พบผลลัพธ์ทั้งหมด 6 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2670/2528
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การวิวาททำร้ายร่างกายซึ่งกันและกัน ไม่อาจฟ้องเรียกค่าเสียหายได้ เพราะเป็นการสมัครใจเสี่ยงภัย
โจทก์จำเลยต่างถูกพนักงานอัยการประจำศาลแขวงอุดรธานีฟ้องหาว่าโจทก์จำเลยทะเลาะวิวาททำร้ายร่างกายซึ่งกันและกัน ศาลพิพากษาว่าโจทก์จำเลยต่างมีความผิดฐานทำร้ายร่างกายตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 295 คดีถึงที่สุด โจทก์จำเลยต่างมาฟ้องและฟ้องแย้งว่าอีกฝ่ายหนึ่งกระทำละเมิดให้ใช้ค่าเสียหายที่ต่างถูกทำร้ายเป็นคดีนี้ จึงเป็นการฟ้องคดีแพ่งที่เกี่ยวเนื่องกับคดีอาญา ในการพิพากษาคดีส่วนแพ่ง ศาลจำต้องถือข้อเท็จจริงตามที่ปรากฏในคำพิพากษาคดีส่วนอาญา
โจทก์จำเลยได้ทะเลาะวิวาททำร้ายร่างกายซึ่งกันและกัน เป็นกรณีที่โจทก์จำเลยต่างสมัครใจเข้าเสี่ยงภัยยอมรับอันตรายหรือความเสียหายที่อาจจะเกิดมีขึ้นแก่ตนจากการทำร้ายกันนั้น การที่โจทก์ทำร้ายร่างกายจำเลยและจำเลยทำร้ายร่างกายโจทก์จนต่างได้รับบาดเจ็บด้วยกัน จึงถือไม่ได้ว่าเป็นการละเมิดต่อกันโจทก์จำเลยจึงต่างไม่จำต้องรับผิดใช้ค่าสินไหมทดแทนเพราะเหตุที่ต่างทำให้ได้รับบาดเจ็บซึ่งกันและกัน โจทก์และจำเลยจึงไม่มีอำนาจฟ้องและฟ้องแย้ง
เรื่องอำนาจฟ้องเป็นปัญหาข้อกฎหมายที่เกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน แม้ปัญหานี้ไม่เป็นข้อที่ได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ ศาลฎีกาชอบที่จะยกขึ้นวินิจฉัยได้
โจทก์จำเลยได้ทะเลาะวิวาททำร้ายร่างกายซึ่งกันและกัน เป็นกรณีที่โจทก์จำเลยต่างสมัครใจเข้าเสี่ยงภัยยอมรับอันตรายหรือความเสียหายที่อาจจะเกิดมีขึ้นแก่ตนจากการทำร้ายกันนั้น การที่โจทก์ทำร้ายร่างกายจำเลยและจำเลยทำร้ายร่างกายโจทก์จนต่างได้รับบาดเจ็บด้วยกัน จึงถือไม่ได้ว่าเป็นการละเมิดต่อกันโจทก์จำเลยจึงต่างไม่จำต้องรับผิดใช้ค่าสินไหมทดแทนเพราะเหตุที่ต่างทำให้ได้รับบาดเจ็บซึ่งกันและกัน โจทก์และจำเลยจึงไม่มีอำนาจฟ้องและฟ้องแย้ง
เรื่องอำนาจฟ้องเป็นปัญหาข้อกฎหมายที่เกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน แม้ปัญหานี้ไม่เป็นข้อที่ได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ ศาลฎีกาชอบที่จะยกขึ้นวินิจฉัยได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 248/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยินยอมเข้าเสี่ยงภัยจากการวิวาทด้วยอาวุธปืน ทำให้ไม่เกิดละเมิดต่อคู่วิวาท
ม.สมัครใจเข้าวิวาทโดยใช้อาวุธปืนยิงต่อสู้กับจำเลยที่ 1 ที่ 2 จึงเป็นกรณีที่ ม. สมัครใจยินยอมเข้าเสี่ยงภัยยอมรับอันตรายหรือความเสียหายที่อาจจะเกิดมีขึ้นแก่ตนจากการยิงต่อสู้ของจำเลยที่ 1 ที่ 2 เมื่อจำเลยที่ 1 ยิงถูก ม.ถึงแก่ความตายในการต่อสู้กันนั้น จึงถือไม่ได้ว่าเป็นการกระทำละเมิดต่อ ม. จำเลยที่ 1 ที่ 2 ไม่จำต้องรับผิดชอบใช้ค่าสินไหมทดแทนเพราะเหตุที่ทำให้ ม.ถึงแก่ความตายนั้นแต่อย่างใด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 567/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การหลีกรถโดยประมาท เสี่ยงภัย และการใช้ความระมัดระวังของผู้ขับขี่
