คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
เช่าปากเปล่า

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 4 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3272/2530

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องขับไล่จากการเช่าปากเปล่า: ฟ้องไม่เคลือบคลุมหรือไม่?
ฟ้องโจทก์ตั้งสภาพข้อกล่าวหาว่าจำเลยอยู่อาศัยบ้านพิพาทของโจทก์โดยการเช่าไม่มีลายลักษณ์อักษร และไม่มีกำหนดระยะเวลา โจทก์ประสงค์จะใช้ประโยชน์เอง บอกกล่าวให้จำเลยและบริวารขนย้ายทรัพย์สินออก จำเลยและบริวารไม่ออกทำให้โจทก์เสียหาย ขอให้ขับไล่จำเลยและให้จำเลยใช้ค่าเสียหายโดยเปรียบเทียบเป็นอัตราค่าเช่าขณะยื่นฟ้อง ดังนี้ ไม่ใช่ฟ้องตามสัญญาเช่า โจทก์ไม่ต้องบรรยายฟ้องว่า มีข้อสัญญาว่าจำเลยชำระเงินค่าเช่าวิธีใด อย่างไร ผิดนัดค่าเช่าอย่างไร เป็นฟ้องซึ่งบรรยายแจ้งชัดซึ่งสภาพแห่งข้อหา คำขอบังคับและข้ออ้างเป็นที่อาศัยแห่งข้อหา ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 172 แล้ว ฟ้องโจทก์ไม่เคลือบคลุม.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2802/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแบ่งแยกกรรมสิทธิ์ที่ดินและการเช่าปากเปล่า ศาลมีอำนาจงดสืบพยานและพิพากษาคดีได้
โจทก์จำเลยแถลงรับกันว่าที่พิพาทได้แบ่งแยกกรรมสิทธิ์ออกโฉนดเป็นส่วนสัดแล้วจำเลยไม่โต้แย้งกรรมสิทธิ์ของโจทก์ จำเลยเป็นผู้อาศัยอยู่ในที่พิพาท ประสงค์จะขอทำกินต่อไปอีก 5 ปี โจทก์ไม่ยินยอม คำแถลงของโจทก์จำเลยตามที่ศาลชั้นต้นจดไว้ในรายงานกระบวนพิจารณาดังกล่าว มิใช่เป็นการแถลงข้อเท็จจริงเพื่อประโยชน์ที่จะทำการเปรียบเทียบให้คู่ความได้ตกลงหรือประนีประนอมยอมความกันในข้อพิพาทตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 20 เท่านั้น แต่เป็นการแถลงรับข้อเท็จจริงบางประการอันเป็นประเด็นข้อพิพาทเมื่อศาลเห็นว่าข้อเท็จจริงฟังเป็นยุติไม่จำต้องสืบพยานโจทก์จำเลยต่อไป ก็ย่อมมีอำนาจที่จะสั่งงดสืบพยานโจทก์จำเลยและพิพากษาคดีไปได้
จำเลยให้การต่อสู้คดีว่ามีสิทธิเหนือพื้นดินในที่พิพาทโดยให้ค่าตอบแทนโจทก์เป็นรายปี เท่ากับเป็นเรื่องจำเลยเช่าที่พิพาทของโจทก์ เมื่อการเช่าไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือแม้จำเลยจะกล่าวอ้างว่าโจทก์ยอมให้อยู่ในที่พิพาทอีก 15 ปีก็ตามจำเลยก็ไม่อาจยกสิทธิที่เกี่ยวกับสัญญาเช่าขึ้นต่อสู้โจทก์ผู้ให้เช่าได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 538 การที่จำเลยอาศัยอยู่ในที่พิพาทจึงเป็นการละเมิดสิทธิของโจทก์ โจทก์มีสิทธิฟ้องขับไล่จำเลยได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1817/2505

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาประนีประนอมยอมความและการเช่าปากเปล่า: สิทธิในการครอบครองตึก
โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยจากตึกที่เช่า แล้วโจทก์จำเลยทำยอมความกัน โดยจำเลยยอมออกจากตึกพิพาท ครั้นถึงกำหนดแล้วจำเลยก็ไม่ยอมออกไป โจทก์ร้องขอให้จับจำเลยมาจำขังไว้จนกว่าจะยอมปฏิบัติตามคำพิพากษา จำเลยแก้ตัวว่า สัญญาประนีประนอมยอมความนั้นได้ระงับไปแล้ว เพราะโจทก์จำเลยได้ทำความตกลงกันใหม่ โดยโจทก์ยินยอมให้จำเลยเช่าตึกพิพาทต่อไป แต่เป็นการตกลงกันด้วยปาก ไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือ ฝ่ายโจทก์แถลงว่าไม่ได้ให้เช่าใหม่ ดังนี้ แม้จะได้ความตามที่จำเลยแก้ตัว จำเลยก็ไม่อาจจะขอให้บังคับโจทก์ให้ยอมให้จำเลยเช่าได้ จำเลยไม่มีสิทธิจะอยู่ในตึกพิพาทได้ ศาลไม่จำต้องไต่สวนตามข้อแก้ตัวซึ่งไม่มีผลนี้ และมีคำสั่งให้จำเลยออกไปได้เลยทีเดียว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 561/2495

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาเช่าปากเปล่ามีหลักฐานเป็นหนังสือได้
เช่านากันด้วยปากเปล่าภายหลัง เกิดพิพาทกันถึงอำเภอปลัดอำเภอได้เปรียบเทียบและบันทึกการเปรียบเทียบไว้ว่าผู้เช่าได้เช่านาจากผู้ให้เช่าเป็นอัตราค่าเช่าเท่านั้นเท่านี้จริง แล้วผู้เช่าได้ลงชื่อไว้ในบันทึกการเปรียบเทียบนั้น ดังนี้ย่อมถือได้ว่าบันทึกการเปรียบเทียบนั้น เป็นหลักฐานเป็นหนังสือลงลายมือชื่อผู้ต้องรับผิด ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 538แล้ว ผู้ให้เช่าย่อมฟ้องผู้เช่าให้ชำระค่าเช่าได้