คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
เสื่อมสภาพ

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 8 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6092/2538

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาเช่าซื้อเลิกกันแล้ว ค่าเสียหายจากการใช้ทรัพย์และค่าเสื่อมสภาพรถยนต์ ผู้เช่าซื้อต้องรับผิด
เมื่อสัญญาเช่าซื้อเลิกกันแล้วย่อมมีผลทำให้คู่สัญญาแต่ละฝ่ายได้กลับคืนสู่ฐานะดังที่เป็นอยู่เดิมแต่ไม่มีผลกระทบกระทั่งถึงสิทธิเรียกร้องค่าเสียหายแก่กันตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา391และมาตรา392บัญญัติว่าการชำระหนี้ของคู่สัญญาอันเกิดแต่การเลิกสัญญานั้นให้เป็นไปตามบทบัญญัติแห่งมาตรา369กล่าวคือให้นำมาตรา369ว่าด้วยการชำระหนี้ในสัญญาต่างตอบแทนมาใช้บังคับโจทก์จึงมีสิทธิเรียกให้จำเลยชดใช้ค่าเสียหายอันเป็นค่าขาดประโยชน์หรือค่าใช้ทรัพย์ได้แม้ตามคำฟ้องโจทก์เรียกร้องมาเป็นค่าเช่าซื้อที่ค้างชำระแต่เมื่อคำฟ้องบรรยายมาว่าการที่จำเลยผิดนัดผิดสัญญาต่อโจทก์จนกระทั่งโจทก์บอกเลิกสัญญาและยึดรถยนต์ที่เช่าซื้อกลับคืนมาดังกล่าวทำให้โจทก์ได้รับความเสียหายกล่าวคือตลอดเวลาตั้งแต่ทำสัญญาเช่าซื้อจนกระทั่งโจทก์บอกเลิกสัญญาและยึดรถยนต์คืนมานั้นจำเลยเป็นผู้ครอบครองใช้รถยนต์ที่เช่าซื้ออันเป็นกรรมสิทธิ์ของโจทก์โดยจำเลยผิดนัดไม่ชำระค่าเช่าซื้อตั้งแต่งวดแรกวันที่4ตุลาคม2533ถึงงวดที่12วันที่4กันยายน2534ซึ่งคำนวณแล้วจำเลยค้างชำระค่าเช่าซื้อเป็นเงิน652,584บาทถือได้ว่าโจทก์ฟ้องเรียกร้องค่าเสียหายอันเป็นค่าขาดประโยชน์หรือค่าใช้ทรัพย์ของโจทก์มาตลอดเวลาที่จำเลยยังครอบครองทรัพย์ของโจทก์อยู่ด้วยดังนี้ศาลจึงมีอำนาจพิพากษาให้จำเลยชดใช้ค่าเสียหายในส่วนนี้และค่าเสียหายเช่นนี้ศาลอาจกำหนดตามที่เห็นสมควรได้ไม่ถือว่าเป็นการพิพากษาเกินไปกว่าหรือนอกจากที่ปรากฏในคำฟ้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา142 เมื่อกรณีเป็นที่เห็นได้ว่าจำเลยมีส่วนนำรถยนต์ที่เช่าซื้อไปใช้โดยมิชอบไม่สงวนทรัพย์สินเสมอกับวิญญูชนจะพึงสงวนทรัพย์สินของตนเองเป็นเหตุให้รถยนต์ชำรุดเสียหายจำเลยจึงต้องรับผิดในส่วนที่รถยนต์ขายได้ราคาต่ำลงมาเนื่องจากความชำรุดเสียหายดังกล่าวตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา562ทั้งข้อตกลงในสัญญาเช่าซื้อตามสำเนาหนังสือสัญญาเช่าซื้อรถยนต์ก็ระบุว่าเมื่อสัญญาเช่าซื้อสิ้นสุดลงถ้าปรากฏว่ารถยนต์ที่เช่าซื้อตกอยู่ในสภาพเสื่อมเหลือมูลค่าเป็นเงินไม่คุ้มกับค่าเช่าซื้อที่โจทก์ยังไม่ได้รับชำระหนี้หมดตามสัญญารวมกับหนี้สินอื่นๆที่จำเลยยังคงค้างชำระอยู่จำเลยจะต้องรับผิดชำระเงินที่ยังขาดอยู่เป็นค่าเสียหายให้แก่โจทก์จนครบถ้วนด้วยจำเลยจึงต้องรับผิดชำระค่าเสื่อมราคารถยนต์ที่เช่าซื้อให้แก่โจทก์ ตามหนังสือสัญญาเช่าซื้อรถยนต์ระบุว่า"ถ้าผู้เช่าซื้อผิดนัดไม่ชำระค่าเช่าซื้อตามจำนวนและสถานที่ตามที่กำหนดไว้ในสัญญานี้หรือไม่ชำระค่าเสียหายและหรือหนี้สินอื่นใดที่ผู้เช่าซื้อต้องรับผิดชอบต่อบริษัทผู้เช่าซื้อจะต้องรับผิดชอบเสียดอกเบี้ยจากจำนวนเงินที่ค้างชำระให้แก่บริษัทในอัตราร้อยละสิบเจ็ดต่อปีนับแต่วันผิดนัดจนกว่าจะชำระเสร็จอีกด้วย"ดังนี้ข้อสัญญาดังกล่าวไม่รวมถึงหนี้ค่าเสียหายอันเป็นค่าขาดประโยชน์หรือค่าใช้ทรัพย์ค่าเสียหายดังกล่าวนี้โจทก์คงมีสิทธิเรียกดอกเบี้ยในอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา224เท่านั้นส่วนค่าเสื่อมราคารถยนต์ที่เช่าซื้อนั้นเป็นหนี้ที่จำเลยจะต้องชำระตามข้อตกลงในสัญญาแต่ข้อตกลงเรื่องดอกเบี้ยในค่าเสียหายดังกล่าวนี้เป็นวิธีกำหนดค่าเสียหายไว้ล่วงหน้าวิธีหนึ่งมีลักษณะเป็นการกำหนดเบี้ยปรับถ้ากำหนดไว้สูงเกินส่วนศาลอาจลดลงเป็นจำนวนที่พอสมควรได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4012/2536 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การประเมินภาษี การหักลดหย่อนราคาสินค้าคงเหลือที่เสื่อมสภาพ การพิสูจน์ราคาตลาดตามความเป็นจริง
เมื่อสินค้าคงเหลือเป็นสินค้าเสื่อมราคาและมีราคาตลาดเพียงร้อยละ 15 ของราคาทุน การตีราคาสินค้าคงเหลือในวันสุดท้ายของรอบระยะเวลาบัญชีตามราคาตลาดซึ่งต่ำกว่าราคาทุนในการเสียภาษีเงินได้นิติบุคคล จึงเป็นไปตามเงื่อนไขของประมวลรัษฎากร มาตรา 65 ทวิ (6)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4012/2536 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การตีราคาสินค้าคงเหลือต่ำกว่าราคาทุนตามราคาตลาด กรณีสินค้าเสื่อมสภาพและมีราคาตลาดต่ำกว่าทุน
เมื่อสินค้าคงเหลือเป็นสินค้าเสื่อมราคาและมีราคาตลาดเพียงร้อยละ 15 ของราคาทุน การตีราคาสินค้าคงเหลือในวันสุดท้ายของรอบระยะเวลาบัญชีตามราคาตลาด ซึ่งต่ำกว่าราคาทุนจึงเป็นไปตามเงื่อนไขของประมวลรัษฎากร มาตรา 65 ทวิ (6)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3827/2533

