากที่เรียกเก็บไปแล้วนั้น คู่สัญญายินยอมให้เก็บเพิ่มหรือจ่ายคืน แล้วแต่กรณี" โจทก์มิได้อ้างในคำฟ้องขอให้จำเลยที่ 1 ชำระค่าไฟฟ้าเพิ่มย้อนหลังในกรณีที่จำเลยที่ 1 ผู้ซื้อเจตนากระทำหรือใช้ให้ผู้อื่นกระทำโดยมิชอบต่ออุปกรณ์ระบบจ่ายไฟฟ้าและหรือเครื่องวัดหน่วยไฟฟ้าตามสัญญาซื้อขายไฟฟ้า ข้อ 9 ดังนี้ ที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่าจำเลยที่ 1 ไม่ต้องรับผิดชดใช้ค่าไฟฟ้าเพิ่มย้อนหลังต่อโจทก์ เพราะจำเลยที่ 1 มิได้กระทำหรือใช้ผู้อื่นกระทำโดยมิชอบต่ออุปกรณ์เครื่องวัดหน่วยไฟฟ้าตามสัญญาข้อ 9 นั้น เป็นการวินิจฉัยนอกประเด็นหรือในประเด็นที่เกินไปกว่าหรือนอกจากที่ปรากฏในคำฟ้อง ไม่ชอบด้วย ป.วิ.พ. มาตรา 246 ประกอบมาตรา 142 แต่เมื่อโจทก์และจำเลยที่ 1 ได้สืบพยานหลักฐานมาแล้ว ศาลฎีกาจึงเห็นสมควรวินิจฉัยปัญหาตามฎีกาของโจทก์ไปโดยไม่ย้อนสำนวนไปให้ศาลอุทธรณ์พิจารณาพิพากษาตาม ป.วิ.พ. มาตรา 247 ประกอบมาตรา 243 (1)
ดอกเบี้ยที่จำเลยที่ 1 ต้องรับผิดชดใช้แก่โจทก์ปรากฏตามสัญญาซื้อขายไฟฟ้าว่าเป็นดอกเบี้ยที่กำหนดไว้ให้จำเลยที่ 1 ต้องรับผิดในกรณีที่จำเลยที่ 1 ผิดนัดไม่ชำระค่าไฟฟ้าโดยกำหนดให้คิดในอัตราร้อยละ 15 ต่อปี ดอกเบี้ยอัตรานี้จึงเป็นค่าเสียหายที่กำหนดไว้ล่วงหน้าในกรณีผิดสัญญา มีลักษณะเป็นเบี้ยปรับซึ่งหากศาลเห็นว่าเป็นเบี้ยปรับที่กำหนดไว้นั้นสูงเกินส่วน ศาลย่อมพิจารณาลดลงเป็นจำนวนพอสมควรไว้ตาม ป.พ.พ. มาตรา 383 เมื่อไม่ปรากฏว่าโจทก์ได้นำสืบเห็นถึงความเสียหายที่โจทก์ได้รับเพราะเหตุที่จำเลยที่ 1 ผิดนัดไม่ชำระค่าไฟฟ้าว่าสูงถึงจำนวนดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 15 ต่อปี ศาลฎีกาเห็นว่า เบี้ยปรับที่เป็นดอกเบี้ยในอัตราดังกล่าวสูงเกินไป จึงเห็นสมควรลดเบี้ยปรับนั้นลงเป็นดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี