คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
เจตนาผิดนัด

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 4 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1090/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาผิดนัดชำระค่าเช่าหลังสัญญาหมดอายุ: การส่งค่าเช่าทางธนาณัติและการไม่รับของเจ้าของบ้าน
จำเลยอยู่ในที่เช่าต่อมาเมื่อหมดอายุสัญญาแล้ว แม้ไม่ได้ทำหนังสือสัญญาเช่ากันใหม่ เมื่อโจทก์ผู้ให้เช่ายังมิได้รับค่าเช่า โจทก์ก็ยังมีสิทธิเรียกค่าเช่าจากจำเลยได้ ไม่ต้องห้ามด้วยประมวลกฎหมายแพ่ง และพาณิชย์ มาตรา 538 อ้างฎีกาที่ 409/2496
ชั้นแรกจำเลยนำค่าเช่าไปชำระต่อโจทก์ครั้นครบกำหนด การเช่าตามสัญญาแล้ว จำเลยได้ส่งไปยังโจทก์ทางธนาณัติเพราะโจทก์ไม่ยอมรับค่าเช่าจากผู้เช่า โจทก์ทราบแต่ก็ไม่ยอมไปรับยังที่ทำการไปรษณีย์ดังนี้ จะถือว่าผู้เช่าเจตนาผิดนัดไม่ชำระค่าเช่ายังไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1090/2506

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาผิดนัดชำระค่าเช่า: แม้ส่งค่าเช่าทางธนาณัติ ผู้ให้เช่าไม่รับก็ยังไม่ถือว่าผิดนัด
จำเลยอยู่ในที่เช่าต่อมาเมื่อหมดอายุสัญญาแล้ว แม้ไม่ได้ทำหนังสือสัญญาเช่ากันใหม่ เมื่อโจทก์ผู้ให้เช่ายังมิได้รับค่าเช่า โจทก์ก็ยังมีสิทธิเรียกค่าเช่าจากจำเลยได้ ไม่ต้องห้ามด้วยประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 538 อ้างฎีกาที่ 409/2496
ชั้นแรกจำเลยนำค่าเช่าไปชำระต่อโจทก์ ครั้นครบกำหนดการเช่าตามสัญญาแล้ว จำเลยได้ส่งไปยังโจทก์ทางธนานัติเพราะโจทก์ไม่ยอมรับค่าเช่าจากผู้เช่า โจทก์ทราบแต่ก็ไม่ยอมไปรับยังที่ทำการไปรษณีย์ ดังนี้ จะถือว่าผู้เช่าเจตนาผิดนัดไม่ชำระค่าเช่ายังไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 8259/2559

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาผิดนัดชำระหนี้ตามสัญญาประนีประนอมยอมความ การบังคับคดีต้องพิจารณาพฤติการณ์โดยรวม
โจทก์กับจำเลยตกลงทำสัญญาประนีประนอมยอมความ ซึ่งศาลแรงงานกลางพิพากษาตามยอม โดยตกลงกันว่าจำเลยยอมชำระเงินจำนวนหนึ่งน้อยกว่ายอดเงินเต็มตามฟ้องแก่โจทก์ โดยแบ่งชำระ 6 งวด ตามกำหนด และจะชำระโดยวิธีโอนเงินเข้าบัญชีเงินฝากของโจทก์ หากจำเลยผิดนัดงวดหนึ่งงวดใดให้ถือว่าผิดนัดทั้งหมดยอมให้โจทก์บังคับคดีได้ทันทีในยอดเงินเต็มตามฟ้องพร้อมดอกเบี้ยนับแต่วันผิดนัดเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ การตีความว่าจำเลยจะต้องรับผิดชำระยอดเงินเต็มตามฟ้องจะต้องเป็นไปตามความประสงค์หรือเจตนาอันมีร่วมกันของคู่สัญญาซึ่งเป็นเจตนาที่คาดหมายในทางสุจริตโดยพิเคราะห์ถึงปกติประเพณีด้วยตาม ป.พ.พ. มาตรา 368 ดังนั้น คำว่า "จำเลยผิดนัดงวดใดงวดหนึ่ง" จึงหมายถึงกรณีจำเลยจงใจหรือเจตนาผิดนัดชำระหนี้แก่โจทก์
จำเลยชำระเงินให้แก่โจทก์ครบทั้ง 6 งวด ตามสัญญาประนีประนอมความที่ศาลแรงงานกลางพิพากษาตามยอม โดยการชำระเงินงวดที่ 1 ถึงที่ 4 ตรงตามกำหนด การชำระเงินงวดที่ 5 ถึงกำหนดวันอาทิตย์ จำเลยจึงชำระเงินแก่โจทก์โดยวิธีโอนเงินเข้าบัญชีของโจทก์ในวันจันทร์ และการชำระเงิน งวดสุดท้ายถึงกำหนดสิ้นเดือนเมษายน 2556 วันที่ 1 พฤษภาคม 2556 เป็นวันแรงงานแห่งชาติอันเป็นวันหยุดของสถานประกอบการของจำเลย จำเลยจึงโอนเงินงวดสุดท้ายให้โจทก์ในวันที่ 2 พฤษภาคม 2556 อันเป็นโอกาสแรกที่ทำได้ ซึ่งล่วงเลยเวลาที่กำหนดมาเพียง 2 วัน ดังนี้เมื่อพิเคราะห์พฤติการณ์การผ่อนชำระหนี้ของจำเลยโดยตลอดแล้ว ยังไม่เพียงพอที่จะแสดงให้เห็นว่าจำเลยจงใจหรือมีเจตนาผิดนัดชำระหนี้แก่โจทก์อันเป็นการปฏิบัติผิดสัญญาประนีประนอมยอมความ โจทก์จึงไม่มีสิทธิที่จะบังคับคดีในยอดเงินเต็มตามฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4023/2561

