พบผลลัพธ์ทั้งหมด 2 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 822/2538
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเลื่อนนัดโอนที่ดินหลายครั้งไม่ถือเป็นผิดสัญญา หากมีเหตุสุดวิสัยและคู่สัญญามีเจตนาผ่อนปรนซึ่งกันและกัน
โจทก์และจำเลยทั้งสองซึ่งเป็นคู่สัญญาได้ตกลงเลื่อนวันนัดจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินตามสัญญากันหลายครั้งสาเหตุของการเลื่อนวันนัดมีทั้งจากฝ่ายโจทก์บ้างและฝ่ายจำเลยทั้งสองบ้างแสดงว่าคู่สัญญาต่างฝ่ายต่างผ่อนปรนให้แก่กันโดยมิได้ถือปฏิบัติเคร่งครัดตามสัญญาเรื่องกำหนดเวลาโอนที่ดินพิพาทถือว่าโจทก์และจำเลยทั้งสองมิได้ถือเอาการชำระหนี้ภายในระยะเวลาที่กำหนดไว้ในสัญญาเป็นข้อสาระสำคัญดังนั้นการที่นาย ว. ผู้รับมอบอำนาจโจทก์ได้ไปพบกับจำเลยทั้งสองที่สำนักงานที่ดินจังหวัดนครนายกตามกำหนดวันนัดในสัญญาและได้จัดเตรียมแคชเชียร์เช็คและเงินสดสำหรับชำระค่าที่ดินส่วนที่เหลือให้แก่จำเลยทั้งสองแล้วแต่เกิดเหตุขัดข้องไม่สามารถโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินพิพาทได้เนื่องจากแคชเชียร์เช็คที่นาย ว. นำไปเกิดหายไปและขณะนั้นก็เป็นเวลาประมาณ16นาฬิกาใกล้เวลาเลิกทำงานของทางราชการย่อมไม่สามารถแก้ไขเหตุการณ์ได้ทันทั้งวันนัดโอนดังกล่าวก็เป็นวันศุกร์การที่โจทก์ขอเลื่อนการจดทะเบียนการโอนไปเป็นวันจันทร์ซึ่งเป็นวันเริ่มเปิดทำการใหม่ของทางราชการพออนุโลมได้ว่าเป็นพฤติการณ์ที่โจทก์ซึ่งเป็นลูกหนี้ไม่ต้องรับผิดชอบจึงถือไม่ได้ว่าโจทก์เป็นฝ่ายผิดนัดชำระหนี้จำเลยทั้งสองจะอ้างเหตุดังกล่าวว่าโจทก์เป็นฝ่ายผิดนัดและไม่ยอมโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินพิพาทให้แก่โจทก์หาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2566/2521
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาผ่อนปรนสัญญา, กำหนดเวลาขับไล่, การปฏิบัติหน้าที่ตามสัญญา, สัญญาก่อสร้าง
โจทก์จำเลยทำสัญญากันให้โจทก์ก่อสร้างตึกแถวยกกรรมสิทธิ์ให้จำเลยบนที่ดินของจำเลย โดยโจทก์มีสิทธิเรียกเงินช่วยค่าก่อสร้างจากผู้เช่า ตามสัญญาระบุว่า จำเลยรับผิดชอบขับไล่ผู้อยู่อาศัยในที่ดิน ซึ่งจำเลยชนะคดีแล้วโดยบังคับคดีภายใน 20 วันนับแต่วันทำสัญญา ดังนี้เมื่อเห็นได้ว่าการทำสัญญาระหว่างโจทก์จำเลยมิได้มุ่งถึงเรื่องเวลาเป็นข้อสาระสำคัญ หากแต่โจทก์จำเลยมีเจตนาผ่อนปรนซึ่งกันและกันตามสมควร กำหนดเวลาที่ว่าจำเลยต้องขับไล่ผู้แพ้คดีออกไปดังกล่าว จึงหมายความว่าจำเลยจะต้องดำเนินการบังคับคดีตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ภายใน 20 วันนับแต่วันทำสัญญา หาใช่จะต้องขับไล่บุคคลดังกล่าวออกไปโดยเด็ดขาดภายในกำหนด 20 วันนับแต่วันทำสัญญาไม่ ปรากฏว่าจำเลยได้ยื่นคำแถลงให้ศาลดำเนินการบังคับคดีแก่ผู้แพ้คดีซึ่งมีอยู่ 2 รายและผู้แพ้คดีรายหนึ่งออกไปจากที่ดินตั้งแต่ก่อนโจทก์จำเลยทำสัญญาก่อสร้างกัน ส่วนผู้แพ้คดีอีกรายหนึ่งออกไปหลังจากวันทำสัญญาก่อสร้างราว 5 เดือน ก่อนที่โจทก์จะต้องชำระค่าหน้าดินงวดที่สองให้จำเลยถือว่าจำเลยได้ปฏิบัติหน้าที่ตามสัญญาแล้ว ไม่เป็นฝ่ายผิดสัญญา