คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
เดินเรือ

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 17 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5668/2538 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเดินเรือโดยไม่ได้รับอนุญาตละเมิดสิทธิผู้ได้รับอนุญาตก่อน
จำเลยเพียงแต่ได้รับอนุญาตให้ใช้เรือกลจากกรมเจ้าท่า และอยู่ในระหว่างยื่นเรื่องราวขออนุญาตเดินเรือกลประจำทางในเส้นทางพิพาทต่อกรมเจ้าท่าเพื่อประกอบกิจการเดินเรือกลรับส่งคนโดยสาร แต่ยังมิได้รับอนุญาตให้เดินเรือกลประจำทางได้ในเส้นทางเดินเรือเดียวกับโจทก์และทับเส้นทางที่โจทก์เดินเรือ ใช้ท่าเรือร่วมกันบางท่าและเก็บค่าโดยสารเช่นเดียวกับโจทก์เป็นการกระทำโดยผิดกฎหมายและจงใจให้เกิดความเสียหายแก่โจทก์ เป็นการละเมิดต่อโจทก์ตาม ป.พ.พ. มาตรา 420
จำเลยเพียงแต่มีสิทธิเดินเรือกลตามปกติในลำน้ำเจ้าพระยาตามที่ได้รับอนุญาตให้ใช้เรือกลในลำน้ำเจ้าพระยาเท่านั้น ตราบใดที่ยังไม่ได้รับอนุญาตให้เดินเรือกลประจำทางจากกรมเจ้าท่า จำเลยหามีสิทธิรับส่งคนโดยสารในเส้นทางเช่นเดียวกับโจทก์ที่ได้รับอนุญาตจากกรมเจ้าท่าให้เดินเรือก่อนและเรือด่วนพิเศษไม่ เพราะเป็นการโต้แย้งสิทธิของโจทก์ โจทก์มีสิทธิห้ามจำเลยกระทำการดังกล่าวได้ตลอดระยะเวลาที่จำเลยยังมิได้รับอนุญาตจากกรมเจ้าท่ากรณีดังกล่าวหาเป็นเรื่องระหว่างจำเลยและกรมเจ้าท่าไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5668/2538

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเดินเรือกลโดยไม่ได้รับอนุญาต ก่อให้เกิดละเมิดต่อผู้มีสิทธิเดินเรือเดิม
จำเลยเพียงแต่ได้รับอนุญาตให้ใช้เรือกลจากกรมเจ้าท่าและอยู่ในระหว่างยื่นเรื่องราวขออนุญาตเดินเรือกลประจำทางในเส้นทางพิพาทต่อกรมเจ้าท่าเพื่อประกอบกิจการเดินเรือกลรับส่งคนโดยสารแต่ยังมิได้รับอนุญาตให้เดินเรือกลประจำทางได้ในเส้นทางเดินเรือเดียวกับโจทก์และทับเส้นทางที่โจทก์เดินเรือใช้ท่าเรือร่วมกันบางส่วนและเก็บค่าโดยสารเช่นเดียวกับโจทก์เป็นการกระทำโดยผิดกฎหมายและจงใจให้เกิดความเสียหายแก่โจทก์เป็นการละเมิดต่อโจทก์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา420 จำเลยเพียงแต่มีสิทธิเดินเรือกลตามปกติในลำน้ำเจ้าพระยาตามที่ได้รับอนุญาตให้ใช้เรือกลในลำน้ำเจ้าพระยาเท่านั้นตราบใดที่ยังไม่ได้รับอนุญาตให้เดินเรือกลประจำทางจากกรมเจ้าท่าจำเลยหามีสิทธิรับส่งคนโดยสารในเส้นทางเช่นเดียวกับโจทก์ที่ได้รับอนุญาตจากกรมเจ้าท่าให้เดินเรือก่อนและเรือด่วนพิเศษไม่เพราะเป็นการโต้แย้งสิทธิของโจทก์โจทก์มีสิทธิห้ามจำเลยกระทำการดังกล่าวได้ตลอดระยะเวลาที่จำเลยยังมิได้รับอนุญาตจากกรมเจ้าท่ากรณีดังกล่าวหาเป็นเรื่องระหว่างจำเลยและกรมเจ้าท่าไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3088/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความฟ้องละเมิดจากการเดินเรือ: ใช้ พ.ร.บ.แพ่งฯ มาตรา 448 แทน พ.ร.บ.เดินเรือ และประเด็นความประมาทเลินเล่อของผู้ควบคุมเรือ
อายุความฟ้องเรียกค่าเสียหายในมูลละเมิดตามพระราชบัญญัติการเดินเรือในน่านน้ำไทย ฯลฯ ซึ่งมีกำหนด 6 เดือนถูกยกเลิกโดยประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 3 จึงต้องใช้อายุความ 1 ปี ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 448 เป็นบทบังคับ
จำเลยที่ 1 เป็นผู้นำร่องเรือเดินสมุทร ซึ่งนายเรือต้องปฏิบัติหน้าที่ตามคำสั่งของจำเลยที่ 1 ในการนำร่อง จำเลยที่ 1 จึงเป็นผู้ควบคุมยานพาหนะอันเกิดด้วยเครื่องจักรกลตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 437 เมื่อจำเลยที่ 1 สั่งให้นายเรือเลี้ยวขวาเพื่อทอดสมอโดยยังไม่พ้นเรือโจทก์ที่จอดอยู่ เป็นเหตุให้เรือที่จำเลยที่ 1 เป็นผู้นำร่องโดนเรือโจทก์เสียหาย ซึ่งหากจำเลยที่ 1 สั่งให้แล่นไปให้พ้นเสียก่อนแล้วจึงเลี้ยวขวาเพื่อทอดสมอก็จะไม่เกิดเหตุขึ้น จึงเป็นการไม่ปฏิบัติหน้าที่ตามกฎกระทรวงออกตามความในพระราชบัญญัติการเดินเรือในน่านน้ำไทย ฯลฯ ซึ่งกำหนดให้ผู้นำร่องต้องใช้ความระมัดระวังมากที่สุดเพื่อป้องกันความเสียหายและถือได้ว่าจำเลยที่ 1 ไม่ใช้ความช่ำชองในวิชาการเรือซึ่งตนมีอยู่ จำเลยที่ 1 จึงเป็นผู้ประมาทเลินเล่อ แม้เรือโจทก์จะจอดเทียบเป็นลำที่ 3 ซึ่งฝ่าฝืนกฎหมายก็มิใช่ผลโดยตรงที่ก่อให้เรือโดนกัน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1727/2503