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดของเจ้าหน้าที่ต่อความเสียหายของไม้ของกลาง: อายัดแล้วต้องดูแลรักษา หากเสื่อมสภาพตามกาลเวลาไม่ต้องรับผิด
เจ้าพนักงานป่าไม้และเจ้าพนักงานตำรวจผู้ตรวจพบไม้ได้อายัดไม้ของกลางของโจทก์ไว้ และให้จำเลยที่ 2 เป็นผู้ดูแลตามระเบียบของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จำเลยที่ 3 เป็นเพียงพนักงานสอบสวนผู้รับแจ้งความ มีหน้าที่ทำการสืบสวนดำเนินคดีให้เสร็จสิ้นไปโดยเร็วเท่านั้น ไม่ได้เกี่ยวข้องกับไม้ของกลาง แม้จะเกิดความเสียหายกับไม้ของกลาง จำเลยที่ 3 ก็ไม่ต้องรับผิด ดังนั้นจำเลยที่ 4 ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาของจำเลยที่ 3 จึงไม่ต้องรับผิดเช่นกัน จำเลยที่ 1 ได้อายัดไม้ของกลางของโจทก์แล้วก็ปล่อยให้อยู่ในสภาพเดิมไม่ได้ขนย้ายออกไป ไม้ดังกล่าวได้ปลูกสร้างอยู่ในที่ดินของโจทก์ และหลังการอายัดเพียง 28 วัน ก็ได้มีการมุงหลังคาโครงสร้างฉางไว้ แสดงว่าจำเลยที่ 1 ได้จัดการดูแลรักษาไม้ที่อายัดไว้ดีพอสมควรแล้ว แม้จะเสื่อมสภาพไปบ้างก็เป็นไปตามกาลเวลา ไม่ใช่เพราะความบกพร่องของจำเลยที่ 1 จึงไม่ต้องรับผิดชอบใช้ค่าเสียหายในส่วนนี้แก่โจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2999/2530

