พบผลลัพธ์ทั้งหมด 8 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 9558/2542
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาเตรียมอาวุธและร่วมกันไปก่อเหตุ ถือเป็นตัวการร่วมในความผิดฐานฆ่าผู้อื่น แม้ไม่ได้ลงมือยิงเอง
จำเลยที่ 2 กับพวกเตรียมอาวุธปืนพกให้จำเลยที่ 1 พาติดตัวไปแล้วเดินทางไปที่เกิดเหตุด้วยกันโดยเจตนาจะไปวิวาทกับผู้เสียหายกับพวก ถือได้ว่าจำเลยที่ 2 กับพวกมีเจตนาใช้อาวุธปืนนั้นในการวิวาทเมื่อพวกของจำเลยทั้งสองเข้าชกต่อยกับผู้เสียหายและพวก จำเลยที่ 2ก็ยืนอยู่กับจำเลยที่ 1 และการที่จำเลยที่ 1 ใช้อาวุธปืนพกที่เตรียมมายิงผู้เสียหายกับพวกก็อยู่ในความรู้เห็นของจำเลยที่ 2 แล้วจำเลยที่ 2ยังหลบหนีไปกับจำเลยที่ 1 และพวก แม้จำเลยที่ 2 จะไม่ได้ร่วมชกต่อยและใช้อาวุธปืนยิงผู้เสียหายกับพวก แต่จำเลยที่ 2 อยู่ในที่เกิดเหตุใกล้ชิดเพียงพอที่จะช่วยเหลือได้ ถือว่าจำเลยที่ 2 เป็นตัวการในการใช้อาวุธปืนยิงผู้เสียหายกับพวก มีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยมิได้รับอนุญาต และพาอาวุธปืนไปในหมู่บ้านและทางสาธารณะโดยมิได้รับอนุญาตด้วย
ความผิดฐานมีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยมิได้รับอนุญาตโจทก์ไม่ได้อาวุธปืนพกที่ใช้กระทำผิดมาเป็นของกลาง โจทก์คงนำสืบแต่เพียงว่าจำเลยทั้งสองกับพวกไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนอาวุธปืนให้มีและใช้อาวุธปืนขนาดใดเลย เมื่อโจทก์นำสืบไม่ได้ว่าอาวุธปืนพกที่ใช้กระทำผิดเป็นอาวุธปืนที่ได้รับอนุญาตให้มีและใช้ตามกฎหมายหรือไม่ จึงต้องฟังเป็นคุณแก่จำเลยที่ 2 ว่าเป็นอาวุธปืนของผู้อื่นซึ่งได้รับอนุญาตให้มีและใช้ตามกฎหมายอันเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ มาตรา 72 วรรคสามเท่านั้น และเมื่อโจทก์ฟ้องและนำสืบว่าจำเลยทั้งสองร่วมกันกระทำผิดฐานนี้ จึงเป็นเหตุในลักษณะคดี ศาลฎีกาพิพากษาให้มีผลไปถึงจำเลยที่ 1 ซึ่งมิได้อุทธรณ์ฎีกาด้วย ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 213 ประกอบมาตรา 225
ความผิดฐานมีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยมิได้รับอนุญาตโจทก์ไม่ได้อาวุธปืนพกที่ใช้กระทำผิดมาเป็นของกลาง โจทก์คงนำสืบแต่เพียงว่าจำเลยทั้งสองกับพวกไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนอาวุธปืนให้มีและใช้อาวุธปืนขนาดใดเลย เมื่อโจทก์นำสืบไม่ได้ว่าอาวุธปืนพกที่ใช้กระทำผิดเป็นอาวุธปืนที่ได้รับอนุญาตให้มีและใช้ตามกฎหมายหรือไม่ จึงต้องฟังเป็นคุณแก่จำเลยที่ 2 ว่าเป็นอาวุธปืนของผู้อื่นซึ่งได้รับอนุญาตให้มีและใช้ตามกฎหมายอันเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ มาตรา 72 วรรคสามเท่านั้น และเมื่อโจทก์ฟ้องและนำสืบว่าจำเลยทั้งสองร่วมกันกระทำผิดฐานนี้ จึงเป็นเหตุในลักษณะคดี ศาลฎีกาพิพากษาให้มีผลไปถึงจำเลยที่ 1 ซึ่งมิได้อุทธรณ์ฎีกาด้วย ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 213 ประกอบมาตรา 225
