พบผลลัพธ์ทั้งหมด 7 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7017/2537
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขายทอดตลาดชอบด้วยกฎหมาย แม้ผู้สู้ราคาสู้ราคาเกินกำหนด ผู้ขายมีสิทธิ์เคาะไม้ขายได้
ผู้คัดค้านได้ทำการขายทอดตลาดที่ดินของลูกหนี้โดยกำหนดเงื่อนไขในการขายไว้ว่าผู้คัดค้านจะขานราคาครั้งแรกเป็นเงิน 11,400,000 บาท และผู้สู้ราคาจะต้องเสนอสู้ราคาเพิ่มขึ้นเป็นเงินครั้งละ 100,000 บาท เมื่อผู้สู้ราคาเสนอสู้ราคาแล้วผู้คัดค้านจะขานราคาและนับ 1 สามสี่ครั้ง หากมีผู้สู้ ราคาสูงขึ้นก็จะขานราคาและนับ 1 สามสี่ครั้งใหม่ การขานราคาแต่ละครั้งผู้คัดค้านจะบันทึกราคาไว้เป็นหลักฐานแล้วอ่านให้ผู้สู้ราคาซื้อทรัพย์ฟังด้วย หากไม่มีผู้ใดสู้ราคาอีกก็จะนับ 2 สามสี่ครั้ง เพื่อรอให้มีการสู้ราคาสูงขึ้น ถ้าหากไม่มีผู้ใดสู้ราคาแล้ว ผู้คัดค้านจะหยุดราคาไว้แล้วนำเสนอผู้อำนวยการขายทอดตลาดพิจารณาและมีคำสั่งว่าจะอนุมัติให้ขายหรือไม่ เมื่อมีคำสั่งประการใดผู้คัดค้านก็จะปฎิบัติตามคำสั่งนั้น ในกรณีมีคำสั่งอนุมัติให้ขายผู้คัดค้านจะนับ 3 และเคาะไม้โดยไม่เปิดโอกาสให้มีการสู้ราคาต่อไปอีก เป็นคำโฆษณาบอกขายที่ผู้คัดค้านได้แถลงไว้ก่อน เผดิมการสู้ราคา ซึ่งมีผลผูกพันผู้ซื้อตามความในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 510 เมื่อผู้คัดค้านเปิดประมูลการขายทอดตลอด ผู้เข้าสู้ราคาซื้อทรัพย์ได้เสนอราคาสูงขึ้นเรื่อย ๆ จนกระทั่งผู้ทรัพย์เสนอราคาที่ 12,100,000 บาท ผู้คัดค้านได้ขานราคาและนับไปถึง 2 แล้ว ปรากฎว่าไม่มีผู้ใดสู้ราคาให้สูงขึ้นไปอีกผู้คัดค้านจึงหยุดราคาไว้แล้วเสนอเรื่องให้ผู้อำนวยการขายทอดตลาดพิจารณา ระหว่างนี้ผู้ร้องได้เสนอราคาสูงขึ้นไปอีกเป็นเงิน 12,200,000 บาท แต่ผู้คัดค้านไม่ยินยอมให้มีการสู้ราคาต่อไปและได้นับ 3 แล้วเคาะไม้ขายให้แก่ผู้ซื้อทรัพย์ตามที่ได้รับอนุมัติให้ขายจากผู้อำนวยการขายทอดตลาด เช่นนี้การกระทำของผู้คัดค้านจึงชอบกฎหมาย การที่ผู้ร้องได้เสนอสู้ราคาสูงขึ้นไปอีกในระหว่างนั้น เป็นการสู้ราคาเมื่อพ้นกำหนดเวลาที่ผู้คัดค้านได้โฆษณาเปิดโอกาสให้มีการสู้ราคาได้ การสู้ราคาดังกล่าวจึงไม่มีผลตามกฎหมายและไม่เป็นเหตุให้ต้องเปิดการประมูลสู้ราคากันต่อไปอีก เพราะมิฉะนั้นแล้วการขายทอดตลาดก็อาจจะยืดเยื้อออกไปไม่มีที่สิ้นสุด การขายทอดตลาดทรัพย์ในคดีล้มละลายหรือในคดีอื่น ๆผลปฎิบัติย่อมจะต้องเป็นอย่างเดียวกัน กล่าวคือจะต้องขายให้เป็นผลดีทั้งแก่เจ้าหนี้และลูกหนี้รวมตลอดถึงบุคคลที่มีผลประโยชน์เกี่ยวข้องด้วยกันทั้งสิ้น เมื่อมีการขายทอดตลาดไม่มีข้อโต้แย้งว่า ผู้คัดค้านขายทอดตลาดทรัพย์ไปในราคาต่ำกว่าราคาในท้องตลาด จึงไม่มีข้อที่จะยกขึ้นมาอ้างว่าการขายทอดตลาดมิได้เป็นไปเพื่อประโยชน์แก่เจ้าหนี้และลูกหนี้ที่จะยกมาเป็นเหตุให้เพิกถอนการขายทอดตลาดได้ การขายทอดตลาดของผู้คัดค้านจึงชอบแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3409/2528 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขายทอดตลาดไม่สมบูรณ์หากไม่มีการเคาะไม้ และศาลไม่สามารถตกลงราคากับผู้ซื้อเองโดยไม่เปิดให้สู้ราคาใหม่ได้
