คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
เจ้าของสัตว์

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 7 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 151/2505

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดทางอาญาเจ้าของสัตว์ดุ ปล่อยปละละเลยให้สัตว์ทำอันตรายผู้อื่น
ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 377 แบ่งสัตว์ไว้เป็น 2 พวกคำว่า 'สัตว์ร้ายหมายความว่าโดยธรรมชาติของสัตว์นั้นเองเป็นสัตว์ที่มีนิสัยทั้งดุและร้ายกาจเป็นปกติอยู่ในตัวและเป็นสัตว์ที่เป็นภัยอันตรายอันน่าสพึงกลัวต่อบุคคลผู้ได้พบเห็นเช่นเสือจรเข้ หรืองูพิษเป็นต้นส่วนคำว่า 'สัตว์ดุ' หมายความว่า โดยธรรมชาติของสัตว์นั้นเองมิใช่สัตว์ร้าย แต่อาจเป็นสัตว์ดุซึ่งเจ้าของจะต้องมีการควบคุมดูแลเป็นพิเศษผิดจากปกติธรรมดา โดยล่ามโซ่หรือขังกรงไว้ เช่น สุนัข เป็นต้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 867/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดเจ้าของสัตว์: ช้างตกมันอาละวาด - หน้าที่ในการระมัดระวัง
ตามมาตรา 433 ป.ม.แพ่ง ฯ เป็นหน้าที่ของผู้เป็นเจ้าของสัตว์จะพิสูจน์ว่า ได้ใช้ความระมัดระวังอันสมควรแก่การเลี้ยงสัตว์ การรักษาตามชะนิดและวิสัยของสัตว์
ช้างของจำเลยตกมันเต็มที่ ถ้าได้ยินเสียงคนเป็นไล่อาละวาดทันที ช้างของจำเลยได้เพ่นพ่านอยู่ในละแวกบ้านไม่น้อยกว่า 20 วัน จำเลยเป็นแต่คอยเฝ้าดูแลในเวลากลางวันห่าง ๆ เพราะเข้าใกล้ไม่ได้ ส่วนในเวลากลางคืนหาได้เฝ้าดูแลไม่ เมื่อปรากฎว่าช้างของจำเลยได้ทำร้ายผู้อื่นตาย จำเลยจึงได้ใช้วิธียิงขาช้างและจับได้ จะว่าจำเลยได้ใช้ความระมัดระวังอันสมควรแก่การเลี้ยงการรักษาตามชะนิดและวิสัยของสัตว์แล้วไม่ได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 867/2492

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดเจ้าของสัตว์: การพิสูจน์ความระมัดระวังในการเลี้ยงสัตว์อันตราย
ตามมาตรา 433 ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์เป็นหน้าที่ของผู้เป็นเจ้าของสัตว์จะพิสูจน์ว่า ได้ใช้ความระมัดระวังอันสมควรแก่การเลี้ยงสัตว์ การรักษาตามชนิดและวิสัยของสัตว์
ช้างของจำเลยตกมันเต็มที่ ถ้าได้ยินเสียงคนเป็นไล่อาละวาดทันทีช้างของจำเลยได้เพ่นพ่านอยู่ในละแวกบ้านไม่น้อยกว่า 20 วัน จำเลยเป็นแต่คอยเฝ้าดูแลในเวลากลางวันห่างๆ เพราะเข้าใกล้ไม่ได้ ส่วนในเวลากลางคืนหาได้เฝ้าดูแลไม่ เมื่อปรากฏว่าช้างของจำเลยได้ทำร้ายผู้อื่นตายจำเลยจึงได้ใช้วิธียิงขาช้างและจับได้ จะว่า จำเลยได้ใช้ความระมัดระวังอันสมควรแก่การเลี้ยงการรักษาตามชนิดและวิสัยของสัตว์แล้วไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 51/2491

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดชอบเจ้าของสัตว์ปล่อยเข้าทำลายทรัพย์สินผู้อื่น: การขาดความระมัดระวัง
การปล่อยให้ปศุสัตว์หรือสัตว์พาหนะเข้าในเรือกสวนไร่นาของผู้อื่น อันจะเป็นผิดตามกฎหมายอาญา มาตรา 340(1) นั้น หมายถึงการขาดความระมัดระวังดูแลสัตว์นั้นไว้เป็นเหตุให้สัตว์นั้นเข้าไป ถ้าเป็นการจงใจไล่ต้อนสัตว์เข้าไปทำอันตรายแก่พรรณไม้อันมีประโยชน์ในเรือกสวนไร่นาเขาเสียหายแล้ว ย่อมเป็นความผิดฐานทำให้เสียทรัพย์ตามมาตรา 324