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1177/2537
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อน: พฤติการณ์โกรธเคือง การเตรียมอาวุธ และการลงมือ
โจทก์มีพยานจำนวน 2 ปากเบิกความว่าคืนก่อนวันเกิดเหตุ 1 วันจำเลยกับผู้ตายมีเรื่องทะเลาะกัน ผู้ตายเตะจำเลย 1 ครั้งแล้วก็เลิกรากันไป โดยสอดคล้องกับคำให้การของจำเลยในชั้นสอบสวนว่าหลังจากจำเลยถูกผู้ตายเตะแล้วกลับบ้านนอนไม่หลับทั้งคืน รุ่งเช้าขึ้นจำเลยไปตามหาผู้ตายโดยไปพบผู้ตายอยู่กับเพื่อนที่ทุ่งนาและหาโอกาสยิงผู้ตาย พอเพื่อนผู้ตายลุกขึ้นออกไป จำเลยใช้อาวุธปืนยิงผู้ตายทางด้านหลังจนถึงแก่ความตาย โดยมีพนักงานสอบสวนมาเบิกความยืนยันว่าจำเลยให้การดังกล่าวด้วยความสมัครใจ และคำให้การของจำเลยที่สอดคล้องกับบาดแผลที่ถูกยิง ที่จำเลยต่อสู้ว่า อยู่กับผู้ตายสองต่อสองแล้วผู้ตายด่าจำเลยและท้าให้จำเลยยิง จำเลยบันดาลโทสะจึงยิงผู้ตายนั้น จำเลยมิได้ให้การไว้ในชั้นสอบสวนและจากคำเบิกความของพยานโจทก์อีก 2 ปากที่อยู่ในบริเวณที่เกิดเหตุก็ไม่ปรากฏว่าผู้ตายได้ด่าว่าจำเลยแต่อย่างใด ข้อต่อสู้ของจำเลยดังกล่าวจึงไม่มีน้ำหนักน่าเชื่อถือ พยานหลักฐานโจทก์ฟังได้ว่าจำเลยมีเรื่องโกรธเคืองกับผู้ตายมาก่อนแล้ว ต่อมาจำเลยมาตามหาผู้ตายโดยนำอาวุธปืนไปตั้งใจจะยิงผู้ตาย ซึ่งถือว่าจำเลยมีโอกาสคิดไตร่ตรองไว้ก่อนแล้วว่าจะฆ่าผู้ตายหรือไม่ เมื่อจำเลยไปพบผู้ตายและได้โอกาสก็ยิงผู้ตายจนถึงแก่ความตาย การกระทำของจำเลยจึงเป็นการฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อนตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 289(4)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 165/2530
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อน: กรณีความขัดแย้งเรื่องหนี้สินและการเตรียมอาวุธ
ผู้ตายยืมเงินจำเลยไปโดยเอาเข็มขัดนากปลอมให้ไว้เป็นประกันจำเลยทวงถาม ผู้ตายชำระเงินคืนให้บ้าง ก่อนเกิดเหตุประมาณ 1 เดือน ผู้ตายต่อว่าจำเลยเกี่ยวกับเรื่องเงินที่ผู้ตายยืมและจะใช้อาวุธปืนยิงจำเลย ถึงกับจำเลยต้องบอกว่าเรื่องเงินให้แล้วกันไป ทำให้จำเลยมีความเจ็บใจคิดหาโอกาสทำร้ายผู้ตายตลอดมา ก่อนเกิดเหตุไม่ปรากฏว่าได้มีการโต้เถียงกันอันจะเป็นเหตุให้จำเลยยิงผู้ตายในขณะนั้น ทั้งไม่มีสาเหตุอื่นที่จำเลยจะยิงผู้ตาย การที่จำเลยมีความเจ็บใจและคิดหาโอกาสทำร้ายผู้ตายเมื่อมีโอกาสจึงใช้อาวุธปืนที่เตรียมติดตัวไปยิงผู้ตาย ถือได้ว่าเป็นการฆ่าผู้ตายโดยไตร่ตรองไว้ก่อน.(ที่มา-ส่งเสริมฯ)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 327/2511 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อน: พฤติการณ์โกรธเคือง, เตรียมอาวุธ, และวางแผน
จำเลยโกรธผู้ตายซึ่งเป็นแม่ยายของจำเลยเพราะเคยหาว่าจำเลยลักเงิน และเคยให้จำเลยกับภริยาแยกจากบ้านไปอยู่ที่อื่นคืนเกิดเหตุตอนหัวค่ำ จำเลยเอามีดไปซ่อนไว้ครั้นตอนดึกจำเลยกลับมาได้ใช้มีดที่ซ่อนไว้ไปฟันผู้ตายขณะนอนหลับทั้งจำเลยเคยให้การในชั้นสอบสวนว่าจำเลยได้หาโอกาสจะฆ่าผู้ตายมาก่อน และจำเลยเคยจ้างผู้มีชื่อฆ่าผู้ตายด้วย เช่นนี้ เป็นการฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 518/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อน: การกระทำโดยมีเหตุโกรธเคืองและเตรียมอาวุธ
ก่อนเกิดเหตุประมาณ 2 อาทิตย์ ผู้ตายซึ่งเป็นผู้ใหญ่บ้านจับจำเลยที่ 1 ไปตักเตือนในข้อหาว่ายิงปืนในหมู่บ้าน ต่อมาในวันเกิดเหตุจำเลยมาถามหาผู้ตายแต่ไม่พบ จำเลยก็พากันไป ต่อมาจำเลยที่ 1 ที่ 2 ได้นั่งดื่มสุรากันที่บ้านจำเลยที่ 1 ก่อน แล้วจำเลยที่ 1,2 กับพวกได้พากันไปโดยมีอาวุธปืนลูกซองไปทุกคน พอจำเลยที่ 1,2 กับพวก เห็นแสงไฟรถจักรยานของผู้ตายโดยผู้ตายขี่มา ได้พากันวิ่งเข้าไปแล้วใช้อาวุธปืนยิงผู้ตาย ถือว่าเป็นการฆ่าผู้ตายโดยไตร่ตรองไว้ก่อน.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 518/2509
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อน: การกระทำร่วมกัน การเตรียมอาวุธ และเจตนาฆ่า
ก่อนเกิดเหตุประมาณ 2 อาทิตย์ ผู้ตายซึ่งเป็นผู้ใหญ่บ้านจับจำเลยที่ 1 ไปตักเตือนในข้อหาว่ายิงปืนในหมู่บ้าน ต่อมาในวันเกิดเหตุจำเลยมาถามหาผู้ตายแต่ไม่พบจำเลยก็พากันไปต่อมาจำเลยที่ 1 ที่ 2 ได้นั่งดื่มสุรากันที่บ้านจำเลยที่ 1 ก่อน แล้วจำเลยที่ 1,2 กับพวกได้พากันไปโดยมีอาวุธปืนลูกซองไปทุกคนพอจำเลยที่ 1,2 กับพวกเห็นแสงไฟรถจักรยานของผู้ตายโดยผู้ตายขี่มา ได้พากันวิ่งเข้าไปแล้วใช้อาวุธปืนยิงผู้ตาย ถือว่าเป็นการฆ่าผู้ตายโดยไตร่ตรองไว้ก่อน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1215/2508
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
วางแผนร่วมกันฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อน โดยมีพฤติการณ์หลอกล่อเหยื่อและเตรียมอาวุธ
จำเลยที่ 1 ใช้ให้จำเลยที่ 2,3 ไปตามผู้ตายให้ไปกินข้าวที่บ้านถึง 2 ครั้ง ผู้ตายจึงยอมไป ส่วนจำเลยที่ 1 แทนที่จะคอยต้อนรับผู้ตายที่บ้าน กลับไปรออยู่กลางทางเมื่อจำเลยที่ 1 ยกปืนจะยิงผู้ตายผู้ตายปัดกระบอกปืน จำเลยที่ 2,3,4 ก็กลุ้มรุมทำร้ายผู้ตายทันที โดยจำเลยที่ 1 มิได้ขอร้องให้ช่วย พฤติการณ์จึงส่อแสดงว่าจำเลยวางแผนการหลอกผู้ตายมาทำร้ายระหว่างทาง เมื่อผู้ตายถึงแก่ความตายแล้ว ยังได้ไปแจ้งต่อเจ้าพนักงานว่าผู้ตายกับพวกมาฉุดลูกสาวจำเลยที่ 1 ไป อันเป็นแผนต่อไปที่จะสู้คดีข้อเท็จจริงจึงฟังได้ว่าจำเลยได้ร่วมกันฆ่าผู้ตายโดยเจตนา และโดยไตร่ตรองไว้ก่อน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 8/2487
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเตรียมอาวุธรอต่อสู้และสมัครใจทำร้ายกัน ย่อมไม่เข้าข้อยกเว้นลดโทษจากเหตุยั่วโทสะ
การที่จำเลยออกไปคอยผู้ตายซึ่งมาร้องด่าท้าทายชวนให้ไปทำร้ายซึ่งกันและกัน ณ ที่เกิดเหตุโดยเตรียมอาวุธไปด้วยนั้น เป็นการแสดงความตั้งใจอันแท้จริงว่าต่างสมัครใจจะทำร้ายกัน ไม่ต้องด้วยลักษณะยั่วโทสะตามกฎหมายอันจะเป็นเหตุให้ลดโทษได้