รายงานของเจ้าพนักงานบังคับคดีไม่ปรากฏว่าเจ้าพนักงานบังคับคดีได้เคาะไม้แสดงว่าตกลงขายทรัพย์ให้แก่ ท. ผู้ให้ราคาสูงสุด เพียงแต่ทำรายงานขอให้ศาลชั้นต้นพิจารณาว่าสมควรขายทรัพย์ในราคา 21,000 บาทหรือไม่ การขายทอดตลาดจึงยังไม่บริบูรณ์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 509 การที่ศาลชั้นต้น เห็นว่า ท. ให้ราคาต่ำกว่าราคาประเมินแล้วเรียก ท.ไปตกลงเพิ่มราคาทรัพย์เป็น 40,000 บาทเป็นการที่ศาลชั้นต้นตกลงขายทรัพย์ให้แก่ ท.เองโดยไม่เปิดโอกาสให้ผู้แทนโจทก์หรือผู้อื่นเข้าสู้ราคา ไม่มีบทกฎหมายหรือระเบียบปฏิบัติให้ศาลชั้นต้นกระทำได้เช่นนั้น ถือไม่ได้ว่าเป็นการขายทอดตลาดโดยชอบด้วยกฎหมาย ใน กรณีเช่นนี้หากศาลชั้นต้นเห็นว่า ท.ให้ราคาน้อยไปยังไม่สมควรขาย ก็ต้องสั่งให้ ขายทอดตลาดใหม่เท่านั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3409/2528
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขายทอดตลาดไม่สมบูรณ์เมื่อไม่มีการเคาะไม้ตกลง และศาลมิอาจตกลงราคากับผู้ซื้อโดยไม่เปิดโอกาสให้สู้ราคาใหม่
รายงานของเจ้าพนักงานบังคับคดีไม่ปรากฏว่าเจ้าพนักงานบังคับคดีได้ เคาะไม้แสดงว่าตกลงขายทรัพย์ให้แก่ ท. ผู้ให้ราคาสูงสุดเพียงแต่ ทำรายงานขอให้ศาลชั้นต้น พิจารณาว่าสมควรขายทรัพย์ในราคา 21,000 บาทหรือไม่การขายทอดตลาดจึงยังไม่บริบูรณ์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 509 การที่ศาลชั้นต้น เห็นว่า ท.ให้ราคาต่ำกว่าราคาประเมินแล้วเรียกท.ไปตกลง เพิ่มราคาทรัพย์เป็น 40,000 บาทเป็นการที่ ศาลชั้นต้นตกลงขายทรัพย์ ให้แก่ท.เองโดยไม่เปิดโอกาส ให้ผู้แทนโจทก์หรือผู้อื่นเข้าสู้ราคา ไม่มีบทกฎหมาย หรือระเบียบปฏิบัติให้ศาลชั้นต้นกระทำได้เช่นนั้นถือไม่ได้ว่าเป็นการขายทอดตลาดโดยชอบด้วยกฎหมายใน กรณีเช่นนี้ หากศาลชั้นต้นเห็นว่าท.ให้ราคาน้อยไปยัง ไม่สมควรขายก็ต้องสั่งให้ ขายทอดตลาดใหม่เท่านั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1066/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขายทอดตลาดต้องเคาะไม้ตกลงขาย หากยังไม่ได้เคาะไม้ ศาลย่อมสั่งให้ขายใหม่ได้
ในการขายทอดตลาดทรัพย์สินของลูกหนี้ ตามคำพิพากษา เมื่อเจ้าพนักงานบังคับคดีดำเนินคดีดำเนินการประมูลโดยไม่ปรากฏว่าเจ้าพนักงานบังคับคดีได้เคาะไม้ตกลงขาย แต่ทำรายงานเสนอต่อศาลเพื่อขออนุญาตขายแก่ผู้ให้ราคาสูงสุด ศาลเห็นว่า มีผู้ให้ราคาน้อย ไปยังไม่สมควรให้ขายศาลย่อมสั่งให้ดำเนินการขายทอดตลาดใหม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1066/2503
