พบผลลัพธ์ทั้งหมด 6 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1106/2536
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หุ้นส่วนสามัญ-กรรมสิทธิ์รวม: การเปลี่ยนแปลงคำขอในชั้นฎีกาต้องยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลชั้นต้น
โจทก์บรรยายฟ้องว่า โจทก์กับ ป. แต่งงานอยู่กินเป็นสามีภรรยากันโดยไม่ได้จดทะเบียนสมรส ระหว่างอยู่กินเป็นสามีภรรยาทั้งโจทก์และ ป. ต่างมีทรัพย์สินมาลงหุ้นส่วนกัน โจทก์กับ ป.จึงเป็นห้างหุ้นส่วนสามัญไม่จดทะเบียน เมื่อ ป. ถึงแก่ความตายหุ้นส่วนระหว่างโจทก์กับ ป. จึงเลิกกันและขณะที่ ป. ถึงแก่ความตายมีทรัพย์สินของหุ้นส่วนหลายรายการ รวมทั้งบ้านและที่ดินพิพาทด้วย จำเลยให้การเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า โจทก์ไม่มีทรัพย์สินใดแม้แต่แรงงานมาลงหุ้นกับ ป. ในลักษณะของสัญญาหุ้นส่วน โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้องโดยอาศัยสัญญาการเข้าเป็นหุ้นส่วนได้ ทรัพย์สินตามฟ้องล้วนเป็นทรัพย์สินที่ ป. มีมาก่อนอยู่กินกับโจทก์ไม่ใช่ทรัพย์สินที่ทำมาหาได้ร่วมกันระหว่างโจทก์กับ ป. ศาลชั้นต้นจึงกำหนดเป็นประเด็นพิพาทว่า ทรัพย์สินพิพาทเป็นหุ้นส่วนระหว่างโจทก์กับ ป. หรือไม่เพียงใด เช่นนี้ เมื่อข้อเท็จจริงได้ความว่าจำเลยเป็นผู้ออกเงินซื้อบ้านและที่ดินพิพาทให้แก่ ป. บ้านและที่ดินพิพาทไม่ใช่ทรัพย์สินที่ทำมาหาได้ร่วมกันระหว่างโจทก์กับ ป.โจทก์จะยกปัญหาที่ว่า จำเลยซื้อบ้านและที่ดินพิพาทโดยเจตนาให้เป็นกรรมสิทธิ์รวมระหว่างโจทก์กับ ป. ขึ้นอ้างในชั้นฎีกาไม่ได้เพราะมิใช่ข้อที่ได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 249 วรรคแรก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 297/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเปลี่ยนแปลงคำขอในชั้นฎีกา: ผู้คัดค้านไม่สามารถขอให้ศาลตั้งผู้คัดค้านอีกคนเป็นผู้จัดการมรดกได้ หากไม่ได้มีการขอไว้ตั้งแต่แรก
ผู้ร้องขอให้ศาลสั่งตั้งตนเป็นผู้จัดการมรดกของ ช. ผู้คัดค้านที่ 1 คัดค้านว่า ผู้ร้องไม่ควรเป็นผู้จัดการมรดก ขอให้ยกคำร้องและตั้งผู้คัดค้านที่ 1เป็นผู้จัดการมรดกต่อไปผู้คัดค้านที่ 2 ยื่นคำคัดค้านทำนองเดียวกับผู้คัดค้านที่ 1 และกล่าวต่อไปว่าถ้าจำเป็นจะต้องตั้งผู้จัดการมรดกก็ควรตั้งผู้คัดค้านที่ 1 ศาลชั้นต้นตั้งผู้ร้องและผู้คัดค้านเป็นผู้จัดการมรดกร่วมกันศาลอุทธรณ์ตั้งให้ผู้ร้องเป็นผู้จัดการมรดกแต่ผู้เดียว (ผู้คัดค้านที่ 1 มิได้ฎีกา)ดังนี้ ผู้คัดค้านที่ 2 จะฎีกาขอให้ตั้งผู้คัดค้านที่ 1 เป็นผู้จัดการมรดกหาได้ไม่เพราะในคำคัดค้านของตนไม่มีคำขอเช่นนั้นมาแต่ต้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 908/2513 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การดำเนินกระบวนพิจารณาคดีที่ถูกต้อง: ศาลต้องพิจารณาคำร้องของโจทก์ก่อนมีคำสั่งถึงที่สุด แม้มีการเปลี่ยนแปลงคำขอท้ายฟ้อง
