พบผลลัพธ์ทั้งหมด 2 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3569/2534
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การประเมินภาษีเงินได้จากการเช่าทรัพย์สิน การเฉลี่ยรายได้ตามประกาศกระทรวงการคลัง และกรณีจำเป็นเพื่อประโยชน์ในการจัดเก็บภาษี
โจทก์ได้รับค่าตอบแทนในการจดทะเบียนสิทธิการเช่าตึกแถวโดยมีระยะเวลาการเช่าตั้งแต่ พ.ศ. 2524 ถึง พ.ศ. 2545 จำเลยที่ 1ยอมให้โจทก์เฉลี่ยเงินได้เป็นรายปีจนกว่าจะสิ้นระยะเวลาการเช่าตามประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง ผู้มีเงินได้จากการให้เช่าทรัพย์สินไม่ยื่นรายการเงินได้ให้ครบถ้วน ลงวันที่ 6 สิงหาคม 2499โจทก์ย่อมมีสิทธิที่จะเอาเงินได้ส่วนที่เฉลี่ยนั้นยื่นรายการเงินได้เมื่อถึงกำหนดแต่ละปี จำเลยจะให้โจทก์เสียภาษีเงินได้ทั้งหมดในคราวเดียวกันตามมาตรา 60 ทวิ แห่งประมวลรัษฎากร โดยอ้างเหตุว่า โจทก์ยื่นรายการเงินได้ปีก่อน ๆ ไม่ถูกต้อง เป็นการหลีกเลี่ยงหรือพยายามหลีกเลี่ยงภาษีอากร เงินได้จากการจดทะเบียนสิทธิการเช่ามีรอบระยะเวลาที่ต้องเสียภาษีนาน ไม่มีหลักประกันว่าจะเสียภาษีภายในกำหนดเวลาและครบถ้วนนั้น เมื่อข้อเท็จจริงปรากฏว่าโจทก์มีหลักทรัพย์และไม่ยากที่จะเรียกเก็บภาษี ทั้งได้เสนอหลักทรัพย์ที่จะประกันการเสียภาษีดังกล่าวสูงกว่าจำนวนภาษีที่จะต้องเสียมาก ย่อมเห็นได้ว่าสามารถเรียกเก็บภาษีจากโจทก์ได้แน่นอน ส่วนการหลีกเลี่ยงภาษีอากรโดยยื่นรายการภาษีในปีก่อน ๆ ไม่ถูกต้องนั้น โจทก์จะต้องรับผิดในเรื่องเงินเพิ่มหรือเบี้ยปรับอยู่แล้ว เหตุต่าง ๆดังที่จำเลยอ้างจึงมิใช่กรณีจำเป็นเพื่อประโยชน์ในการจัดเก็บภาษีตามมาตรา 60 ทวิแห่งประมวลรัษฎากร.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3550/2528 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การประเมินภาษีล่วงหน้าขัดต่อประกาศกระทรวงการคลังที่อนุญาตให้เฉลี่ยรายได้จากสัญญาเช่า
โจทก์ทำสัญญาให้เช่าตึกแถวมีกำหนด 18 ปี ได้รับเงินกินเปล่า จำนวนหนึ่ง ได้เฉลี่ยเงินกินเปล่าตามส่วนแบ่งจำนวนปีของอายุการเช่าตามประกาศของกระทรวงการคลังซึ่งออกมาเพื่อแบ่งเบาภาระของผู้เสียภาษีประการหนึ่งและเปิดโอกาสให้ประชาชนผู้มีเงินได้จัดการเสียภาษีโดยถูกต้องตามกฎหมายไม่ปิดบังประการหนึ่ง แล้วนำเงินเฉลี่ยดังกล่าวไปคำนวณเป็นเงินได้สุทธิของโจทก์เพื่อเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลเป็นรายปีมา 2 ปีแล้ว แสดงว่าเจ้าพนักงานประเมินของกรมสรรพากรจำเลยที่1 อนุญาตให้โจทก์ยื่นรายการเงินได้เพื่อเสียภาษีตามประกาศกระทรวงการคลัง เรื่องผู้มีเงินได้จากการให้เช่าไม่ยื่นรายการเงินได้ให้ครบถ้วนแล้ว การที่จำเลยที่ 1 และเจ้าพนักงานประเมินจำเลยที่ 2 จะอาศัยอำนาจ ตามประมวลรัษฎากร มาตรา 18 ทวิ มาบังคับโจทก์โดยประเมินเรียกเก็บ ภาษีโจทก์ล่วงหน้าก่อนถึงกำหนดเวลายื่นรายการเงินได้โดยอ้างว่าโจทก์มีฐานะเป็นนิติบุคคลไม่มีความแน่นอนว่าจะสิ้นสภาพนิติบุคคลหรือเลิกประกอบกิจการเมื่อใดและจะมีความสามารในการเสียภาษีอากรตลอดไปหรือไม่เพราะระยะเวลาการเสียภาษีตามอายุสัญญาเช่านานถึง 16 ปี ไม่มีหลักประกันแน่นอนเกี่ยวกับภาระหน้าที่ของโจทก์ในการเสียภาษี กรณีเช่นนี้ ไม่ถือว่าเป็นกรณีจำเป็นเพื่อรักษาประโยชน์ในการจัดเก็บภาษีอากรตามมาตรา 18 ทวิ เจ้าพนักงานประเมินไม่มีอำนาจเรียกเก็บภาษีก่อนถึงกำหนดเวลายื่นรายการได้