พบผลลัพธ์ทั้งหมด 16 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 138/2547 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิในการขอคืนเงินวางศาลเมื่อศาลไม่วินิจฉัยเหตุบรรเทาความเสียหายและไม่แจ้งผู้เสียหายรับเงิน
คดีนี้โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยในความผิดฐานกระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กายและรับอันตรายสาหัส ฯลฯ การที่จำเลยให้การรับสารภาพและยื่นคำร้องขอวางเงินต่อศาลชั้นต้น โดยขอให้ศาลชั้นต้นแจ้งให้ผู้เสียหายมารับไปอันเป็นการบรรเทาความเสียหายบางส่วน แสดงว่าจำเลยวางเงินเพื่อจะชำระค่าเสียหายให้แก่ผู้เสียหายโดยมีเจตนาที่จะให้ศาลชั้นต้นวินิจฉัยรอการลงโทษจำคุกให้แก่จำเลย แต่ศาลชั้นต้นไม่ได้แจ้งให้ผู้เสียหายมารับเงินที่จำเลยวางไว้ดังกล่าว และพิพากษาลงโทษจำคุกจำเลยไปโดยไม่ได้วินิจฉัยถึงเหตุที่จำเลยพยายามบรรเทาความเสียหายด้วยการวางเงินต่อศาลเพื่อให้ผู้เสียหายรับไป แม้ต่อมาจำเลยอุทธรณ์ต่อศาลอุทธรณ์ขอให้รอการลงโทษจำคุกให้จำเลย โดยอ้างเหตุที่ได้วางเงินชำระค่าเสียหายให้แก่ผู้เสียหาย แต่ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นโดยไม่รอการลงโทษจำคุกให้จำเลยและไม่ได้วินิจฉัยถึงเหตุที่จำเลยวางเงินต่อศาลชั้นต้นดังกล่าว จึงเป็นกรณีที่ศาลล่างทั้งสองไม่ดำเนินการแจ้งให้ผู้เสียหายมารับเงินที่วางศาลและไม่วินิจฉัยถึงเหตุที่จำเลยพยายามบรรเทาผลร้ายหรือความเสียหายด้วยการวางเงินชำระค่าเสียหายบางส่วนให้แก่ผู้เสียหายเพื่อใช้ดุลพินิจรอหรือไม่รอการลงโทษจำคุกจำเลย และเมื่อคดีถึงที่สุดตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์แล้ว โดยไม่มีการดำเนินการตามคำร้องของจำเลย จำเลยย่อมมีสิทธิที่จะขอถอนเงินที่วางต่อศาลชั้นต้นดังกล่าวคืนไปได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 330/2545
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เงินวางศาลชำระหนี้ตามคำพิพากษา หากเจ้าหนี้ไม่เรียกรับภายใน 5 ปี เงินตกเป็นของแผ่นดิน
เงินที่จำเลยนำมาวางศาลเพื่อชำระหนี้ตามคำพิพากษาให้แก่โจทก์ตามที่ศาลออกคำบังคับ ถือได้ว่าเป็นเงินที่ค้างจ่ายอยู่ในศาล โจทก์ผู้มีสิทธิจะต้องเรียกเอาภายในห้าปีนับแต่วันที่จำเลยนำเงินมาวางศาลตาม ป.วิ.พ. มาตรา 323 มิใช่นับจากวันที่โจทก์ผู้มีสิทธิได้ทราบถึงการวางเงิน กรณีมิใช่เป็นเรื่องที่โจทก์ในฐานะเจ้าหนี้ตามคำพิพากษามีสิทธิบังคับเอาแก่จำเลยได้ภายใน 10 ปี นับแต่วันมีคำพิพากษา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 9195/2544 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจศาลในการจ่ายเงินวางศาลคืนให้ผู้ฟ้อง เมื่อศาลสั่งจำหน่ายคดีเนื่องจากถอนฟ้อง ตาม พ.ร.บ.เงินทดแทน
