พบผลลัพธ์ทั้งหมด 2 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2851/2539 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแก้ไขข้อเท็จจริงในฟ้อง: แม้เวลาผิดต่างกัน แต่จำเลยไม่หลงต่อสู้ ศาลลงโทษตามข้อเท็จจริงที่ได้ความ
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานรับของโจรในเหตุการณ์เมื่อปี 2534 แต่ทางพิจารณาโจทก์นำสืบว่า การกระทำความผิดฐานรับของโจรเกิดขึ้นเมื่อปี 2533 แม้ข้อเท็จจริงในทางพิจารณาจะแตกต่างกับข้อเท็จจริงดังที่กล่าวในฟ้องเกี่ยวกับเวลากระทำความผิด แต่จำเลยก็นำสืบข้อเท็จจริงตรงตามที่โจทก์นำสืบมา แสดงว่าจำเลยมิได้หลงต่อสู้ เมื่อข้อแตกต่างดังกล่าวมิใช่ข้อสาระสำคัญตาม ป.วิ.อ. มาตรา 192 วรรคสาม และจำเลยมิได้หลงต่อสู้ จึงลงโทษจำเลยตามข้อเท็จจริงที่ได้ความนั้นได้ ตาม ป.วิ.อ. มาตรา192 วรรคสอง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1576/2495
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การระบุเวลาผิดในฟ้องอาญาเป็นสาระสำคัญ หากไม่ระบุ ศาลต้องยกฟ้องและห้ามฟ้องใหม่
ศาลพิพากษายกฟ้องคดีก่อนโดยวินิจฉัยว่า ฟ้องโจทก์ไม่ระบุเวลากระทำผิดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158(5) เป็นฟ้องไม่ถูกต้องตามกฎหมาย ให้ยกเสียตามมาตรา 161 ดังนี้พึงเห็นได้ว่าเวลากระทำผิดเป็นข้อสำคัญที่โจทก์จะต้องกล่าวในฟ้อง และเวลากระทำผิดเช่นว่านี้ก็เป็นข้อเท็จจริงในเรื่องความผิดที่จำเลยกระทำนั่นเอง จึงได้ชื่อว่าศาลได้ยกฟ้องในความผิดซึ่งได้ฟ้องแล้วตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 39(4) จะฟ้องจำเลยใหม่ ไม่ได้