พบผลลัพธ์ทั้งหมด 15 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3053/2545
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาซื้อขายเสร็จเด็ดขาด: กรรมสิทธิ์รถยนต์โอนทันทีหลังทำสัญญา แม้ยังไม่ได้ชำระเงินครบ
หนังสือสัญญาซื้อขายมีข้อความว่า จำเลยที่ 2 ซื้อรถยนต์ของกลางไปในราคา 90,000 บาท โดยผู้ซื้อจะทำการโอน ย้าย ต่อภาษี พระราชบัญญัติเองทุกอย่าง แสดงว่าหลังจากทำสัญญาแล้ว ผู้ร้องซึ่งเป็นเจ้าของรถยนต์หมดภาระหน้าที่เกี่ยวกับการซื้อขายรถยนต์ของกลางอีกต่อไป ข้อตกลงดังกล่าวจึงมีลักษณะเป็นสัญญาซื้อขายเสร็จเด็ดขาดแม้ในสัญญาจะระบุว่า วันทำสัญญาผู้ซื้อวางมัดจำ 60,000 บาท ส่วนที่เหลือจะชำระให้เสร็จสิ้นภายใน 15 วันก็ตาม แต่ก็มีข้อความต่อไปว่า หากไม่ชำระถือว่าผู้ซื้อผิดสัญญายอมให้ผู้ขายฟ้องร้องได้ทันทีโดยไม่ต้องบอกกล่าวและยอมให้คิดดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ15 ต่อปี นับแต่วันผิดสัญญา แสดงว่าการชำระเงิน 2 งวดดังกล่าวเป็นเพียงการแบ่งชำระราคาซึ่งเป็นหน้าที่ของผู้ซื้อเท่านั้น มิใช่เป็นการวางมัดจำ ข้อเท็จจริงฟังได้ว่าการซื้อขายรถยนต์ของกลางระหว่างผู้ร้องกับจำเลยที่ 2 เป็นการซื้อขายเสร็จเด็ดขาดกรรมสิทธิ์ในรถยนต์ของกลางตกเป็นของจำเลยที่ 2 ตั้งแต่วันทำสัญญา ผู้ร้องจึงไม่มีสิทธิร้องขอคืนรถยนต์ของกลาง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7241/2544 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การถอนตัวจากการเป็นโจทก์ร่วมมีผลเป็นการถอนฟ้องเสร็จเด็ดขาด สิทธิการอุทธรณ์จึงระงับ
การที่โจทก์ร่วมขอถอนตัวจากการเป็นโจทก์ร่วม โดยระบุว่ามีความเห็นหลายอย่างไม่ตรงกับความเห็นของโจทก์ หากโจทก์ร่วมดำเนินคดีนี้ต่อไปอีกอาจจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่รูปคดีของโจทก์ การขอถอนตัวจากการเป็นโจทก์ร่วมดังกล่าวไม่ปรากฏว่าโจทก์ร่วมจะไปดำเนินการอะไรอีก ถือได้ว่าโจทก์ร่วมไม่ประสงค์จะดำเนินคดีแก่จำเลยอีกต่อไป มีผลเท่ากับเป็นการถอนฟ้องในส่วนของโจทก์ร่วมเสร็จเด็ดขาดแล้ว โจทก์ร่วมจะไปขอเข้าร่วมเป็นโจทก์อีกไม่ได้ ต้องห้ามตาม ป.วิ.อ. มาตรา 36
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 747/2539 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กำหนดเวลาฟ้องคดีเวนคืน และผลของประกาศ คสช. ต่อการฟ้องคดีที่เสร็จเด็ดขาดแล้ว
เมื่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยรับอุทธรณ์ของโจทก์แล้วมีหน้าที่ที่จะต้องวินิจฉัยอุทธรณ์โจทก์ให้เสร็จสิ้นภายใน 60 วัน นับแต่วันที่ได้รับคำอุทธรณ์ คือภายในวันที่ 28 กรกฎาคม 2532 ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ พ.ศ.2530 มาตรา 25 วรรคสอง ดังนั้น โจทก์มีสิทธิฟ้องคดีต่อศาลได้ภายใน 1 ปี นับแต่วันที่พ้นกำหนดเวลา 60 วันดังกล่าวคือภายในวันที่28 กรกฎาคม 2533 ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ พ.ศ.2530 มาตรา 26 วรรคหนึ่ง แต่โจทก์ไม่ฟ้องคดีภายในกำหนดเวลาดังกล่าวจึงไม่มีสิทธิฟ้องคดีนี้ แม้ต่อมาจะมีประกาศคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติฉบับที่ 44 ข้อ 2 ให้เพิ่มเติมพระราชบัญญัติว่าด้วยการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ พ.