พบผลลัพธ์ทั้งหมด 3 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5034-5039/2533
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเปลี่ยนแปลงเสาเข็มในสัญญาจ้างก่อสร้าง: เจตนาของสัญญาและการหักเงินค่าจ้าง
การก่อสร้างปรับปรุงขยายการประปาจำเลยตามแบบแปลนและสัญญาต้องมีการเจาะสำรวจชั้นดินก่อน การก่อสร้างจะใช้เสาเข็มขนาดไหน จำนวนเท่าใดขึ้นอยู่กับผลการสำรวจ ตามรายการต่อท้ายสัญญาระบุว่า "การก่อสร้างฐานราก ของอาคารใดต้องใช้เสาเข็มชนิดที่สามารถรับน้ำหนักได้ตามกำหนดในแบบแปลน แต่เสาเข็มนั้นเป็นขนาดเล็กหรือจำนวนน้อยกว่าเกณฑ์ที่ผู้ว่าจ้างกำหนดเป็นมาตรฐานราคากลาง ในการนี้ผู้รับจ้างยินยอมให้ผู้ว่าจ้างหักเงินค่าจัดหารวมค่าตอกเข็มของอาคารนั้นออกเท่ากับจำนวนที่คำนวณได้จากสูตรที่กำหนดในเงื่อนไขการหักค่าเข็ม" ข้อสัญญานี้หมายความว่าถ้าผลสำเร็จในคุณภาพของงานที่จำเลยจะได้รับนั้นเท่าเดิมโดยโจทก์ต้องเสียค่าใช้จ่าย น้อยลงไปในการทำการงานส่วนนี้แล้ว ค่าจ้างจะต้องลดลงตามส่วนโดยคำนวณตามสูตรที่กำหนดไว้ ปรากฏว่าดินในที่ก่อสร้างเป็นดินแข็ง หากใช้เสาเข็มรูปตัวทีตามแบบเดิมเสาเข็มจะหัก โจทก์ต้องใช้เสาเข็มตัน และขนาดใหญ่กว่าแบบเดิม แต่มีจำนวนต้นน้อยกว่าโดยโจทก์จำเลยเห็นชอบแล้ว ทั้งราคาและค่าใช้จ่ายในการตอก เสาเข็มตัน ต่อต้นสูงกว่าเสาเข็มรูปตัวที การเปลี่ยนเสาเข็มดังกล่าวไม่เป็นกรณีทำให้ผลงานของจำเลยลดคุณภาพและทำให้โจทก์ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการ ทำงานน้อยลงไป กรณีจึงไม่อยู่ในเจตนารมณ์ของข้อสัญญาดังกล่าว
สูตรหักค่าเข็มคือ x =y - abel x คือ จำนวนเงินค่าเข็มที่จะหักออก a คือ จำนวนเสาเข็ม b คือ ความยาวเส้นรอบรูป c คือค่าที่กำหนดในตาราง 1 สูตรดังกล่าวต้องอยู่ภายในเงื่อนไข 2 ประการคือ โจทก์ต้องใช้เสาเข็มจำนวนเท่าเดิมและชนิดเดิม แต่ขนาดเล็กกว่าประการหนึ่ง หรือโจทก์ใช้เสาเข็มชนิดและขนาดเท่าเดิม แต่จำนวนต้นน้อยกว่าที่ระบุไว้แต่เดิมในสัญญาอีกประการหนึ่ง กรณีของโจทก์นั้นเสาเข็มที่ใช้เป็นเสาเข็มตัน และขนาดใหญ่กว่า เป็นการแตกต่างกันทั้งชนิดและขนาด เมื่อตอก แล้วจะรับน้ำหนักได้มากกว่าเดิมจากที่กำหนดไว้ในสัญญา จำเลยจึงไม่อาจจะนำเอาข้อกำหนดในรายการต่อท้ายสัญญาและสูตรหักค่าเข็มมาหักเงินค่าจ้างจากโจทก์ได้
สูตรหักค่าเข็มคือ x =y - abel x คือ จำนวนเงินค่าเข็มที่จะหักออก a คือ จำนวนเสาเข็ม b คือ ความยาวเส้นรอบรูป c คือค่าที่กำหนดในตาราง 1 สูตรดังกล่าวต้องอยู่ภายในเงื่อนไข 2 ประการคือ โจทก์ต้องใช้เสาเข็มจำนวนเท่าเดิมและชนิดเดิม แต่ขนาดเล็กกว่าประการหนึ่ง หรือโจทก์ใช้เสาเข็มชนิดและขนาดเท่าเดิม แต่จำนวนต้นน้อยกว่าที่ระบุไว้แต่เดิมในสัญญาอีกประการหนึ่ง กรณีของโจทก์นั้นเสาเข็มที่ใช้เป็นเสาเข็มตัน