คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
เสียกรรมสิทธิ์

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 4 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 497/2537

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การจ้างวานเบิกความเท็จทำให้เสียกรรมสิทธิ์ ผู้เสียหายมีอำนาจฟ้องและฟ้องชอบด้วยกฎหมาย
จำเลยเป็นผู้ใช้ให้ พ. ไปร้องขอแสดงกรรมสิทธิ์ที่ดินและเบิกความเท็จต่อศาลชั้นต้นในคดีแพ่ง จนศาลชั้นต้นเชื่อและมีคำสั่งให้ พ. ได้กรรมสิทธิ์ในที่ดินโจทก์ทั้งสามในฐานะเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ร่วมกับจำเลยย่อมได้รับผลกระทบกระเทือนเสื่อมเสียกรรมสิทธิ์ในที่ดิน จึงเป็นผู้ได้รับความเสียหายจากการกระทำผิดของจำเลยโดยตรง ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 2(4)และมีอำนาจฟ้องจำเลยตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 28(2) โจทก์ทั้งสามฟ้องจำเลยเป็นผู้จ้างวานใช้ให้ พ. ไปยื่นคำร้องและเบิกความเท็จตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 84 ประกอบด้วยมาตรา 177 มิได้ฟ้องจำเลยว่าเป็นผู้เบิกความเท็จ จึงไม่จำเป็นต้องบรรยายฟ้องถึงข้อเท็จจริงอันเป็นองค์ประกอบความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 177 เมื่อฟ้องของโจทก์ทั้งสามได้บรรยายถึงการกระทำทั้งหลายที่อ้างว่าจำเลยได้กระทำความผิดฐานะเป็นผู้ใช้พอสมควรที่จำเลยจะเข้าใจข้อหาได้ดี ฟ้องของโจทก์ทั้งสามจึงชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158(5)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2374/2536

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การจ้างวานเบิกความเท็จทำให้เสียกรรมสิทธิ์ในที่ดิน โจทก์เป็นผู้เสียหายมีอำนาจฟ้อง
จำเลยที่ 5 ได้จ้างวานให้จำเลยที่ 1 ที่ 2 และที่ 4เบิกความอันเป็นเท็จ และจำเลยดังกล่าวได้เบิกความอันเป็นเท็จในการพิจารณาคดีแพ่งของศาลชั้นต้น เป็นเหตุให้โจทก์ต้องเสียกรรมสิทธิ์ในที่ดินไปโดยตรง โจทก์จึงเป็นบุคคลผู้ได้รับความเสียหายเนื่องจากการกระทำของจำเลยที่ 5และคำเบิกความเท็จของจำเลยที่ 1 ที่ 2 และที่ 4 โจทก์ย่อมเป็น ผู้เสียหายตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 2(4) และมีอำนาจฟ้องจำเลยดังกล่าวได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 28(2) โดยไม่จำต้องคำนึงว่าโจทก์ต้องเป็นคู่ความในคดีที่จำเลยที่ 1 ที่ 2และที่ 4 เบิกความเท็จนั้นหรือไม่ ฟ้องโจทก์บรรยายถึงคดีที่จำเลยที่ 1 ที่ 2 และที่ 4เบิกความอันเป็นเท็จ ทำให้ศาลเชื่อว่าจำเลยที่ 1ได้กรรมสิทธิ์ในที่ดินของโจทก์โดยการครอบครองปรปักษ์จริงจึงมีคำสั่งให้จำเลยที่ 1 ได้กรรมสิทธิ์ในที่ดินดังกล่าวและการกระทำของจำเลยที่ 1 ที่ 2 และที่ 4 เกิดจากจำเลยที่ 5เป็นผู้จ้างวานหรือใช้ให้ยื่นคำร้องและเบิกความอันเป็นเท็จต่อศาล ฟ้องโจทก์ดังกล่าวได้บรรยายถึงการกระทำที่อ้างว่าจำเลยได้กระทำผิดพอสมควรเท่าที่จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดีแล้วเป็นฟ้องที่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 158(5)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1370/2494

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องของบิดาในฐานะผู้แทนโดยชอบธรรม แม้ผลคดีทำให้บุตรเสียกรรมสิทธิ์
โจทก์ฟ้องบิดาของเด็กเป็นจำเลยในฐานะส่วนตัวและทั้งฐานะบิดาผู้แทนโดยชอบธรรมของเด็ก ในการต่อสู้คดี บิดาก็คงยอมรับให้การในฐานะเป็นบิดาผู้แทนโดยชอบธรรมของเด็กด้วยมิได้คัดค้านประการใด ดังนี้ การดำเนินคดีของบิดาในฐานะบิดาผู้แทนโดยชอบธรรมของเด็กเช่นนี้ ย่อมเป็นการชอบ แม้ในคดีนี้ศาลได้พิพากษาให้เด็กเสียกรรมสิทธิ์ในที่ดินไปก็ตาม กรณีหาต้องด้วย ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1546 ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 417/2490 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ โจทก์ฟ้องเรียกทรัพย์แต่เสียกรรมสิทธิ์ไปแล้ว ศาลล่างพิพากษายกฟ้องชอบแล้ว
โจทก์ฟ้องเรียกทรัพย์จากจำเลยอ้างว่าเป็นของโจทก์ ทางพิจารณาได้ความว่า เดิมเป็นของโจทก์จริง แต่โจทก์ได้โอนกรรมสิทธิ์ให้คนอื่นแล้วดังนี้ ศาลต้องยกฟ้อง