คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
เพิกถอนคืนการให้

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 2 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1071/2513 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ แม้มีคำพิพากษาเพิกถอนคืนการให้ แต่หากกรรมสิทธิ์ยังไม่โอน โจทก์ยังบังคับให้จำเลยโอนได้
จำเลยทำสัญญาจะขายที่ดินพิพาทแก่โจทก์และจำเลยเป็นฝ่ายผิดสัญญา โจทก์จึงฟ้องขอให้บังคับจำเลยโอนที่พิพาทให้โจทก์เป็นคดีนี้ ในระหว่างพิจารณา มารดาจำเลยได้ฟ้องเรียกที่ดินคืนจากจำเลยเพราะเหตุเนรคุณ ซึ่งศาลชั้นต้นได้พิพากษาให้เพิกถอนคืนการให้ ถ้าจำเลยไม่ปฏิบัติตามก็ให้ถือเอาคำพิพากษาแทนการแสดงเจตนาของจำเลย คดีถึงที่สุด ดังนี้ แม้ที่พิพาทที่โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยโอนให้โจทก์ในคดีนี้จะถูกศาลพิพากษาให้เพิกถอนคืนการให้ในคดีระหว่างมารดาจำเลยเป็นโจทก์ฟ้องจำเลยตามสำนวนคดีแพ่งแดงที่ 14/2511 ก็ตาม แต่ยังไม่มีการจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์กลับคืนไปยังมารดาจำเลย กรรมสิทธิ์ในที่พิพาทจึงยังเป็นของจำเลยอยู่ จำเลยอยู่ในฐานะที่จะถูกบังคับให้โอนขายให้โจทก์ตามฟ้องได้ ส่วนปัญหาระหว่างโจทก์กับมารดาจำเลยซึ่งต่างเป็นผู้ชนะคดีด้วยกัน ใครจะมีสิทธิดีกว่ากันนั้น ก็จะต้องไปว่ากล่าวกันในชั้นบังคับคดีหรือฟ้องร้องกันใหม่ ไม่ใช่ปัญหาที่จะต้องวินิจฉัยชี้ขาดในชั้นนี้
คำพิพากษาในคดีแพ่งแดงที่ 14/2511 เป็นคำพิพากษาให้เพิกถอนคืนการให้เพราะเหตุเนรคุณไม่ใช่คำพิพากษาที่วินิจฉัยถึงกรรมสิทธิ์แห่งทรัพย์สินใด ๆ ตามนัยแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 145 (2) ใช้ยันโจทก์ซึ่งไม่ได้เป็นคู่ความด้วยไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1071/2513

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาซื้อขายที่ดิน & เพิกถอนคืนการให้: สิทธิเรียกร้องยังคงอยู่แม้มีคำพิพากษาคืนการให้
จำเลยทำสัญญาจะขายที่ดินพิพาทแก่โจทก์และจำเลยเป็นฝ่ายผิดสัญญา โจทก์จึงฟ้องขอให้บังคับจำเลยโอนที่พิพาทให้โจทก์เป็นคดีนี้ ในระหว่างพิจารณา มารดาจำเลยได้ฟ้องเรียกที่ดินคืนจากจำเลยเพราะเหตุเนรคุณ ซึ่งศาลชั้นต้นได้พิพากษาให้เพิกถอนคืนการให้ ถ้าจำเลยไม่ปฏิบัติตามก็ให้ถือเอาคำพิพากษาแทนการแสดงเจตนาของจำเลย คดีถึงที่สุด ดังนี้ แม้ที่พิพาทที่โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยโอนให้โจทก์ในคดีนี้จะถูกศาลพิพากษาให้เพิกถอนคืนการให้ในคดีระหว่างมารดาจำเลยเป็นโจทก์ฟ้องจำเลยตามสำนวนคดีแพ่งแดงที่ 14/2511 ก็ตาม แต่ยังไม่มีการจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์กลับคืนไปยังมารดาจำเลย กรรมสิทธิ์ในที่พิพาทจึงยังเป็นของจำเลยอยู่ จำเลยอยู่ในฐานะที่จะถูกบังคับให้โอนขายให้โจทก์ตามฟ้องได้ ส่วนปัญหาระหว่างโจทก์กับมารดาจำเลยซึ่งต่างเป็นผู้ชนะคดีด้วยกัน ใครจะมีสิทธิดีกว่ากันนั้น ก็จะต้องไปว่ากล่าวกันในชั้นบังคับคดีหรือฟ้องร้องกันใหม่ ไม่ใช่ปัญหาที่จะต้องวินิจฉัยชี้ขาดในชั้นนี้
คำพิพากษาในคดีแพ่งแดงที่ 14/2511 เป็นคำพิพากษาให้เพิกถอนคืนการให้เพราะเหตุเนรคุณ ไม่ใช่คำพิพากษาที่วินิจฉัยถึงกรรมสิทธิ์แห่งทรัพย์สินใด ๆ ตามนัยแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 145(2) ใช้ยันโจทก์ซึ่งไม่ได้เป็นคู่ความด้วยไม่ได้