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความประมาทในการเดินเรือ: การชนเรือเนื่องจากเรืออีกฝ่ายเดินผิดทางและบรรทุกเกินอัตรา
เรือยนต์จำเลยแล่นทวนน้ำแอบฝั่งขวาของคลองโดยถูกต้องตามกฎหมาย เรือยนต์อีกลำหนึ่งแล่นตามน้ำสวนมาในเส้นทางเดินเรือของจำเลย บรรทุกคนโดยสารเกินอัตรามากแล้วเกิดชนกันในเวลาค่ำมืดในเส้นทางของเรือจำเลยโดยเรือจำเลยไม่สามารถหลบหลีกได้ หัวเรือจำเลยชนถูกผู้โดยสารในเรือที่แล่นมาผิดทางถึงตาย ดังนี้ถึงแม้เรือจำเลยไม่ได้จุดโคมไฟ จำเลยก็ไม่ผิดฐานทำให้คนตายโดยประมาท

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 139/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ตัวแทนบริษัทเดินเรือต่างประเทศไม่ต้องรับผิดต่อความเสียหายจากการเดินเรือ หากไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการบังคับการเรือ
จำเลยเป็นตัวแทนของบริษัทซึ่งอยู่ต่างประเทศในการจัดบรรทุกสินค้าเมื่อเรือของบริษัทนั้นเข้ามาในประเทศไทยและมีหน้าที่ต่าง ๆ เกี่ยวกับสินค้าที่บรรทุกส่งออกไป จำเลยไม่ได้ร่วมกับบริษัทนั้นจัดเรือเดินรับส่งสินค้าและไม่ได้เป็นผู้จัดการรับผิดเกี่ยวกับการเดินเรือเข้ามาในประเทศไทย การเดินเรืออยู่ในบังคับบัญชารับผิดชอบของผู้บังคับการเรือนั้น ไม่ได้เกี่ยวกับจำเลย เมื่อใบจักรของเรือนั้นหมุนฟันท้ายเรือของโจทก์แตกและจมลง จำเลยก็ไม่ต้องร่วมรับผิดด้วย.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 139/2502

