พบผลลัพธ์ทั้งหมด 2 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4363/2528
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบอกเลิกสัญญาซื้อขายที่ดินและการเลิกสัญญโดยปริยาย หากผู้ซื้อไม่ดำเนินการตามสัญญาและปล่อยเวลาล่วงเลย
จำเลยตกลงขายที่ดินพิพาทให้แก่โจทก์ ซึ่งโจทก์ก็ตกลงซื้อ โดยจะขอกู้และเอาที่ดินดังกล่าวจำนองไว้กับธนาคารเพื่อนำเงิน มาซื้อที่ดินตามบันทึกข้อตกลงแม้บันทึกดังกล่าวจะเป็น สัญญาจะซื้อขายที่ดินพิพาทแต่เมื่อธนาคารได้ปฏิเสธไม่ยอมให้โจทก์ กู้เงินมาซื้อที่ดินพิพาทแล้วต่อมาจำเลยผู้ขายได้บอกเลิกสัญญา โดยมิได้บอกกล่าวให้โจทก์ผู้ซื้อชำระหนี้ภายในระยะเวลาพอสมควร ตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 387 โดยโจทก์เองก็มิได้โต้แย้งการบอกเลิกสัญญาในขณะนั้น กลับเพิกเฉยปล่อยให้เวลาล่วงเลยมาเป็นเวลานานถึง 5 ปี พฤติการณ์ดังกล่าวพอถือได้ว่าคู่กรณีทั้งสองฝ่ายต่างสมัครใจ เลิกสัญญาต่อกันโดยปริยายโจทก์จะขอให้บังคับจำเลยโอนขาย ที่ดินพิพาทตามสัญญาอีกไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2513/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาเลิกสัญญาซื้อขายโดยปริยาย ทำให้สิทธิเรียกร้องตามเช็ค (สัญญาซื้อขาย) สิ้นสุด
โจทก์ฟ้องให้จำเลยชำระเงินตามเช็คที่จำเลยสั่งจ่ายให้โจทก์เพื่อชำระราคาเรือตามสัญญาจะซื้อขาย โดยโจทก์ส่งมอบเรือที่จะซื้อขายให้จำเลยไปก่อน และจำเลยสั่งจ่ายเช็คลงวันที่ล่วงหน้าให้โจทก์ไว้เป็นการชำระราคาเรือ เมื่อธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินตามเช็ค โจทก์ไปยึดเรือกลับคืนมาโดยพลการไม่ใช้สิทธิตามสัญญา จำเลยก็มิได้เรียกร้องเอาเรือคืน เท่ากับสองฝ่ายเจตนาเลิกสัญญาจะซื้อขายเรือกันโดยปริยายไม่มีหนี้ผูกพันตามเช็คที่โจทก์นำมาฟ้องเรียกเป็นราคาเรือตามสัญญาและซื้อขายกันต่อไปอีก ข้อที่โจทก์อ้างว่าต้องเสียหายมากจากการที่จำเลยครอบครองให้เรืออยู่เป็นเวลานานโดยไม่ชำระราคาเรือเป็นเรื่องนอกฟ้อง