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 239/2486 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดพ.ร.บ.โรคระบาดฯ เจ้าของสัตว์รู้โรค ถือเพียงพอ ไม่ต้องประกาศเขตโรคระบาด
ความผิดตามมาตรา 11 พ.ร.บ.โรคระบาด ฯลฯ 2474 นั้นโจทบันยายฟ้องแต่เพียงว่าเจ้าของสัตว์รู้ว่าสัตว์ของตนเปนโรคระบาดเท่านั้น ก็เปนการเพียงพอแล้ว ไม่จำต้องบันยายถึงว่าตำบนที่เกิดโรคระบาด ข้าหลวง ฯ ได้ ประกาสไห้ประชาชนซาบว่าเปนเขตตำบนที่มีโรคระบาดหรือสงสัยว่มีโรคระบาดแต่หย่างได

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1080/2473

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ซื้อขายโคที่ได้มาจากการกระทำผิด รวมเป็นความผิดฐานรับของโจร แม้ไม่ได้โอนทะเบียน
ซื้อขายโคไม่โอนทะเบียนคำว่าเจ้าของสัตว์หมายความถึงผู้ที่ได้มาโดยลักหรือยักยอกด้วย เทียบฎีกาที่ 110/2466 วิธีพิจารณาอาชญา ทำผิดกฎหมายหลายบทลงโทษบทที่หนัก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5197/2556

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดเจ้าของสัตว์: ต้องพิสูจน์การควบคุมดูแลและการปล่อยปละละเลย
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตาม พ.ร.บ.ทางหลวง พ.ศ.2535 มาตรา 46 วรรคหนึ่ง และ พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ.2522 มาตรา 111 ซึ่งบทบัญญัติทั้งสองมาตราดังกล่าวบัญญัติในทำนองเดียวกันว่า ผู้กระทำความผิดจะต้องเป็นผู้ที่ขี่ จูง ไล่ต้อน ปล่อย หรือเลี้ยงสัตว์บนทางหรือทางจราจร โดยไม่มีบทสันนิษฐานให้ถือว่าเจ้าของสัตว์เป็นผู้กระทำความผิด หรือบัญญัติให้เจ้าของสัตว์จะต้องรับผิดตามบทบัญญัติทั้งสองมาตราดังกล่าว แม้จะมิได้เป็นผู้ขี่ จูง ไล่ต้อน ปล่อยหรือเลี้ยงสัตว์ด้วยตนเองก็ตาม ดังนี้ นอกจากโจทก์มีหน้าที่ต้องนำสืบให้ได้ความว่าจำเลยเป็นเจ้าของโคตัวที่ก่อเหตุแล้ว โจทก์ยังต้องนำสืบให้เห็นว่า จำเลยเป็นผู้ควบคุมดูแลโคตัวดังกล่าวและปล่อยให้วิ่งขึ้นไปบนทางจราจรหรือจำเลยปล่อยให้โคเดินไปตามลำพังและวิ่งขึ้นไปบนทางจราจรโดยจำเลยมิได้ควบคุมดูแลหรือมอบหมายให้บุคคลใดช่วยควบคุมดูแล แต่ข้อเท็จจริงตามทางนำสืบโจทก์ไม่ปรากฏว่าจำเลยรู้เห็นเกี่ยวข้องกับการควบคุมดูแลโคในขณะเกิดเหตุอย่างไร และโจทก์มิได้นำสืบให้เห็นว่า มีบุคคลอื่นควบคุมดูแลโคแทนจำเลยหรือจำเลยมิได้ควบคุมดูแลโคของตนเองแต่ปล่อยให้โคเดินไปตามลำพังไปรวมกับฝูงโคของบุคคลอื่น พยานหลักฐานโจทก์จึงไม่พอให้รับฟังว่า จำเลยเป็นผู้ที่ขี่ จูง ไล่ต้อน ปล่อย หรือเลี้ยงสัตว์ บนทางหรือทางจราจรอันเป็นความผิดตามบทบัญญัติทั้งสองมาตราดังกล่าว