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ตัวแทนเรือต่างประเทศไม่ต้องรับผิดชอบความเสียหายจากการเดินเรือ หากไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการจัดการเดินเรือโดยตรง
จำเลยเป็นตัวแทนของบริษัทซึ่งอยู่ต่างประเทศในการจัดบรรทุกสินค้าเมื่อเรือของบริษัทนั้นเข้ามาในประเทศไทยและมีหน้าที่ต่างๆ เกี่ยวกับสินค้าที่บรรทุกส่งออกไป จำเลยไม่ได้ร่วมกับบริษัทนั้นจัดเรือเดินรับส่งสินค้าและไม่ได้เป็นผู้จัดการรับผิดเกี่ยวกับการเดินเรือเข้ามาในประเทศไทยการเดินเรืออยู่ในบังคับบัญชารับผิดชอบของผู้บังคับการเรือนั้น ไม่ได้เกี่ยวกับจำเลยเมื่อใบจักรของเรือนั้นหมุนฟันท้ายเรือของโจทก์แตกและจมลง จำเลยก็ไม่ต้องร่วมรับผิดด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1429/2498 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบรรยายฟ้องความประมาทเลินเล่อในการเดินเรือ การระบุผู้กระทำผิดและเหตุแห่งความเสียหายเพียงพอต่อการฟ้อง
โจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยที่ 3 ซึ่งเป็นนายท้ายได้ให้จำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นช่างเครื่องถือพวงมาลัยแทนเรือจึงได้ชนท้ายเรือโจทก์เสียหายเช่นนี้เป็นฟ้องที่ชัดแจ้งแล้ว ไม่จำต้องบรรยายด้วยว่าจำเลยที่ 2 ได้ประมาทอย่างไร เรือจำเลยจึงได้ชนเรือโจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1429/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบรรยายฟ้องความประมาทเลินเล่อในการเดินเรือ การระบุผู้กระทำและพฤติการณ์ที่ชัดเจนถือเป็นฟ้องที่ชัดแจ้ง
โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยที่ 3 ซึ่งเป็นนายท้ายได้ให้จำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นช่างเครื่องถือพวงมาลัยแทน เรือจึงได้ชนท้ายเรือโจทก์เสียหาย เช่นนี้เป็นฟ้องที่ชัดแจ้งแล้วไม่จำต้องบรรยายด้วยว่าจำเลยที่ 2 ได้ประมาทอย่างไรเรือจำเลยจึงได้ชนเรือโจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1247-1248/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความฟ้องคดีความเสียหายจากการเดินเรือ: การยกข้อต่อสู้หลังการสืบพยาน
ข้อต่อสู้ของจำเลยที่ว่าคดีโจทก์ขาดอายุความตาม พ.ร.บ.การเดินเรือในน่านน้ำไทย พ.ศ.2456 ม.308 นั้น ไม่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชน จำเลยจะยกขึ้นต่อสู้หลังจากวันชี้สองสถานและสืบพยานโจทก์ไปแล้วไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1173/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ใบอนุญาตขนย้ายข้าวและการเดินเรือในเวลากลางคืน: การตีความเงื่อนไขใบอนุญาตและการปฏิบัติตามประกาศ
จำเลยได้รับอนุญาตให้ขนย้ายข้าวจากอำเภอพานทอง จังหวัดชลบุรีไปยังจังหวัดพระนครโดยยานพาหนะเรือบันทุกตามใบอนุญาต ๆ ให้ขนย้ายได้ภายใน 10 วัน ในวันที่ออกใบอนุญาตเวลาประมาณ 15 ถึง 16 น. ปลัดอำเภอได้ไปตรวจดูการขนย้ายจากโรงสีลงเรือกระแชงซึ่งจอดอยู่หน้าโรงสีเมื่อการขนถ้ายข้าวลงเรือเสร็จแล้ว ปลัดอำเภอได้ออกใบอนุญาตให้ขนย้ายข้าวได้ แต่น้ำในคลองแห้ง จึงยังออกเรือไม่ได้ จนเวลากลางคืนประมาณ 3.00 น. น้ำขึ้นเรือจึงออกได้ แล้วก็ถูกจับ ดังนี้ เมื่อปรากฎว่าการขนข้าวจากอำเภอพานทองไปยังกรุงเทพฯ จะต้องใช้เวลากลางวันและกลางคืน รวม 4 วัน 4 คืน หากจะเดินเรือฉะเพาะกลางวันจะต้องใช้เวลาถึง 15 -16 วัน ปลัดอำเภอผู้ออกใบอนุญาตก็ทราบเหตุนี้ ก่อนออกใบอนุญาตก็หาได้ห้ามปรามหรือตักเตือนมิให้เดินเรือในเวลากลางคืนไม่ และในใบอนุญาตก็หามีข้อความห้ามมิให้เดินเรือในเวลากลางคืนไม่ ตามเหตุผลจะชี้ขาดว่าจำเลยบังอาจฝ่าฝืนประกาศคำสั่งห้ามขนย้ายข้าวในเวลากลางคืนยังไม่ได้.
of 2