ในวันชี้สองสถานศาลชั้นต้นสั่งให้โจทก์เสียค่าขึ้นศาลตามทุนทรัพย์ภายในเวลาที่กำหนดให้ ในวันนั้นเองโจทก์ยื่นคำร้องขอสละคำขอท้ายฟ้องบางตอน ศาลชั้นต้นมิได้สั่งรับคำร้องนี้ จนกระทั่งพ้นเวลาที่ได้กำหนดไว้นั้นและโจทก์มิได้ชำระค่าขึ้นศาลเพิ่ม ศาลก็สั่งว่าโจทก์ทิ้งฟ้องให้จำหน่ายคดี ดังนี้ เป็นการไม่ดำเนินกระบวนพิจารณาไปตามลำดับเมื่อความปรากฏแก่ศาลสูง ๆ ย่อมพิพากษาให้ยกคำสั่งจำหน่ายคดีนั้นให้ศาลชั้นต้นดำเนินกระบวนพิจารณาเสียใหม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 745/2498
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขอบเขตการฟ้องร้องซื้อขายที่ดิน การเปลี่ยนแปลงคำขอในชั้นศาลต้องไม่เกินกรอบฟ้องเดิม
โจทก์ฟ้องว่าซื้อที่จากจำเลย 7 ไร่เศษ (ในหนังสือสัญญาซื้อขายที่ดิน 7 ไร่ 1 งาน 25 วา) จำเลยฉ้อโกงเอาที่ของโจทก์ 3 ไร่ เศษไปขายผู้อื่น ขอให้ศาลแสดงว่าที่พิพาทเป็นของโจทก์เมื่อทำแผนที่วิวาทโจทก์นำชี้รวมเนื้อที่ 11 ไร่เศษจำเลยนำชี้ว่าขายโจทก์ 8 ไร่เศษตรงตามรูปแผนที่หลังหนังสือสัญญาซื้อขายที่ดิน ซึ่งไม่คลุมถึงที่รายพิพาทดังนี้เมื่อโจทก์จะขอสืบต่อไปถึงเรื่องครอบครองที่รายพิพาทซึ่งมิได้กล่าวอ้างไว้ในฟ้องจึงเป็นเรื่องนอกฟ้อง นอกประเด็นสืบไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 272/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยอมรับมรดกและการเปลี่ยนแปลงคำขอในชั้นฎีกา ศาลฎีกาไม่รับฟังการเปลี่ยนแปลงที่ขัดแย้งกับข้อตกลงเดิม
ชั้นอุทธรณ์จำเลยยอมให้เอามฤดกส่วนของผู้ตายแบ่งเป็นมฤดกให้แก่โจทก์แล้ว มาชั้นฎีกากลับจะให้เอามาเป็นของจำเลย โดยไม่มีข้ออ้างอิงประการใดนั้น ฟังไม่ขึ้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5/2486
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเปลี่ยนแปลงคำขอในชั้นฎีกาขัดต่อฟ้องเดิม ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
ฟ้องโจทก์กล่าวว่าจำเลยได้ตกลงให้โจทก์จัดการขายที่ดินโดยสัญญาจะให้บำเหน็จ แต่ในชั้นฎีกาโจทก์ฎีกาว่าคดีอาจถือได้ว่ามีการตกลงกันโดยปริยายว่าโจทก์จะได้รับค่านายหน้าเช่นนี้ ย่อมเป็นการขัดกับฟ้องเดิมศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยให้