พบผลลัพธ์ทั้งหมด 3 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 574-580/2516 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาเช่าแผงลอย การบอกเลิกสัญญา และอำนาจฟ้องคดี
จำเลยเช่าแผงลอยของโจทก์ประกอบการค้า และเสียเงินให้โจทก์ 2,000 บาท ขณะที่จำเลยมาเช่า โจทก์มีแผงลอยพร้อมอยู่แล้ว ไม่จำต้องก่อสร้างขึ้นอีกแต่อย่างใด ที่จำเลยเสียเงินให้โจทก์ ก็ได้รับประโยชน์โดยโจทก์เก็บค่าเช่าถูกกว่าผู้เช่าที่มิได้เสียเงินเงินที่จำเลยเสียให้โจทก์นั้นจึงเป็นเงินประเภทเดียวกับเงินกินเปล่าอันเป็นค่าเช่าส่วนหนึ่ง. หาทำให้สัญญาเช่าระหว่างโจทก์จำเลยเป็นสัญญาต่างตอบแทนยิ่งกว่าสัญญาเช่าธรรมดาไม่
เจ้าอาวาสวัดโจทก์ทำหนังสือมอบอำนาจให้ผู้รับมอบอำนาจดำเนินคดีแทนวัดโจทก์ มิใช่มอบอำนาจเป็นการส่วนตัว ดังนั้นแม้ภายหลังเจ้าอาวาสผู้มอบอำนาจจะถึงแก่มรณภาพลงก็หาทำให้ฐานะของผู้รับมอบอำนาจนั้นเสียไปไม่ จึงไม่จำต้องมีการมอบอำนาจกันใหม่อีก
ข้อฎีกาที่ว่า โจทก์ที่ 1 ตั้งตัวแทนทำสัญญากับโจทก์ที่ 2โดยไม่มีใบมอบอำนาจเป็นหนังสือ ไม่ชอบด้วยกฎหมายนั้นไม่ใช่ปัญหาเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชนเมื่อมิได้ยกขึ้นว่ากล่าวมาตั้งแต่ในศาลชั้นต้น ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย (อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 130/2486)
เมื่อจำเลยหมดสิทธิที่จะเช่าและใช้ประโยชน์ในแผงลอยของโจทก์ที่ 1 ต่อไป และไม่มีนิติสัมพันธ์อย่างใดต่อกันอีกการที่โจทก์ที่ 1 ทำสัญญาให้โจทก์ที่ 2 รื้อแผงลอยและสร้างอาคารพาณิชย์ขึ้นใหม่ จะเป็นการชอบและมีอำนาจทำได้หรือไม่เป็นเรื่องระหว่างโจทก์กับกรมการศาสนาและมหาเถรสมาคมที่จะว่ากล่าวกันเอง หาทำให้จำเลยมีสิทธิใช้ประโยชน์ในแผงลอยต่อไปอีกไม่ ฉะนั้น ข้อที่จำเลยฎีกาว่าโจทก์ที่ 1 ไม่มีอำนาจทำสัญญากับโจทก์ที่ 2 จึงไม่เป็นสาระแก่คดีที่ควรได้รับการวินิจฉัย
เจ้าอาวาสวัดโจทก์ทำหนังสือมอบอำนาจให้ผู้รับมอบอำนาจดำเนินคดีแทนวัดโจทก์ มิใช่มอบอำนาจเป็นการส่วนตัว ดังนั้นแม้ภายหลังเจ้าอาวาสผู้มอบอำนาจจะถึงแก่มรณภาพลงก็หาทำให้ฐานะของผู้รับมอบอำนาจนั้นเสียไปไม่ จึงไม่จำต้องมีการมอบอำนาจกันใหม่อีก
ข้อฎีกาที่ว่า โจทก์ที่ 1 ตั้งตัวแทนทำสัญญากับโจทก์ที่ 2โดยไม่มีใบมอบอำนาจเป็นหนังสือ ไม่ชอบด้วยกฎหมายนั้นไม่ใช่ปัญหาเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชนเมื่อมิได้ยกขึ้นว่ากล่าวมาตั้งแต่ในศาลชั้นต้น ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย (อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 130/2486)
เมื่อจำเลยหมดสิทธิที่จะเช่าและใช้ประโยชน์ในแผงลอยของโจทก์ที่ 1 ต่อไป และไม่มีนิติสัมพันธ์อย่างใดต่อกันอีกการที่โจทก์ที่ 1 ทำสัญญาให้โจทก์ที่ 2 รื้อแผงลอยและสร้างอาคารพาณิชย์ขึ้นใหม่ จะเป็นการชอบและมีอำนาจทำได้หรือไม่เป็นเรื่องระหว่างโจทก์กับกรมการศาสนาและมหาเถรสมาคมที่จะว่ากล่าวกันเอง หาทำให้จำเลยมีสิทธิใช้ประโยชน์ในแผงลอยต่อไปอีกไม่ ฉะนั้น ข้อที่จำเลยฎีกาว่าโจทก์ที่ 1 ไม่มีอำนาจทำสัญญากับโจทก์ที่ 2 จึงไม่เป็นสาระแก่คดีที่ควรได้รับการวินิจฉัย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 287/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเช่าแผงลอยเพื่อขายอาหาร ไม่ถือเป็นการเช่าเพื่ออยู่อาศัย จึงไม่ได้รับความคุ้มครองตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า
เช่าแผงลอยเป็นที่ขายข้าวต้ม ตั้งอยู่ที่ทางเข้าออกโรงงิ้ว มีสิ่งของสำหรับวางเครื่องขายข้าวต้ม ดังนี้ไม่มีทางจะเห็นได้ว่าใช้เป็นที่อยู่อาศัย จึงย่อมไม่ได้รับความคุ้มครองตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า ฯลฯ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 287/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เช่าแผงลอยขายข้าวต้ม ไม่ถือเป็นที่อยู่อาศัย ไม่คุ้มครองตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า
เช่าแผงลอยเป็นที่ขายข้าวต้ม ตั้งอยู่ที่ทางเข้าออกโรงงิ้วมีสิ่งของสำหรับวางเครื่องขายข้าวต้มดังนี้ ไม่มีทางจะเห็นได้ว่าใช้เป็นที่อยู่อาศัยจึงย่อมไม่ได้รับความคุ้มครองตาม พระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าฯลฯ