ตาม พ.ร.บ.เงินทดแทน พ.ศ.2537 มาตรา 53 วรรคสาม ศาลจะมีอำนาจจ่ายเงินที่ผู้นำคดีไปสู่ศาลวางไว้ต่อศาลให้แก่สำนักงานประกันสังคม เพื่อให้สำนักงาน ฯ จ่ายเงินทดแทนดังกล่าวแก่ลูกจ้างหรือผู้มีสิทธิตามมาตรา 20 ต่อไปได้ก็เฉพาะแต่ในกรณีที่คดีถึงที่สุดโดยศาลพิพากษาให้ผู้นำคดีไปสู่ศาลจ่ายเงินทดแทนให้แก่ลูกจ้างหรือผู้มีสิทธิตามมาตรา 20 เท่านั้น แต่กรณีคดีถึงที่สุดโดยศาลแรงงานมีคำสั่งจำหน่ายคดีเพราะโจทก์ขอถอนฟ้อง ศาลแรงงานจึงไม่มีอำนาจจ่ายเงินที่โจทก์วางไว้ต่อศาลแก่สำนักงาน ฯ เพื่อให้สำนักงาน ฯ จ่ายเงินดังกล่าวให้แก่ลูกจ้างต่อไปได้ ชอบที่จะคืนให้โจทก์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 8188/2538 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การดำเนินการคดีอย่างคนอนาถาไม่ผูกพันจำเลยร่วมกัน และค่าธรรมเนียมศาลกับการวางเงินค่าธรรมเนียมเป็นคนละส่วนกัน
การยกเว้นค่าธรรมเนียมศาลรวมทั้งเงินวางศาลในการยื่นฟ้องอุทธรณ์แก่จำเลยที่ได้รับอนุญาตให้ดำเนินคดีอย่างคนอนาถาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 157 นั้นเป็นเรื่องเฉพาะตัวของจำเลยแต่ละคน แม้ศาลจะอนุญาตให้จำเลยที่ 1 ดำเนินคดีชั้นอุทธรณ์อย่างคนอนาถาก็ไม่มีผลถึงจำเลยที่ 2 ด้วยแต่อย่างใด ค่าขึ้นศาลเป็นค่าธรรมเนียมอย่างหนึ่งซึ่งกฎหมายบังคับให้คู่ความที่ยื่นคำฟ้อง ฟ้องอุทธรณ์หรือฎีกา จะต้องเสียในขณะยื่นคำฟ้อง กับการวางเงินค่าธรรมเนียมซึ่งจะต้องใช้แก่คู่ความอีกฝ่ายหนึ่งในการยื่นอุทธรณ์หรือฎีกานั้น เป็นเงินคนละส่วนกัน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3067/2537
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เงินวางศาลเพื่ออุทธรณ์ไม่ใช่การชำระหนี้ โจทก์ยังไม่มีสิทธิรับเงิน
การที่จำเลยนำเงินค่าฤชาธรรมเนียมซึ่งจะต้องใช้แก่โจทก์มาวางศาลพร้อมอุทธรณ์ เป็นการปฏิบัติตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 229 มิใช่เป็นการชำระหนี้ให้โจทก์ โจทก์จึงยังไม่มีสิทธิรับเงินดังกล่าวไป
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 172/2530
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เงินวางศาลค้างจ่าย ผู้มีสิทธิไม่เรียกภายใน 5 ปี ตกเป็นของแผ่นดิน
จำเลยนำเงินมาวางศาลเพื่อชำระหนี้ให้โจทก์เป็นงวด ๆ ตามคำพิพากษาตามยอม โจทก์มีสิทธิมารับเงินแต่ละงวดได้ทันทีหลังจากจำเลยนำเงินมาวาง เมื่อโจทก์ไม่มารับเงินงวดใดเงินงวดนั้น ๆ ก็เป็นเงินค้างจ่ายอยู่ในศาล การที่โจทก์เพิกเฉยไม่เรียกเอาเสียภายในห้าปีนับแต่วันที่จำเลยนำเงินมาวางศาลเงินงวดนั้น ๆ จึงตกเป็นของแผ่นดิน.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 881/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เงินวางศาลชำระหนี้ตามคำพิพากษา: กรอบเวลา 5 ปีในการเรียกร้อง มิฉะนั้นตกเป็นของแผ่นดิน
