พบผลลัพธ์ทั้งหมด 2 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 834/2520 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยิงผู้อื่นด้วยปืน การพิจารณา 'ไตร่ตรองไว้ก่อน' แม้มีเหตุโกรธเคือง แต่หากมีเวลาคิดไตร่ตรอง ถือเป็นเจตนา
กรณีที่จำเลยเป็นฝ่ายด่าว่าโจทก์ร่วมเรื่องโจทก์ร่วมให้คนมาขุดซ่อมท่อประปาที่ที่ดินหน้าร้านโจทก์ร่วม ที่เช่าจากจำเลย โดยโจทก์ร่วมไม่ได้โต้เถียงและได้บอกจำเลยด้วยว่าเมื่อทำเสร็จแล้วจะกลบท่อให้ดังเดิม จำเลยกลับใช้ปืนยิงโจทก์ร่วมถึง 3 นัด ไม่ปรากฏพฤติการณ์ว่าจำเลยถูกข่มเหงอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรมแต่อย่างใด กรณีนี้ถือไม่ได้ว่าจำเลยได้กระทำไปโดยบันดาลโทสะ
และเมื่อปรากฏว่าตามคำของแพทย์ผู้รักษาจำเลยว่าเมื่อประมาณ 3 ปี มาจำเลยเป็นโรคเปลี่ยนวัย แต่เมื่อได้รับรักษารับประทานยาแล้วอาการดีขึ้นและจำเลยเป็นผู้ดูแลกิจการบริการอาบอบนวดของจำเลย ดูแลห้องแถว บังกาโลที่ให้เช่าโดยสามารถดำเนินธุรกิจ และนำเงินไปฝากธนาคารด้วยตนเอง ก่อนที่จำเลยจะยิงโจทก์ร่วม จำเลยด่าว่าโจทก์ร่วมและหลังเกิดเหตุแล้ว จำเลยให้การรับสารภาพในชั้นสอบสวน นำพนักงานสอบสวนไปชี้ที่เกิดเหตุและแสดงท่าทางให้ถ่ายภาพประกอบคำรับโดยตลอด จำเลยมีความรู้สึกผิดชอบดีอย่างบุคคลธรรมดาทั่วไป ถือได้ว่าจำเลยกระทำผิดในขณะที่รู้สึกผิดชอบและสามารถบังคับตนเองได้
ส่วนในกรณีที่ปรากฏว่า ก่อนจำเลยใช้ปืนยิงโจทก์ร่วม จำเลยได้ด่าว่าโจทก์ร่วมโดยจำเลยโกรธโจทก์ร่วมที่ให้คนมาขุดท่อประปาในที่ดินของจำเลยเสร็จแล้วจำเลยและโจทก์ร่วมต่างแยกเข้าร้านของตน ซึ่งถือได้ว่าเหตุการณ์ในตอนนี้ได้ผ่านพ้นไปแล้ว แต่ต่อมาอีกประมาณ 10 นาที โจทก์ร่วมออกมาดูท่อประปาที่ขุดตามที่คนขุดท่อประปาขอให้มาดู จำเลยวิ่งออกจากร้านโดยไม่พูดจา แล้วใช้ปืนยิงโจทก์ร่วมทันทีเช่นนี้ มิใช่จำเลยกระทำการยิงโจทก์ร่วมในขณะที่เกิดโทสะพลุ่งขึ้นเฉพาะหน้า หากแต่เป็นการที่จำเลยใช้เวลาที่อยู่ในร้านประมาณ 10 นาที คิดไตร่ตรองทบทวนดีแล้วว่าจะยิงโจทก์ร่วมหรือไม่ และได้ตระเตรียมปืนไว้ใช้ยิง ดังนี้ที่จำเลยใช้ปืนยิงโจทก์ร่วมจึงเป็นการกระทำโดยไตร่ตรองไว้ก่อน
