คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
เจตนาปกปิด

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 4 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 8082/2542

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาประกันชีวิตตกเป็นโมฆียะจากเจตนาปกปิดข้อมูลสุขภาพของผู้เอาประกัน
แบบฟอร์มคำขอเอาประกันชีวิต ข้อ 17 ถึงข้อ 22 เป็นข้อความที่ถามไว้เป็นข้อย่อยเกี่ยวกับสุขภาพของ ผู้เอาประกันชีวิต เช่น มีความบกพร่องทางร่างกายหรือจิตใจบ้างหรือไม่ ในระหว่าง 5 ปี ที่ผ่านมาเคยเจ็บป่วย เคยได้รับการผ่าตัด เคยรับการรักษาในสถานพยาบาล ถ้าเคย โปรดแจ้งรายละเอียด แบบฟอร์มที่มีข้อความเช่นนี้ตัวแทนจำเลย ผู้มาติดต่อขอเอาประกันชีวิตไม่จำเป็นต้องสอบถามตามข้อความที่ระบุไว้ แต่เป็นที่เชื่อได้ว่าผู้เอาประกันชีวิตจะต้องอ่านก่อน และปรากฏว่าโจทก์มีอาชีพค้าขายมีฐานะเป็นเจ้าของกิจการย่อมต้องรอบคอบ เมื่อโจทก์อ่านข้อความเหล่านี้แล้ว แต่กลับเพิกเฉยไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขในข้อ 23 ซึ่งระบุว่า ถ้าคำตอบในเรื่องสุขภาพเป็นคำตอบรับ เช่น เคยได้รับการผ่าตัด หรือเข้ารักษาตัวในสถานพยาบาล จะต้องอธิบายรายละเอียดไว้ด้วย ข้อความเหล่านี้มีอยู่ก่อนโจทก์ลงชื่อในคำขอเอาประกันชีวิต หาใช่ตัวแทนจำเลยกรอกข้อความดังกล่าวภายหลังไม่ เมื่อโจทก์ไม่แจ้ง ก็ถือได้ว่าโจทก์มีเจตนาปกปิดไม่แจ้งความจริงตามหน้าที่ที่ต้องชี้แจงแสดงข้อบกพร่องของผู้เอาประกันชีวิตซึ่งผู้รับประกันภัยอาจบอกปัด ไม่ยอมทำสัญญาประกันชีวิตให้ผู้รับประกันภัยทราบ ตาม ป.พ.พ. มาตรา 865 วรรคหนึ่ง หน้าที่นี้มีน้ำหนักใน การแสดงความสุจริตมากกว่าหน้าที่ของผู้รับประกันภัยตาม ป.พ.พ. มาตรา 866 ที่จะต้องใช้ความระมัดระวังใน การรับรู้ข้อความจริง โดยผู้รับประกันภัยพึงใช้ความระมัดระวังอย่างคนธรรมดาเช่นวิญญูชนทั่วไปก็พอแล้ว สัญญาประกันชีวิตดังกล่าวจึงตกเป็นโมฆียะจำเลยย่อมมีสิทธิบอกล้างได้ ตาม ป.พ.พ. มาตรา 865

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1051/2537

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแก้ไขคำขอรับชำระหนี้จากเจ้าหนี้ไม่มีประกันเป็นเจ้าหนี้มีประกัน: ศาลอนุญาตได้หากเกิดจากความพลั้งเผลอ ไม่ได้มีเจตนาปกปิด
ผู้ร้องยื่นคำขอรับชำระหนี้อย่างเจ้าหนี้ไม่มีประกันด้วยความพลั้งเผลอ ไม่ได้มีเจตนาปกปิดเรื่องการจำนองเพื่อเอาเปรียบเจ้าหนี้อื่นเนื่องจากผู้ร้องได้ระบุหมายเลขคดีที่ผู้ร้องเป็นเจ้าหนี้จำนองมาในช่องหลักฐานประกอบหนี้ของคำขอรับชำระหนี้ซึ่งปรากฏรายการจำนองทรัพย์ในคำพิพากษาดังกล่าว และผู้ที่ผู้ร้องมอบหมายก็ได้ให้ถ้อยคำต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ในชั้นสอบสวนว่า หนี้ของผู้ร้องเป็นหนี้มีประกัน และอ้างส่งต้นฉบับหนังสือรับรองการทำประโยชน์และสัญญาจำนองต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ สมควรอนุญาตให้ผู้ร้องแก้ไขข้อความในรายการแห่งคำขอรับชำระหนี้เป็นขอรับชำระหนี้อย่างเจ้าหนี้มีประกันได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 842/2536

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลดโทษทางอาญา: เจตนาปกปิดความผิดของผู้อื่นไม่ถือเป็นเหตุลดโทษ
ชั้นจับกุมและชั้นสอบสวนจำเลยทั้งสองให้การรับสารภาพว่า จำเลยทั้งสองร่วมกันฆ่าผู้ตาย ชั้นพิจารณาของศาลจำเลยทั้งสองให้การปฏิเสธ แต่ขณะสืบพยานจำเลย จำเลยที่ 2 เบิกความว่า ตนเป็นคนฆ่าผู้ตายเพียงคนเดียว ทำให้เห็นเจตนาว่าไม่ประสงค์ให้จำเลยที่ 1 ต้องรับโทษด้วย คำเบิกความของจำเลยที่ 2 ดังกล่าวจึงไม่ได้ให้ความรู้แก่ศาลอันเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา ไม่เป็นเหตุลดโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1337/2492

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาปกปิดปริมาณข้าวถือเป็นความผิดฐานไม่แจ้งตาม พ.ร.บ.การค้าข้าว และไม่มีสิทธิรับบำเหน็จ
จำเลยมีข้าวไว้ในครอบครอง 6 เกวียนหลวงกับ 10 ถัง แต่จำเลยได้แจ้งปริมาณเพียง 3 เกวียนหลวง การที่จำเลยไม่แจ้งประมาณให้ครบถ้วน เช่นนี้ แสดงว่าจำเลยเจตนาปกปิดข้าวนอกจากที่แจ้งปริมาณและสถานที่เก็บไว้นั้น จำเลยย่อมมีผิดฐานไม่แจ้งปริมาณและสถานที่เก็บสำหรับข้าวอีก 3 เกวียนหลวงกับ 10 ถัง
พ.ร.บ.ให้บำเหน็จในการปราบปรามผู้กระทำความผิด พ.ศ.2489 มาตรา 5 บัญญัติให้ใช้บังคับแก่ความผิดซึ่งเกิดตามกฎหมายที่ระบุไว้ ส่วน พ.ร.บ.การค้าข้าวออกใช้ในภายหลัง และไม่มีบัญญัติให้นำ พ.ร.บ.ให้บำเหน็จในการปราบปรามผู้กระทำความผิดมาใช้บังคับแต่อย่างใด ฉะนั้นจะยกเอาการให้บำเหน็จตาม พ.ร.บ.ดังกล่าว มาใช้แก่ความผิดตาม พ.ร.บ.การค้าข้าว ย่อมไม่ได้