ศ.2530 มาตรา 10 ทวิ ซึ่งมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2534 แต่ประกาศคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ ฉบับที่ 44 ข้อ 2 หามีผลบังคับให้เป็นคุณแก่โจทก์ไม่ เพราะประกาศคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ ฉบับที่ 44 ข้อ 5กำหนดให้การเพิ่มเติมพระราชบัญญัติว่าด้วยการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ พ.ศ.2530มาตรา 10 ทวิ มีผลใช้บังคับแก่การฟ้องคดียังไม่เสร็จเด็ดขาดในวันที่ประกาศคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติฉบับนี้ใช้บังคับด้วยเท่านั้น แต่การฟ้องคดีของโจทก์ได้เสร็จเด็ดขาดแล้วในปี 2533
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 552/2533 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาประนีประนอมยอมความระงับข้อพิพาททั้งหมด รวมทั้งฟ้องแย้ง ถือเป็นอันเสร็จเด็ดขาด
โจทก์ฟ้องและจำเลยฟ้องแย้งเรียกร้องให้อีกฝ่ายหนึ่งชำระเงินแก่ตน คดีเสร็จเด็ดขาดไปโดยคู่ความได้ตกลงทำสัญญาประนีประนอมยอมความกันและศาลได้มีคำพิพากษาตามยอม สัญญาประนีประนอมยอมความข้อ 2ได้ระบุไว้ว่า โจทก์จำเลยต่างไม่ติดใจเรียกร้องอื่นใดกันอีกซึ่งหมายความว่า จำเลยได้สละข้อเรียกร้องของตนตามฟ้องแย้งแล้วถือว่าข้อเรียกร้องตามฟ้องแย้งของจำเลยได้ระงับสิ้นไปด้วยผลของสัญญาประนีประนอมยอมความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 852และคำพิพากษาตามยอมของศาลแรงงานกลางได้พิพากษารวมถึงข้อเรียกร้องตามฟ้องแย้งของจำเลยด้วยแล้ว ศาลแรงงานกลางไม่จำต้องมีคำพิพากษาหรือคำสั่งในส่วนที่เกี่ยวกับฟ้องแย้งของจำเลยอีก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2868/2528 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรรมสิทธิ์ในครั่งโอนทันทีเมื่อซื้อขายเสร็จเด็ดขาด แม้ยังไม่ชำระเงินครบ การเอาไปไม่เป็นลักทรัพย์
ผู้เสียหายตกลงขายครั่งให้แก่จำเลยในราคา 400 บาท จำเลยขอแกะครั่งจากไม้ก่อน เมื่อแกะครั่งแล้ว ก่อนเอาครั่งไปจะชำระเงินอีก 300 บาท โดยไม่ได้ตกลงให้ถือเอาการชำระเงินเป็นเงื่อนไขในการโอนกรรมสิทธิ์ ข้อตกลงดังกล่าวจึงมิใช่เงื่อนไขที่จะทำให้กรรมสิทธิ์ในครั่งไม่โอนไปยังจำเลย การตกลงซื้อขายครั่งระหว่างผู้เสียหายกับจำเลยเป็นการซื้อขายเสร็จเด็ดขาด เพราะเป็นการซื้อเหมาครั่งที่มีจำนวนแน่นอน เมื่อตกลงซื้อขายด้วยวาจากรรมสิทธิ์ในทรัพย์ที่ซื้อขายย่อมโอนไปยังผู้ซื้อทันทีตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 458 การที่จำเลยเอาทรัพย์อันเป็นกรรมสิทธิ์ของจำเลยไป จึงไม่เป็นความผิดฐานลักทรัพย์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2372/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาซื้อขายเสร็จเด็ดขาดมีเงื่อนเวลาชำระหนี้ ผู้ซื้อผิดนัดชำระหนี้ตามสัญญา
ผู้ซื้อทำสัญญาซื้อหุ้นของผู้ขายทั้งหมดในบริษัท รวมทั้งสิทธิในรถยนต์โดยสารรวม 20 คัน โดยจำเลย ชำระเงินสดในวันทำสัญญาเป็นเงินจำนวน 200,000 บาท และผ่อนชำระราคาในส่วนที่เหลือ สัญญานี้จึงเป็น สัญญาซื้อขายเสร็จเด็ดขาดโดยมีเงื่อนเวลาที่ผู้ขายให้โอกาสผู้ซื้อผ่อนชำระราคาได้หนี้ค่าซื้อรถยนต์และหุ้นรายนี้เป็นหนี้ที่มีกำหนดเวลาชำระหนี้ไว้แน่นอนตามวันแห่งปฏิทินตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 204 เมื่อผู้ซื้อ ไม่ชำระหนี้ตามกำหนด จึงตกเป็นผู้ผิดนัด