เงินที่จำเลยนำมาวางศาลเพื่อชำระหนี้ตามคำพิพากษาให้แก่โจทก์ตามที่ศาลออกคำบังคับนั้น ถือได้ว่าเป็นเงินค้างจ่ายอยู่ในศาลตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 323 ผู้มีสิทธิจะต้องเรียกเอาภายใน 5 ปี นับแต่วันที่จำเลยนำเงินมาวางศาล ซึ่งเป็นวันที่โจทก์มีสิทธิเรียกร้องเอาเงินนั้นได้ มิใช่นับจากวันที่ผู้มีสิทธิ์ได้ทราบถึงการวางเงิน เมื่อโจทก์ผู้มีสิทธิ์มิได้เรียกร้องเอาภายใน 5 ปี จึงตกเป็นของแผ่นดิน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 881/2529
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เงินวางศาลชำระหนี้ตามคำพิพากษา: สิทธิเรียกร้องภายใน 5 ปีนับจากวันวางเงิน
เงินที่จำเลยนำมาวางศาลเพื่อชำระหนี้ตามคำพิพากษาให้แก่โจทก์ตามที่ศาลออกคำบังคับนั้นถือได้ว่าเป็นเงินค้างจ่ายอยู่ในศาลตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 323ผู้มีสิทธิจะต้องเรียกเอาภายใน 5 ปี นับแต่วันที่นำเงินมาวางศาลซึ่งเป็นวันที่โจทก์มีสิทธิเรียกร้องเอาเงินนั้นได้ มิใช่นับจากวันที่ผู้มีสิทธิได้ทราบถึงการวางเงิน เมื่อโจทก์ผู้มีสิทธิมิได้เรียกเอาภายใน 5 ปีจึงตกเป็นของแผ่นดิน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2735/2528 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เงินวางศาลเพื่อคุ้มครองประโยชน์ระหว่างพิจารณาคดี: สิทธิการรับคืนและการหมดอายุตามกำหนด
โจทก์นำเงินมาวางตามคำสั่งศาล ซึ่งกำหนดวิธีการเพื่อคุ้มครองประโยชน์ ของโจทก์ระหว่างการพิจารณาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 264 และเพื่อเป็นประกันความเสียหายของจำเลย หากโจทก์แพ้คดีซึ่งโจทก์มีสิทธิรับไปจากศาลเมื่อโจทก์ชนะคดีเมื่อคดีถึงที่สุดแล้วโจทก์เป็นฝ่ายชนะเงินดังกล่าว จึงเป็นเงินค้างจ่ายอยู่ในศาลที่โจทก์จะต้องขอรับไปในกำหนดห้าปี ตามมาตรา 323 หากล่วงเลยกำหนดห้าปีนับแต่วันคดีถึงที่สุดโจทก์ย่อมไม่มีสิทธิขอรับคืน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2735/2528
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เงินวางศาลเพื่อคุ้มครองประโยชน์ระหว่างพิจารณาคดี: สิทธิการรับคืนและกรอบระยะเวลาตามกฎหมาย
โจทก์นำเงินมาวางตามคำสั่งศาลซึ่งกำหนดวิธีการเพื่อคุ้มครองประโยชน์ ของโจทก์ระหว่างการพิจารณาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา264และเพื่อเป็นประกันความเสียหายของจำเลยหากโจทก์แพ้คดี ซึ่งโจทก์มีสิทธิรับไปจากศาลเมื่อโจทก์ชนะคดีเมื่อคดีถึงที่สุดแล้วโจทก์เป็นฝ่ายชนะเงินดังกล่าวจึงเป็นเงินค้างจ่ายอยู่ในศาลที่โจทก์จะต้องขอรับไปในกำหนดห้าปี ตามมาตรา 323หากล่วงเลยกำหนดห้าปีนับแต่วันคดีถึงที่สุดโจทก์ย่อมไม่มีสิทธิขอรับคืน