และเมื่อปรากฏว่าตามคำของแพทย์ผู้รักษาจำเลยว่าเมื่อประมาณ 3 ปี มาจำเลยเป็นโรคเปลี่ยนวัย แต่เมื่อได้รับรักษารับประทานยาแล้วอาการดีขึ้นและจำเลยเป็นผู้ดูแลกิจการบริการอาบอบนวดของจำเลย ดูแลห้องแถว บังกาโลที่ให้เช่าโดยสามารถดำเนินธุรกิจ และนำเงินไปฝากธนาคารด้วยตนเอง ก่อนที่จำเลยจะยิงโจทก์ร่วม จำเลยด่าว่าโจทก์ร่วมและหลังเกิดเหตุแล้ว จำเลยให้การรับสารภาพในชั้นสอบสวน นำพนักงานสอบสวนไปชี้ที่เกิดเหตุและแสดงท่าทางให้ถ่ายภาพประกอบคำรับโดยตลอด จำเลยมีความรู้สึกผิดชอบดีอย่างบุคคลธรรมดาทั่วไป ถือได้ว่าจำเลยกระทำผิดในขณะที่รู้สึกผิดชอบและสามารถบังคับตนเองได้
ส่วนในกรณีที่ปรากฏว่า ก่อนจำเลยใช้ปืนยิงโจทก์ร่วม จำเลยได้ด่าว่าโจทก์ร่วมโดยจำเลยโกรธโจทก์ร่วมที่ให้คนมาขุดท่อประปาในที่ดินของจำเลยเสร็จแล้วจำเลยและโจทก์ร่วมต่างแยกเข้าร้านของตน ซึ่งถือได้ว่าเหตุการณ์ในตอนนี้ได้ผ่านพ้นไปแล้ว แต่ต่อมาอีกประมาณ 10 นาที โจทก์ร่วมออกมาดูท่อประปาที่ขุดตามที่คนขุดท่อประปาขอให้มาดู จำเลยวิ่งออกจากร้านโดยไม่พูดจา แล้วใช้ปืนยิงโจทก์ร่วมทันทีเช่นนี้ มิใช่จำเลยกระทำการยิงโจทก์ร่วมในขณะที่เกิดโทสะพลุ่งขึ้นเฉพาะหน้า หากแต่เป็นการที่จำเลยใช้เวลาที่อยู่ในร้านประมาณ 10 นาที คิดไตร่ตรองทบทวนดีแล้วว่าจะยิงโจทก์ร่วมหรือไม่ และได้ตระเตรียมปืนไว้ใช้ยิง ดังนี้ที่จำเลยใช้ปืนยิงโจทก์ร่วมจึงเป็นการกระทำโดยไตร่ตรองไว้ก่อน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 834/2520
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยิงผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน แม้เกิดจากความโกรธ แต่มีเวลาคิดทบทวนถือเป็นเหตุไตร่ตรอง
กรณีที่จำเลยเป็นฝ่ายด่าว่าโจทก์ร่วมเรื่องโจทก์ร่วมให้คนมาขุดซ่อมท่อประปาที่ที่ดินหน้าร้านโจทก์ร่วมที่เช่าจากจำเลย โดยโจทก์ร่วมไม่ได้โต้เถียงและได้บอกจำเลยด้วยว่าเมื่อทำเสร็จแล้วจะกลบท่อให้ดังเดิม จำเลยกลับใช้ปืนยิงโจทก์ร่วมถึง 3 นัด ไม่ปรากฏพฤติการณ์ว่าจำเลยถูกข่มเหงอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรมแต่อย่างใด กรณีนี้ถือไม่ได้ว่าจำเลยได้กระทำไปโดยบันดาลโทสะ
และเมื่อปรากฏว่าตามคำของแพทย์ผู้รักษาจำเลยว่าเมื่อประมาณ 3 ปีมาจำเลยเป็นโรคเปลี่ยนวัย แต่เมื่อได้รับรักษารับประทานยาแล้วอาการดีขึ้นและจำเลยเป็นผู้ดูแลกิจการบริการอาบอบนวดของจำเลย ดูแลห้องแถว บังกาโลที่ให้เช่าโดยสามารถดำเนินธุรกิจ และนำเงินไปฝากธนาคารด้วยตนเองก่อนที่จำเลยจะยิงโจทก์ร่วมจำเลยด่าว่าโจทก์ร่วมและหลังเกิดเหตุแล้ว จำเลยให้การรับสารภาพในชั้นสอบสวนนำพนักงานสอบสวนไปชี้ที่เกิดเหตุและแสดงท่าทางให้ถ่ายภาพประกอบคำรับโดยตลอดจำเลยมีความรู้สึกผิดชอบดีอย่างบุคคลธรรมดาทั่วไป ถือได้ว่าจำเลยกระทำผิดในขณะที่รู้สึกผิดชอบและสามารถบังคับตนเองได้
