คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
เฉพาะหน้า

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 3 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 541/2511

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การป้องกันตัวตามกฎหมายอาญา: การใช้สัดส่วนในการป้องกันภัยอันตรายเฉพาะหน้า
ผู้ตายก่อเหตุขึ้นก่อน เมื่อถูกจำเลยต่อว่าและสงสัยว่าผู้ตายลักปลา โดยได้ด่าว่าจำเลยและแสดงอาการจะเข้าทำร้ายจำเลย. แม้จำเลยถ่อเรือหนีผู้ตายถ่อเรือไล่ตามจะทำร้ายจำเลยอีก. ครั้นตามไปทันผู้ตายได้ใช้ไม้ถ่อยาวประมาณ 1 วาเศษตีจำเลยก่อน. จำเลยยกไม้ถ่อขึ้นรับผู้ตายตีจำเลยอีกประมาณ 20 ที. จำเลยจึงตีตอบไปบ้างขณะตีกันจำเลยถูกผู้ตายตีที่ศีรษะด้านบนบวมปูดถูกหลังมือและนิ้วบวม หนังถลอก. และเมื่อผู้ตายตกลงไปยืนในน้ำซึ่งตั้งหลักได้ดีกว่าอยู่บนเรือได้ตีจำเลยอีกอย่างรุนแรงจนปลายไม้ถ่อของจำเลยหักหลุดกระเด็น และตีจำเลยจนเรือจำเลยล่ม. จำเลยตกลงไปในน้ำถ่อหลุดจากมือ. จำเลยจึงหยิบมีดสปริงซึ่งใบมีดยาวเท่านิ้วชี้ออกจากกระเป๋ากางเกงที่มีอยู่แทงผู้ตายไป. ดังนี้เมื่อผู้ตายก่อเหตุขึ้นก่อนทั้งจำเลยไม่มีโอกาสจะหลีกเลี่ยงจากการถูกทำร้ายได้.และไม่มีโอกาสจะเลือกอาวุธอื่นใดมาใช้ได้ทัน. การที่จำเลยแทงผู้ตายก็เพราะขณะนั้นจำเลยกำลังตกอยู่ในระหว่างภยันตรายร้ายแรงซึ่งเกิดเฉพาะหน้าอันเป็นเวลากระทันหันและพัวพันกันอยู่. ถ้าจำเลยไม่แทงผู้ตาย.จำเลยอาจถูกผู้ตายใช้ไม้ถ่อตีและแทงทำร้ายถึงตายได้. พฤติการณ์ดังกล่าวมีเหตุผลอันสมควร. การกระทำของจำเลยจึงเป็นการป้องกันตัวที่พอสมควรแก่เหตุโดยชอบด้วยกฎหมายตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา68.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1665/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การป้องกันตัวโดยชอบด้วยกฎหมาย: การใช้กำลังเพื่อป้องกันภัยอันตรายที่เกิดขึ้นเฉพาะหน้า
ผู้เสียหายมีรูปร่างใหญ่กว่าจำเลย เป็นฝ่ายรุกรานเข้ามาทำร้ายจำเลยก่อน จำเลยแย่งมีดจากผู้เสียหายก็แย่งไม่ได้ จึงคว้ามีดที่โต๊ะทำอิฐแทงผู้เสียหายไปหลายทีเพื่อป้องกันตัวให้พ้นอันตราย และการกระทำของจำเลยก็เกิดขึ้นโดยกะทันหันติดพันกันในขณะนั้นเอง จำเลยย่อมไม่มีโอกาสที่จะคิดเป็นอย่างอื่นนอกจากจะคิดป้องกันตัวให้พ้นอันตรายที่เกิดขึ้นเฉพาะหน้า ทั้งขณะที่จำเลยแทงผู้เสียหาย ภัยที่จำเลยอาจจะได้รับจากผู้เสียหายก็ยังไม่หมดไป ในขณะนั้นจำเลยก็ไม่รู้ว่าบาดแผลของผู้เสียหายนั้นจะถึงบาดเจ็บสาหัสจนไม่สามารถจะทำร้ายจำเลยได้อีกหรือไม่ การกระทำของจำเลยไม่เกินสมควรแก่เหตุ
การที่ผู้เสียหายเข้ามาจะทำร้ายจำเลยโดยละเมิดต่อกฎหมาย จำเลยย่อมมีอำนาจที่จะทำการป้องกันตัวได้โดยชอบด้วยกฎหมาย ไม่จำเป็นต้องวิ่งหนี

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 411/2490

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำเสนอซื้อขายเฉพาะหน้าและผลของการไม่สนองรับ รวมถึงการเสนอซื้อใหม่
คำเสนอที่มีข้อความว่า มีความประสงค์จะซื้อแร่ 60 ตัน แต่จะซื้อวันนี้เพียง 10 ตันนั้นถือว่าเป็นคำเสนอขอซื้อ 10 ตัน ส่วนอีก 50 ตันเป็นเพียงคำปรารภไม่ใช่คำเสนอและไม่ใช่คำมั่นจะซื้อ
มีหนังสือเสนอซื้อแร่ในวันนั้น ฝ่ายผู้ขายก็สนองรับขายในวันนั้นถือว่าเป็นคำเสนอแก่ผู้อยู่เฉพาะหน้า ซึ่งจะสนองรับได้แต่ ณ ที่นั้นเวลานั้นเท่านั้น คำเสนอในส่วนที่ไม่สนองรับก็ย่อมสิ้นผล
ฝ่ายผู้ขายมีหนังสือถึงฝ่ายผู้ซื้อว่าตามที่ตกลงขายแร่ให้ส่วนที่เหลือผู้ซื้อจะมารับเมื่อไร ซึ่งความจริงไม่มีการเสนอสนองทำสัญญาในแร่ส่วนนี้ ดั่งนี้ ไม่ถือว่าเป็นคำสนอง เป็นแต่กล่าวอ้างถึงสิ่งซึ่งไม่มีและในกรณีที่มีคำเสนออยู่ก่อน ก็ย่อมทำให้กลายเป็นคำเสนอขึ้นใหม่ตาม มาตรา 359 ไม่ได้
คนหนึ่งบอกขายทรัพย์อีกคนหนึ่งบอกว่า เต็มใจซื้อ แต่มีอุปสรรคหรือยังไม่มีเงินนั้น ไม่ถือว่าเป็นคำสนอง
โจทก์ฟ้องว่าโจทก์จำเลยทำสัญญาซื้อขายกันในเดือนกันยายนศาลจะตัดสินว่าทำสัญญาซื้อขายระหว่างโจทก์จำเลยเกิดขึ้นในเดือนอื่นไม่ได้เป็นการนอกฟ้องนอกประเด็น