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาผิดนัดชำระหนี้ตามสัญญาประนีประนอมยอมความ ต้องพิจารณาพฤติการณ์โดยรวม ไม่ถือเป็นผิดนัดหากไม่มีเจตนา
ตามสัญญาประนีประนอมยอมความโจทก์ตกลงรับเงินจากจำเลย 100,000 บาท แบ่งชำระเป็น 2 งวด งวดละ 50,000 บาท งวดแรกชำระภายในวันที่ 10 สิงหาคม 2552 งวดที่สองชำระภายในวันที่ 24 สิงหาคม 2552 ส่วนข้อตกลงที่ว่าหากจำเลยผิดนัดงวดหนึ่งงวดใดให้ถือว่าผิดนัดทั้งหมดยอมให้โจทก์บังคับคดีได้ทันทีในยอดเงินเต็มตามฟ้อง (867,765.50 บาท) เป็นข้อตกลงที่มีลักษณะเป็นการบังคับจำเลยกรณีผิดนัดชำระหนี้ จึงต้องตีความสัญญาส่วนนี้ไปตามความประสงค์หรือเจตนาอันมีร่วมกันของคู่สัญญาซึ่งเป็นเจตนาที่คาดหมายในทางสุจริตโดยพิเคราะห์ถึงปกติประเพณีด้วยตาม ป.พ.พ. มาตรา 368 ดังนั้น คำว่าผิดนัดงวดหนึ่งงวดใดในสัญญาประนีประนอมยอมความฉบับนี้จึงหมายถึงกรณีจำเลยจงใจหรือเจตนาผิดนัดนั่นเอง จำเลยทำรายการโอนเงินเข้าบัญชีเงินฝากของโจทก์ในงวดที่หนึ่งเมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2552 กำหนดให้โอนเงินในวันที่ 10 สิงหาคม 2552 ทำรายการครั้งที่สองเมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2552 กำหนดให้โอนเงินในวันที่ 24 สิงหาคม 2552 โดยเป็นการทำรายการโอนเงินก่อนถึงกำหนดตามสัญญาประนีประนอมยอมความในแต่ละงวด ในวันที่ 10 สิงหาคม 2552 และวันที่ 24 สิงหาคม 2552 ซึ่งเป็นวันที่ถึงกำหนดชำระหนี้ตามสัญญาประนีประนอมยอมความในแต่ละงวดนั้น ธนาคารทำการหักเงินในบัญชีเงินฝากของจำเลยทันที พฤติการณ์ยังไม่เพียงพอที่จะแสดงให้เห็นว่าจำเลยจงใจหรือมีเจตนาผิดนัดชำระหนี้อันเป็นการปฏิบัติผิดสัญญาประนีประนอมยอมความ โจทก์จึงไม่มีสิทธิที่จะบังคับคดีในยอดเงินเต็มตามฟ้อง