คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
เงินค่าสินค้า

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 3 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6381/2541

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เงินชำระค่าสินค้าล่วงหน้าไม่ใช่เบี้ยปรับ ศาลไม่มีอำนาจลดจำนวนได้
โจทก์ทำสัญญาซื้อส้มโอพันธุ์ทองดีจากจำเลย50,000 ผล ในราคา 1,700,000 บาท โจทก์ชำระเงินมัดจำให้จำเลย 150,000 บาท ในวันทำสัญญาอันเป็นการปฏิบัติตามสัญญาซื้อขายข้อ 3 ซึ่งกำหนดไว้ว่า "ผู้ซื้อจ่ายเงินมัดจำให้ 150,000 บาท(หนึ่งแสนห้าหมื่นบาทถ้วน) ในวันที่ 23 สิงหาคม 2536Mr.TUIHUI จะมาดูของ ถ้ามีส้มโอ Mr.TUIHUIจะทำการโอนเงินจำนวน 1,000,000 บาท(หนึ่งล้านบาทถ้วน) ให้กับผู้ขายทันทีเมื่อส้มโอเข้าตู้คอนเทนเนอร์เรียบร้อยแล้ว เงินส่วนที่เหลือจะจ่ายเป็นเงินสดทันทีทั้งหมด" ดังนี้เงินจำนวน 1,000,000 บาทที่กำหนดไว้ในสัญญาดังกล่าวจึงเป็นเงินที่โจทก์จะต้องชำระหนี้ค่าส้มโอบางส่วนล่วงหน้าให้แก่จำเลยครั้นเมื่อโจทก์ได้ชำระเงินจำนวนดังกล่าวให้แก่จำเลยแล้วจำเลยย่อมมีสิทธิริบเงินจำนวนดังกล่าวพร้อมด้วยเงินมัดจำได้หากโจทก์ไม่มารับส้มโอตามกำหนดเวลาในสัญญาดังที่กำหนดไว้ในสัญญาซื้อขายข้อ 6 ที่ว่า"ถ้าผู้ซื้อไม่มารับส้มโอตามกำหนดเวลาในสัญญาผู้ขายมีสิทธิริบเงินจำนวน 1,150,000 บาท(หนึ่งล้านหนึ่งแสนห้าหมื่นบาทถ้วน)" กรณีเงินจำนวน1,000,000 บาท ที่โจทก์ชำระหนี้ให้แก่จำเลยนั้นเป็นเงินที่โจทก์ชำระหนี้บางส่วนโดยมุ่งต่อผลกล่าวคือ ให้จำเลยจัดหาส้มโอที่มีคุณภาพตามจำนวนในสัญญามาขายให้แก่โจทก์ จึงเป็นเงินล่วงหน้าไม่ใช่ลักษณะเป็นเบี้ยปรับดังที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 379แต่เป็นข้อตกลงตามสัญญาซื้อขายที่ว่า ในกรณีที่โจทก์ไม่มารับส้มโอภายในระยะเวลาที่กำหนดไว้ ให้จำเลยมีสิทธิริบเงินค่าส้มโอบางส่วนที่โจทก์ได้ชำระไว้แล้วหาใช่เงินที่จำเลยมีสิทธิที่จะเรียกจากโจทก์หากโจทก์ผิดนัดผิดสัญญาอันจะถือเป็นค่าเสียหายที่กำหนดไว้ล่วงหน้าเมื่อโจทก์เป็นฝ่ายผิดสัญญา กล่าวคือเมื่อถึงกำหนดวันที่ส่งมอบส้มโอและจำเลยได้จัดหาส้มโอเพื่อส่งมอบแก่โจทก์ตามสัญญาแล้ว แต่โจทก์ไม่มารับส้มโอเพราะโจทก์ไม่สามารถจัดหาตู้ส่งสินค้าทางเรือมารับส้มโอตามสัญญาอีกทั้งยังบอกเลิกการซื้อส้มโอจากจำเลยเสียเช่นนี้จำเลยจึงมีสิทธิริบเงินจำนวนนี้ได้ตามสัญญาซื้อขายโจทก์ไม่มีสิทธิอันใดที่จะได้รับเงินจำนวนนี้แม้เพียงบางส่วนคืนจากจำเลย เมื่อเงินจำนวนนี้มิใช่เบี้ยปรับศาลย่อมไม่มีอำนาจใช้ดุลพินิจลดจำนวนลงตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 383 ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4/2533 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กรรมสิทธิ์ในเงินค่าสินค้า: ตัวแทนรับเงินแทนโจทก์ เงินตกเป็นของโจทก์ทันที โจทก์มีอำนาจร้องทุกข์
จำเลยรับเงินค่าสินค้าไว้ในฐานะตัวแทนของโจทก์ร่วมผู้ขายเงินนั้นย่อมตกเป็นของโจทก์ร่วมแล้ว ผู้ซื้อสินค้าเมื่อได้ชำระหนี้ค่าสินค้าแล้วหาใช่เป็นเจ้าของเงินนั้นต่อไปไม่ เมื่อจำเลยครอบครองเงินของโจทก์ร่วมไว้แล้วไม่ส่งมอบโดยนำเข้าฝากในบัญชีธนาคารของโจทก์ร่วมตามหน้าที่ อันเป็นความผิดฐานยักยอกโจทก์ร่วมจึงเป็นผู้เสียหายมีอำนาจร้องทุกข์ พนักงานอัยการโจทก์มีอำนาจฟ้องและโจทก์ร่วมย่อมขอเข้าร่วมเป็นโจทก์ได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4/2533

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจร้องทุกข์ในคดียักยอกเงินค่าสินค้า: เงินตกเป็นของใครเมื่อใด?
จำเลยรับเงินค่าสินค้าไว้ในฐานะตัวแทนของโจทก์ร่วมผู้ขาย เงินนั้นย่อมตกเป็นของโจทก์ร่วมแล้ว ผู้ซื้อสินค้าเมื่อได้ชำระหนี้ค่าสินค้าแล้วหาใช่เป็นเจ้าของเงินนั้นต่อไปไม่เมื่อจำเลยครอบครองเงินของโจทก์ร่วมไว้แล้วไม่ส่งมอบให้โจทก์ร่วมโดยนำเข้าฝากในบัญชีธนาคารของโจทก์ร่วมตามหน้าที่ อันเป็นความผิดฐานยักยอก โจทก์ร่วมจึงเป็นผู้เสียหายมีอำนาจร้องทุกข์พนักงานอัยการโจทก์มีอำนาจฟ้อง และโจทก์ร่วมย่อมขอเข้าร่วมเป็นโจทก์ได้