พบผลลัพธ์ทั้งหมด 3 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 224/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเผยแพร่ภาพบุคคลรวมกับภาพอาชญากร ไม่เข้าข่ายความผิดดูหมิ่น หากไม่มีเจตนาและมีเหตุผลอื่นที่สมควร
จำเลยนำภาพของโจทก์ลงพิมพ์ที่หน้าปกของหนังสือพิมพ์รายวันเสียงปวงชนรวมกับภาพอื่นซึ่งมีอยู่ทั้งหมดประมาณ 20 ภาพเศษ นอกจากภาพบุคคลแล้วยังมีภาพไฟไหม้อาคาร ภาพเครื่องบินชนโรงงาน และภาพงานพระราชพิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ ทุกภาพไม่มีข้อความอธิบายเหตุการณ์หรือบอกชื่อบุคคลในภาพนั้นแต่อย่างใด คงมีแต่ข้อความซึ่งพิมพ์ด้วยอักษรภาษาไทย ขนาดตัวโตขวางทับอยู่กลางหน้ากระดาษว่า "ภาพเหตุการณ์ในรอบปี" เท่านั้น และภาพโจทก์ที่นำลงพิมพ์ไว้นั้น จัดวางไว้ทางตอนบนของหน้ากระดาษเป็นภาพครึ่งตัวส่วนบนแต่งกายเรียบร้อย สวมเสื้อนอก มีผ้าผูกคอ ผิดกับภาพบุคคลอื่น ๆ และเป็นภาพของโจทก์เดี่ยว ๆ เป็นเอกเทศ แม้จะมีภาพผู้ต้องหาหรือผู้กระทำผิดในคดีอาญาที่ร้ายแรงพิมพ์รวมอยู่รอบ ๆ ภาพของโจทก์ด้วยก็ตาม แต่ขณะเกิดเหตุโจทก์เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย มีหน้าที่เกี่ยวกับการรักษาความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง จึงน่าจะเป็นการเสนอภาพ เพื่อให้ผู้มีหน้าที่รับผิดชอบพิจารณา ไม่พอที่จะชี้ให้เห็นว่าจำเลยทั้งสองมีเจตนาดูหมิ่นโจทก์ อันจะเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 393
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 224/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเผยแพร่ภาพบุคคลกับภาพอาชญากรโดยไม่มีเจตนาดูหมิ่น ไม่เป็นความผิดฐานดูหมิ่น
จำเลยนำภาพของโจทก์ลงพิมพ์ที่หน้าปกของหนังสือพิมพ์รายวันเสียงปวงชน รวมกับภาพอื่นซึ่งมีอยู่ทั้งหมดประมาณ 20 ภาพเศษ นอกจากภาพบุคคลแล้วยังมีภาพไฟไหม้อาคาร ภาพเครื่องบินชนโรงงานและภาพงานพระราชพิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ ทุกภาพไม่มีข้อความอธิบายเหตุการณ์หรือบอกชื่อบุคคลในภาพนั้นแต่อย่างใด คงมีแต่ข้อความซึ่งพิมพ์ด้วยอักษรภาษาไทย ขนาดตัวโตขวางทับอยู่กลางหน้ากระดาษว่า "ภาพเหตุการณ์ในรอบปี" เท่านั้นและภาพโจทก์ที่นำลงพิมพ์ไว้นั้นจัดวางไว้ทางตอนบนของหน้ากระดาษเป็นภาพครึ่งตัวส่วนบนแต่งกายเรียบร้อย สวมเสื้อนอก มีผ้าผูกคอ ผิดกับภาพบุคคลอื่น ๆ และเป็นภาพ ของโจทก์เดี่ยว ๆ เป็นเอกเทศ แม้จะมีภาพผู้ต้องหาหรือผู้กระทำผิดในคดีอาญาที่ร้ายแรงพิมพ์รวมอยู่รอบ ๆ ภาพของโจทก์ด้วยก็ตามแต่ขณะเกิดเหตุโจทก์เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยมีหน้าที่เกี่ยวกับการรักษาความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง จึงน่าจะเป็นการเสนอภาพเพื่อให้ผู้มีหน้าที่รับผิดชอบพิจารณา ไม่พอที่จะชี้ให้เห็นว่าจำเลยทั้งสองมีเจตนาดูหมิ่นโจทก์ อันจะเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 393
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 8493/2558
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเผยแพร่ภาพถ่ายที่ได้รับอนุญาตจากเว็บไซต์ลิขสิทธิ์ ไม่ถือเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์
การกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.ลิขสิทธิ์ พ.ศ.2537 มาตรา 70 ประกอบมาตรา 31 เป็นการละเมิดลิขสิทธิ์โดยกระทำแก่งานที่ทำขึ้นโดยละเมิดลิขสิทธิ์ของผู้อื่น มีลักษณะเป็นการส่งเสริมให้งานที่ทำขึ้นโดยละเมิดลิขสิทธิ์แพร่หลายออกไป ซึ่งมีองค์ประกอบของความผิดคือ (1) ต้องเป็นการกระทำต่องานที่ทำขึ้นโดยละเมิดลิขสิทธิ์ (2) ผู้กระทำรู้หรือมีเหตุอันควรรู้ว่าเป็นงานที่ทำขึ้นโดยละเมิดลิขสิทธิ์ (3) กระทำเพื่อหากำไร (4) มีการกระทำตามมาตรา 31 (1) ถึง (4) ดังนั้น จึงต้องพิจารณาองค์ประกอบของความผิดข้อแรกก่อนว่า ภาพถ่ายพิพาทในคดีนี้ที่จำเลยเผยแพร่ต่อสาธารณชนเป็นงานที่ทำขึ้นโดยละเมิดลิขสิทธิ์หรือไม่ การที่โจทก์เป็นสมาชิกประเภทช่างภาพของเว็บไซต์แห่งหนึ่งโดยมีสถานะเป็นผู้ส่งภาพ ส่วนบริษัท ด. ซึ่งรับทำโฆษณาให้จำเลยได้ขออนุญาตเว็บไซต์ดังกล่าวใช้ภาพพิพาทเพื่อทำโฆษณาให้จำเลยและชำระค่าใช้ภาพให้แก่เว็บไซต์ดังกล่าว โดยเว็บไซต์ชำระค่าตอบแทนการใช้ภาพให้แก่โจทก์แล้ว ภาพของโจทก์ตามโบรชัวร์จึงเป็นภาพและโบรชัวร์ที่ทำขึ้นโดยชอบด้วยกฎหมาย มิใช่ภาพที่ทำขึ้นโดยละเมิดลิขสิทธิ์ของโจทก์ ที่จำเลยแจกจ่ายหรือเผยแพร่ต่อสาธารณชนซึ่งโบรชัวร์ดังกล่าวจึงเป็นการกระทำโดยได้รับอนุญาตไม่เป็นความผิดตามมาตรา 70 วรรคสอง ประกอบมาตรา 31 (2) และเมื่อบริษัท ด. ได้ขออนุญาตใช้ภาพจากเว็บไซต์แล้ว ถือได้ว่าเป็นการขออนุญาตใช้ภาพแทนจำเลยแล้ว