พบผลลัพธ์ทั้งหมด 3 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2345-2347/2530
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกระทำความผิดฐานค้าประเวณี: พฤติการณ์เตร็ดเตร่ในแหล่งค้าประเวณีเป็นหลักฐานสำคัญ
จำเลยทั้งสามกับพวกนั่งอยู่ที่รถสามล้อในบริเวณถนนซึ่งเป็นบริเวณที่มีหญิงมาทำการเตร็ดเตร่เพื่อค้าประเวณี ขณะนั้นเป็นเวลาประมาณ 23 นาฬิกา มีชายคนหนึ่งเข้ามาพูดจาและพาพวกจำเลยคนหนึ่งออกไปนานราว 30 นาที พวกจำเลยดังกล่าวจึงได้กลับมา จากพฤติการณ์ดังกล่าวแสดงให้เห็นว่าจำเลยทั้งสามกระทำการเตร็ดเตร่หรือคอยอยู่ตามถนนในลักษณะอาการที่เห็นได้ว่าเป็นการเรียกร้องการติดต่อในการค้าประเวณี.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1208/2511 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกระทำเพื่อการค้าประเวณี: การเตร็ดเตร่ในที่สาธารณะ แม้ไม่มีการค้าประเวณีจริง ก็ถือเป็นความผิดได้
ความผิด มาตรา 5(2) แห่งพระราชบัญญัติปรามการค้าประเวณีพ.ศ.2503 นั้น ไม่จำต้องคำนึงว่าผู้กระทำได้เคยยอมรับการกระทำชำเราสำส่อนเพื่อสินจ้างมาก่อนแล้วหรือไม่ หากมีพฤติการณ์ในลักษณะหรืออาการที่เห็นได้ว่าเป็นการเรียกร้องหรือเป็นการติดต่อในการค้าประเวณี ตามที่บัญญัติไว้นี้แล้ว ย่อมเป็นความผิด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1208/2511
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกระทำเพื่อการค้าประเวณี: การเตร็ดเตร่ในที่สาธารณะเพื่อเรียกร้องการติดต่อ ไม่จำต้องพิสูจน์การค้าประเวณีจริง
ความผิด มาตรา 5(2) แห่งพระราชบัญญัติปรามการค้าประเวณีพ.ศ.2503 นั้น. ไม่จำต้องคำนึงว่าผู้กระทำได้เคยยอมรับการกระทำชำเราสำส่อนเพื่อสินจ้างมาก่อนแล้วหรือไม่. หากมีพฤติการณ์ในลักษณะหรืออาการที่เห็นได้ว่าเป็นการเรียกร้องหรือเป็นการติดต่อในการค้าประเวณี ตามที่บัญญัติไว้นี้แล้ว ย่อมเป็นความผิด.