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขายทอดตลาดต้องมีการเคาะไม้ตกลงขาย การเสนอราคาต่อศาลยังไม่ถือเป็นการขาย
ในการขายทอดตลาดทรัพย์สินของลูกหนี้ตามคำพิพากษา เมื่อเจ้าพนักงานบังคับคดีดำเนินการประมูลโดยไม่ปรากฏว่าเจ้าพนักงานบังคับคดีได้เคาะไม้ตกลงขาย แต่ทำรายงานเสนอต่อศาลเพื่อขออนุญาตขายแก่ผู้ให้ราคาสูงสุด ศาลเห็นว่ามีผู้ให้ราคาน้อยไปยังไม่สมควรให้ขายศาลย่อมสั่งให้ดำเนินการขายทอดตลาดใหม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 227/2551 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การล่าสัตว์ป่าโดยการเคาะไม้ไล่ต้อนเข้าสู่การดักซุ่ม เป็นความผิดฐานล่าสัตว์ป่าสำเร็จ
จำเลยกับพวกที่หลบหนีร่วมกันล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียว โดยการเคาะไม้ไล่ต้อนสัตว์ป่าเพื่อให้พวกของจำเลยที่ดักซุ่มรออยู่ใช้อาวุธปืนยิงล่าสัตว์ป่าดังกล่าวซึ่งดำรงชีพอยู่ภายในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียว และตาม พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่าฯ มาตรา 4 ให้คำนิยามของคำว่า "ล่า" หมายความว่า เก็บ ดัก จับ ยิงฆ่า หรือทำอันตรายด้วยประการอื่นใดแก่สัตว์ป่าที่ไม่มีเจ้าของและอยู่เป็นอิสระ และหมายความรวมถึงการไล่ การต้อน การเรียก หรือการล่อเพื่อการกระทำดังกล่าวด้วย ดังนั้น การเคาะไม้ไล่ต้อนสัตว์ป่าจึงอยู่ในความหมายของคำว่า "ล่า" ตามคำนิยาม ดังกล่าว การกระทำของจำเลยจึงเป็นการกระทำที่ครบองค์ประกอบของความผิดและเป็นความผิดสำเร็จฐานล่าสัตว์ป่าตามฟ้อง มิใช่เป็นความผิดฐานพยายามล่าสัตว์ป่า
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 227/2551
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเคาะไม้ไล่ต้อนสัตว์ป่าถือเป็นความผิดฐานล่าสัตว์ป่าสำเร็จรูปตาม พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า
ตาม พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535 มาตรา 4 ให้คำนิยามของคำว่า "ล่า" หมายความว่า เก็บ ดัก จับ ยิง ฆ่า หรือทำอันตรายด้วยประการอื่นใดแก่สัตว์ป่าที่ไม่มีเจ้าของและอยู่เป็นอิสระ และหมายความรวมถึงการไล่ การต้อน การเรียก หรือการล่อเพื่อการกระทำดังกล่าวด้วย ดังนั้น การเคาะไม้ไล่ต้อนสัตว์ป่าจึงอยู่ในความหมายของคำว่า "ล่า" ตามคำนิยามดังกล่าว การที่จำเลยกับพวกร่วมกันเคาะไม้ไล่ต้อนสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเพื่อให้พวกของจำเลยที่ดักซุ่มรออยู่ใช้อาวุธปืนยิง จึงเป็นความผิดสำเร็จฐานล่าสัตว์ป่า มิใช่เป็นเพียงความผิดฐานพยายามล่าสัตว์ป่า