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ วัตถุแห่งความผิด: ลูกระเบิดเสื่อมสภาพ ไม่สามารถระเบิดได้ แม้ความประสงค์มีเจตนาพยายามฆ่า
จำเลยใช้ลูกระเบิดขว้างพยายามฆ่าผู้เสียหาย แต่ลูกระเบิดไม่ระเบิดเพราะชนวนเสื่อมคุณภาพ เป็นกรณีที่ลูกระเบิดไม่มีคุณสมบัติที่จะเป็นวัตถุแห่งการกระทำผิดได้ และมิใช่เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้โดยเหตุบังเอิญ แต่เป็นเรื่องที่ไม่อาจบรรลุผลได้อย่างแน่แท้เพราะเหตุปัจจัยซึ่งใช้ในการกระทำ จำเลยจึงมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288ประกอบด้วยมาตรา 81.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1326/2525

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การสร้างอาคารคร่อมทางภารจำยอม ไม่ทำให้เสื่อมสภาพการใช้ประโยชน์ จึงไม่ถือเป็นการละเมิดสิทธิ
แม้สร้างตึกคร่อมทางภารจำยอมพิพาท แต่ยังเดินผ่านและรถยนต์บรรทุกขนาดใหญ่แล่นเข้าออกได้สะดวก ไม่ทำให้เสื่อมสภาพต่อการใช้ประโยชน์แห่งทางภารจำยอมพิพาทตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1390ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1387 เป็นบทบัญญัติที่กล่าวถึงลักษณะแห่งภารจำยอมมิใช่บทบัญญัติห้ามเจ้าของภารยทรัพย์สร้างอาคารตึกคร่อมทางภารจำยอม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1069/2509

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หุ้นส่วนรถยนต์, การใช้รถส่วนตัว, ค่าเสียหายจากการเสื่อมสภาพ, อายุความฟ้องละเมิด
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยเอารถพิพาทวิ่งรับจ้างหาประโยชน์เป็นการส่วนตัวหรือแต่ผู้เดียว ดังนี้ ถือว่าโจทก์มิได้ฟ้องว่าจำเลยเอารถออกวิ่งรับจ้างหาประโยชน์ในฐานะที่จำเลยเป็นหุ้นส่วนกับโจทก์ ซึ่งโจทก์จะต้องร่วมรับผิดชอบในกำไรและขาดทุน โจทก์จึงไม่มีสิทธิที่จะขอแบ่งผลกำไรหรือรายได้ที่จำเลยหาได้เป็นการส่วนตัว และรายได้นี้ไม่ถือเป็นดอกผลนิตินัย
รถพิพาทเป็นรถที่โจทก์จำเลยร่วมกันซื้อไว้ให้เป็นรถของหุ้นส่วนระหว่างโจทก์กับจำเลยหรือเป็นทำนองโจทก์กับจำเลยเป็นเจ้าของรถพิพาทร่วมกัน การใช้สิทธิใดๆ ของจำเลยต่อรถ จะต้องไม่เป็นการใช้สิทธิซึ่งมีแต่จะให้เกิดความเสียหายแก่โจทก์หรือใช้สิทธิที่ไม่ขัดสิทธิของโจทก์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 421 และ 1360 การที่จำเลยเอารถพิพาทออกวิ่งรับจ้างหาประโยชน์ทำให้รถเสื่อมคุณภาพสึกหรอ ทำให้โจทก์เสียหายนั้นเป็นการที่จำเลยใช้สิทธิซึ่งมีแต่จะเกิดความเสียหายแก่โจทก์และขัดต่อสิทธิของโจทก์การกระทำของจำเลยจึงเป็นการทำละเมิดต่อโจทก์
เมื่อจำเลยต่อสู้ว่าคดีของโจทก์ขาดอายุความฟ้องร้อง โจทก์ก็จำต้องพิสูจน์ให้เห็นว่า คดีของโจทก์มิได้ขาดอายุความ แต่โจทก์มิได้นำสืบดังกล่าว รูปคดีก็ต้องฟังว่าคดีของโจทก์ขาดอายุความดังที่จำเลยต่อสู้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2090/2552

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความค่าเสียหายจากการเสื่อมสภาพทรัพย์สินหลังสัญญาเช่าซื้อเลิกกัน มิใช่ความเสียหายระหว่างสัญญามีอายุความ 10 ปี
โจทก์ฟ้องเรียกค่าเสียหายจากการยึดเครื่องถ่ายเอกสารที่เช่าซื้อคืนเมื่อสัญญาเช่าซื้อเลิกกันแล้วเครื่องถ่ายเอกสารอยู่ในสภาพชำรุดทรุดโทรมเพราะจำเลยยังคงใช้เครื่องถ่ายเอกสารของโจทก์ต่อไป โจทก์จึงคิดค่าเสียหายจากการเสื่อมราคา เงินค่าเสียหายในส่วนนี้เกิดขึ้นหลังจากสัญญาเช่าซื้อได้เลิกกันแล้ว กรณีไม่ต้องด้วยอายุความ 6 เดือน ตาม ป.พ.พ. มาตรา 563 เมื่อไม่มีกฎหมายบัญญัติอายุความไว้โดยเฉพาะจึงมีอายุความ 10 ปี ตาม มาตรา 193/30