และขนาดใหญ่กว่า เป็นการแตกต่างกันทั้งชนิดและขนาด เมื่อตอก แล้วจะรับน้ำหนักได้มากกว่าเดิมจากที่กำหนดไว้ในสัญญา จำเลยจึงไม่อาจจะนำเอาข้อกำหนดในรายการต่อท้ายสัญญาและสูตรหักค่าเข็มมาหักเงินค่าจ้างจากโจทก์ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 59/2511 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาสัญญาสัญญาเช่าที่ดินกับการให้เช่าอาคาร สิทธิของผู้เช่าช่วง
แม้สัญญาเช่าระหว่างโจทก์จำเลยจะเรียกชื่อว่าสัญญาเช่าที่ดินก็จริง แต่ความมุ่งหมายในการทำสัญญาเช่าคู่สัญญามีเจตนาที่จะให้ผู้เช่าทำการปลูกสร้างอาคารบนที่ดิน (สัญญาข้อ 1) เมื่อปลูกเสร็จแล้วให้ตกเป็นกรรมสิทธิ์ของผู้ให้เช่าทันที (สัญญาข้อ 10) และสัญญาข้อ 5 มีข้อความว่า 'ห้ามมิให้ผู้เช่าเอาที่ดินไปให้บุคคลอื่นเช่าช่วง ฯลฯผู้เช่าย่อมมีสิทธิที่จะอยู่อาศัยหรือทำการค้าหรือให้บุคคลอื่นเช่าช่วงในอาคารที่ปลูกสร้างลงในที่ดินได้เสมอ' ดังนี้ ข้อสัญญาที่ให้อาคารซึ่งปลูกสร้างขึ้นตกเป็นของโจทก์ และโจทก์ยอมให้จำเลยให้เช่าช่วงอาคารนั้นย่อมแสดงว่าสัญญาเช่านี้แท้จริงเป็นสัญญาให้เช่าที่ดินรวมทั้งอาคารที่ตกเป็นของโจทก์ตามสัญญาข้อ10 นั้นด้วย ฉะนั้นที่โจทก์ฎีกาว่าจำเลยมีสิทธิให้เช่าได้เฉพาะที่ดินที่ปลูกตึกจึงขัดกับความในสัญญาข้อ 5 ที่ห้ามมิให้เช่าช่วงที่ดิน แต่ยอมให้เช่าช่วงอาคารได้ จำเลยร่วมผู้เช่าช่วงอาคารโดยชอบจึงหาได้อยู่ในฐานะบริวารหรือผู้อาศัยของจำเลยไม่เมื่อเป็นดังนี้ จำเลยร่วมมีข้อต่อสู้ที่จะคงอยู่ในอาคารประการใดก็เป็นเรื่องที่จะต้องฟังคำพยานของคู่ความต่อไป
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 175/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาสัญญากู้ vs. ขายพร้อมซื้อคืน หากไม่ใช้สิทธิภายในกำหนด ย่อมเสียสิทธิเรียกร้อง
หนังสือสัญญามีข้อความอ่านตามแบบพิมพ์เป็นสัญญากู้เงิน ถ้าอ่านตามตัวเขียนเป็นสัญญาซื้อขายมีกำหนดให้ไถ่ภายใน 1 ปี ดังนี้ คู่ความฝ่ายที่อ้างว่าเป็นสัญญาซื้อขายย่อมมีสิทธินำพยานมาสืบประกอบเพื่อให้เห็นว่าคู่สัญญามีเจตนาเป็นการขายโดยมีเงื่อนไขให้ซื้อคืนได้
ขายที่นามือเปล่าไม่มีหนังสือสำคัญให้เขาโดยมีเงื่อนไขให้ซื้อคืนได้ภายใน 1 ปี เมื่อมิได้ซื้อคืนตามกำหนด1 ปี เพิ่งจะมาขอคืนเมื่อเกิน 4 ปีแล้ว ถือว่ามีเจตนาสละการครอบครอง การครอบครองสิ้นสุดลงตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1377 ไม่มีสิทธิจะขอคืนได้
ขายที่นามือเปล่าไม่มีหนังสือสำคัญให้เขาโดยมีเงื่อนไขให้ซื้อคืนได้ภายใน 1 ปี เมื่อมิได้ซื้อคืนตามกำหนด1 ปี เพิ่งจะมาขอคืนเมื่อเกิน 4 ปีแล้ว ถือว่ามีเจตนาสละการครอบครอง การครอบครองสิ้นสุดลงตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1377 ไม่มีสิทธิจะขอคืนได้