ฝ่ายผู้ขายมีสองคนและเป็นเจ้าหนี้ร่วมกัน จำเลยซึ่งเป็นลูกหนี้มีสิทธิที่จะชำระหนี้ให้แก่เจ้าหนี้คนใดคนหนึ่งก็ได้ตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 298
ฝ่ายผู้ขายมีสองคนและเป็นเจ้าหนี้ร่วมกัน จำเลยซึ่งเป็นลูกหนี้มีสิทธิที่จะชำระหนี้ให้แก่เจ้าหนี้คนใดคนหนึ่งก็ได้ตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 298
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1298/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาประนีประนอมยอมความเสร็จเด็ดขาด: ความสำคัญผิดก่อนฟ้อง ไม่ใช่กลฉ้อฉล
คู่ความยอมความและศาลพิพากษาตามยอม โจทก์อุทธรณ์อ้างว่าถูกจำเลยฉ้อฉล แต่ตามข้ออุทธรณ์เป็นการอ้างความสำคัญผิดซึ่งมีมาตั้งแต่ก่อนฟ้อง เพราะความประมาทเลินเล่อของโจทก์ คำพิพากษาตามยอมจึงเสร็จเด็ดขาดต้องห้ามอุทธรณ์ตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 138 ไม่มีประโยชน์ที่จะให้โจทก์นำสืบตามข้อกล่าวอ้าง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 536/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การโอนสิทธิการเช่าและการชำระเงินเสร็จเด็ดขาด ทำให้สิทธิการเช่าย่อมตกแก่ผู้รับโอน แม้จะยังไม่ได้ทำพิธีการกับหน่วยงาน
ทำสัญญาโอนสิทธิการเช่าตึกร้านค้าพร้อมด้วยสิทธิการเช่าเครื่องโทรศัพท์ ฯลฯ เมื่อได้ชำระเงินและมอบหมายสิทธิการใช้โทรศัพท์ให้กันเป็นการ เสร็จเด็ดขาดแล้ว คงเหลือแต่พิธีการที่จะไปทำกับกรมไปรษณีย์โทรเลขเท่านั้น ดังนี้สิทธิย่อมตกแก่ผู้รับโอนแล้วมิใช่เป็นการจะซื้อจะขายไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 763/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การสละทรัพย์สินระหว่างสามีภริยาและการแบ่งทรัพย์หลังหย่าขาด โดยการแสดงเจตนาสละสิทธิถือเป็นอันเสร็จเด็ดขาด
โจทก์จำเลยจดทะเบียนสมรสกัน แล้วโจทก์( ภริยา ) ได้โอนกรรมสิทธิที่ดินของตนให้จำเลย( สามี ) แล้วทำหนังสือสละทรัพย์สินส่วนของตนให้แก่จำเลยโดยระบุไว้แจ้งชัดว่าสละให้เพราะจะไปอยู่กินกับชายชู้ แล้วโจทก์กับจำเลยได้จดทะเบียนหย่าขาดกันโดยโจทก์ได้แสดงเจตนาเมื่อจดทะเบียนหย่ายืนยันสละสิทธิของโจทก์ในทรัพย์สินระหว่างสามีภริยา โดยกล่าวว่าไม่มีอะไรจะแบ่งกันแล้วดังนี้ ย่อมฟังได้ว่าการหย่าและแบ่งทรัพย์ระหว่างโจทก์จำเลยได้เสร็จเด็ดขาดไปแล้ว โจทก์จะกลับรื้อฟื้นฟ้องร้อว่ายังไม่ได้แบ่งทรัพย์กันนั้นไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 139/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การซื้อขายเสร็จเด็ดขาด: การรับมอบสิ่งของพร้อมรับรองความพอใจตามตัวอย่าง
ในกรณีซื้อขายตามตัวอย่างนั้น เมื่อทำสัญญาซื้อขายกันแล้วต่อมาตัวแทนของผู้ซื้อมารับมอบสิ่งของที่ซื้อขายกันไป
จากผู้ขาย ได้ทำใบรับรองไว้ให้ ในเอกสารรับรองนั้นมีจำนวนสิ่งของและ-ราคาพร้อมทั้งกล่าวว่าได้ตรวจดูด้วยความ
พอใจตามตัวอย่างเรียบร้อยเช่นนี้ ถือได้ว่า การซื้อขายสิ่งของจำนวนที่รับมอบไปนั้นเป็นการซื้อขายเสร็จเด็ดขาด
แล้ว
จากผู้ขาย ได้ทำใบรับรองไว้ให้ ในเอกสารรับรองนั้นมีจำนวนสิ่งของและ-ราคาพร้อมทั้งกล่าวว่าได้ตรวจดูด้วยความ
พอใจตามตัวอย่างเรียบร้อยเช่นนี้ ถือได้ว่า การซื้อขายสิ่งของจำนวนที่รับมอบไปนั้นเป็นการซื้อขายเสร็จเด็ดขาด
แล้ว