ส่วนในกรณีที่ปรากฏว่า ก่อนจำเลยใช้ปืนยิงโจทก์ร่วมจำเลยได้ด่าว่าโจทก์ร่วมโดยจำเลยโกรธโจทก์ร่วมที่ให้คนมาขุดท่อประปาในที่ดินของจำเลยเสร็จแล้วจำเลยและโจทก์ร่วมต่างแยกเข้าร้านของตนซึ่งถือได้ว่าเหตุการณ์ในตอนนี้ได้ผ่านพ้นไปแล้ว แต่ต่อมาอีกประมาณ 10 นาทีโจทก์ร่วมออกมาดูท่อประปาที่ขุดตามที่คนขุดท่อประปาขอให้มาดูจำเลยวิ่งออกจากร้านโดยไม่พูดจา แล้วใช้ปืนยิงโจทก์ร่วมทันทีเช่นนี้ มิใช่จำเลยกระทำการยิงโจทก์ร่วมในขณะที่เกิดโทสะพลุ่งขึ้นเฉพาะหน้า หากแต่เป็นการที่จำเลยใช้เวลาที่อยู่ในร้านประมาณ 10 นาที คิดไตร่ตรองทบทวนดีแล้วว่าจะยิงโจทก์ร่วมหรือไม่และได้ตระเตรียมปืนไว้ใช้ยิง ดังนี้ที่จำเลยใช้ปืนยิงโจทก์ร่วมจึงเป็นการกระทำโดยไตร่ตรองไว้ก่อน
และเมื่อปรากฏว่าตามคำของแพทย์ผู้รักษาจำเลยว่าเมื่อประมาณ 3 ปีมาจำเลยเป็นโรคเปลี่ยนวัย แต่เมื่อได้รับรักษารับประทานยาแล้วอาการดีขึ้นและจำเลยเป็นผู้ดูแลกิจการบริการอาบอบนวดของจำเลย ดูแลห้องแถว บังกาโลที่ให้เช่าโดยสามารถดำเนินธุรกิจ และนำเงินไปฝากธนาคารด้วยตนเองก่อนที่จำเลยจะยิงโจทก์ร่วมจำเลยด่าว่าโจทก์ร่วมและหลังเกิดเหตุแล้ว จำเลยให้การรับสารภาพในชั้นสอบสวนนำพนักงานสอบสวนไปชี้ที่เกิดเหตุและแสดงท่าทางให้ถ่ายภาพประกอบคำรับโดยตลอดจำเลยมีความรู้สึกผิดชอบดีอย่างบุคคลธรรมดาทั่วไป ถือได้ว่าจำเลยกระทำผิดในขณะที่รู้สึกผิดชอบและสามารถบังคับตนเองได้
ส่วนในกรณีที่ปรากฏว่า ก่อนจำเลยใช้ปืนยิงโจทก์ร่วมจำเลยได้ด่าว่าโจทก์ร่วมโดยจำเลยโกรธโจทก์ร่วมที่ให้คนมาขุดท่อประปาในที่ดินของจำเลยเสร็จแล้วจำเลยและโจทก์ร่วมต่างแยกเข้าร้านของตนซึ่งถือได้ว่าเหตุการณ์ในตอนนี้ได้ผ่านพ้นไปแล้ว แต่ต่อมาอีกประมาณ 10 นาทีโจทก์ร่วมออกมาดูท่อประปาที่ขุดตามที่คนขุดท่อประปาขอให้มาดูจำเลยวิ่งออกจากร้านโดยไม่พูดจา แล้วใช้ปืนยิงโจทก์ร่วมทันทีเช่นนี้ มิใช่จำเลยกระทำการยิงโจทก์ร่วมในขณะที่เกิดโทสะพลุ่งขึ้นเฉพาะหน้า หากแต่เป็นการที่จำเลยใช้เวลาที่อยู่ในร้านประมาณ 10 นาที คิดไตร่ตรองทบทวนดีแล้วว่าจะยิงโจทก์ร่วมหรือไม่และได้ตระเตรียมปืนไว้ใช้ยิง ดังนี้ที่จำเลยใช้ปืนยิงโจทก์ร่วมจึงเป็นการกระทำโดยไตร่ตรองไว้ก่อน