ผู้ที่ขับรถยนต์หลีกรถที่จอดอยู่ขึ้นไปทางขวากินทางของฝ่ายรถที่สวนมาข้างหน้านั้น ตามวิสัยจะต้องเป็นฝ่ายใช้ความระมัดระวังให้เพียงพอ มิฉะนั้นอาจถือว่าเป็นการเสี่ยงภัยของตนเองได้
จำเลยขับรถบรรทุกหลีกรถที่จอดอยู่ขึ้นไปทางขวาปิดทางรถที่กำลังลงสะพานสวนมาข้างหน้าโดยมิได้ชลอความเร็ว ทำให้ผู้ขับรถสวนมาไม่สามารถแก้ไขอย่างอื่นได้ นอกจากห้ามล้อทันที เป็นเหตุให้รถที่สวนมาเสียหลักการทรงตัวไถลเอาข้างไปชนรถจำเลยเข้า เกิดอันตรายแก่รถและผู้ที่นั่งมาด้วย เช่นนี้ จำเลยย่อมมีความผิดฐานขับรถโดยประมาท
จำเลยขับรถบรรทุกหลีกรถที่จอดอยู่ขึ้นไปทางขวาปิดทางรถที่กำลังลงสะพานสวนมาข้างหน้าโดยมิได้ชลอความเร็ว ทำให้ผู้ขับรถสวนมาไม่สามารถแก้ไขอย่างอื่นได้ นอกจากห้ามล้อทันที เป็นเหตุให้รถที่สวนมาเสียหลักการทรงตัวไถลเอาข้างไปชนรถจำเลยเข้า เกิดอันตรายแก่รถและผู้ที่นั่งมาด้วย เช่นนี้ จำเลยย่อมมีความผิดฐานขับรถโดยประมาท
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1048/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การจุดไฟเผาในที่เสี่ยงภัยและประมาทเลินเล่อ จนเกิดความเสียหายต่อทรัพย์สินผู้อื่น
จำเลยจุดไฟเผาเรียวไผ่ที่โคนกอไผ่ขณะที่ลมกำลังแรงและที่ตรงนั้นก็มีป่าไผ่ติดต่อกันอยู่เป็นพืดตั้ง 20 กอ แห้งบ้าง สดบ้าง และใกล้ ๆ นั้นก็มีบ้านเรือนของราษฎรอยู่กันหลายหลัง จึงเป็นเรื่องที่น่ากลัวจะเป็นอันตรายแก่ทรัพย์สินของผู้อื่น มีผู้ห้ามจำเลยจำเลยก็ไม่เชื่อฟังขืนจุดจนได้ จึงเป็นเหตุให้ไฟไหม้กอไผ่ขึ้น แล้วลูกไฟปลิวตกไหม้บ้านเรือนผู้เสียหายหมด ดังนี้ ความผิดของจำเลยเลยต้องด้วย ก.ม.อาญามาตรา 187-186 ไม่ใช่เรื่องทำให้ไฟไหม้โดยประมาทตาม ม.201 (1)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 909/2474
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดทางอาญาจากการเสียชีวิตอันเนื่องจากความประมาทและการเสี่ยงภัยของตนเอง
ฆ่าคนตายโดยประมาท เสี่ยงอันตราย
กฎหมาย ใช้กฎหมายแล้วยังมิได้จัดการบังคับให้เป็นไปตามกฎหมาย
กฎหมาย ใช้กฎหมายแล้วยังมิได้จัดการบังคับให้เป็นไปตามกฎหมาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7294/2556
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยินยอมเข้าเสี่ยงภัยกับการใช้ความรุนแรงเกินกว่าที่ยินยอม การกระทำละเมิดและการรับผิดชดใช้ค่าเสียหาย
ข้อเท็จจริงรับฟังยุติว่า โจทก์ที่ 1 เป็นผู้ก่อเหตุท้าชกต่อยขึ้นก่อน เมื่อ ว. เข้าร่วมในการท้าทายและเกิดชกต่อยต่อสู้กัน จึงเท่ากับทั้งสองฝ่ายยินยอมเข้าเสี่ยงภัยจากการทะเลาะวิวาทนั้น ซึ่งหากเหตุการณ์ดำเนินไปเพียงเท่านี้ การกระทำของทั้งสองฝ่ายย่อมไม่ก่อให้เกิดความรับผิดฐานละเมิด แต่เมื่อจำเลยที่ 1 ใช้มีดดาบเป็นอาวุธทำร้ายโจทก์ที่ 1 กรณีจึงต้องถือว่าเป็นเหตุการณ์ที่เกินเลยไปกว่าที่โจทก์ที่ 1 ได้สมัครใจเข้าเสี่ยงภัยกับ ว. เหตุนี้การที่จำเลยที่ 1 ทำร้ายร่างกายโจทก์ที่ 1 ด้วยอาวุธมีดดาบให้ได้รับอันตรายแก่กาย จึงเป็นการกระทำโดยผิดกฎหมาย ต้องใช้ค่าสินไหมทดแทน โจทก์ทั้งสองมีอำนาจฟ้อง