พบผลลัพธ์ทั้งหมด 8 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 396/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลงโทษฐานทำให้เสื่อมเสียอิสรภาพ แม้ไม่มีความผิดฐานกรรโชก
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานกรรโชก ทางพิจารณาได้ความเพียงว่า จำเลยไปพูดขู่เอาเงินผู้เสียหายโดยว่า ถ้าไม่ให้จะทำร้าย แต่ผู้เสียหายไม่ได้ให้เงินไปหรือมิได้ สัญญาว่าจะให้เงิน เพราะได้แจ้งความไว้แล้ว และเจ้าพนักงานตำรวจมารอให้ความอารักขาอยู่แล้ว จึงเข้าจับกุมจำเลย แต่โดยมีความผิดฐานกรรโชค รวมการกระทำฐานทำให้เสื่อมเสียอิสรภาพอยู่ด้วย ซึ่งเป็นความผิดได้อยู่ในตัวเอง ศาลจึงย่อมลงโทษฐานทำให้เลื่อมเสียอิสระภาพตามที่พิจารณาได้ความได้ โดยอาศัย ป.วิ.อ. มาตรา 192 วรรคท้าย
(อ้างฎีกาที่ 358/2481)
(อ้างฎีกาที่ 358/2481)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 396/2503
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลงโทษฐานทำให้เสื่อมเสียอิสรภาพ แม้ไม่มีความผิดฐานกรรโชก
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานกรรโชก ทางพิจารณาได้ความเพียงว่า จำเลยไปพูดขู่เอาเงินผู้เสียหายโดยว่า ถ้าไม่ให้จะทำร้ายแต่ผู้เสียหายไม่ได้ให้เงินไปหรือมิได้สัญญาว่าจะให้เงิน เพราะได้แจ้งความไว้แล้ว และเจ้าพนักงานตำรวจมารอให้ความอารักขาอยู่แล้วจึงเข้าจับกุมจำเลยแต่โดยที่ความผิดฐานกรรโชกรวมการกระทำฐานทำให้เสื่อมเสียอิสรภาพอยู่ด้วย ซึ่งเป็นความผิดได้อยู่ในตัวเองศาลจึงย่อมลงโทษจำเลยฐานทำให้เสื่อมเสียอิสรภาพตามที่พิจารณาได้ความได้ โดยอาศัย ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 192 วรรคท้าย(อ้างฎีกาที่ 358/2481)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 804/2502
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องไม่สมบูรณ์! จำเลยแจ้งความเท็จ-ทำให้เสื่อมเสียอิสรภาพ โจทก์บรรยายฟ้องไม่ชัดเจน
ฟ้องโจทก์ที่บรรยายว่า จำเลยร้องเรียนและแจ้งความเท็จต่อเจ้าพนักงาน ถ้าโจทก์มิได้บรรยายให้ชัดแจ้งว่า ข้อความที่จำเลยร้องเรียนและแจ้งแก่เจ้าพนักงานนั้น เท็จอย่างใดและความจริงเป็นฉันใด อันพอที่จะให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดี แม้ข้อความในตอนท้ายจะมีกล่าวว่าโดยจำเลยรู้อยู่ก่อนแล้วว่า เป็นข้อความเท็จหรือมิได้มีการกระทำผิดอาญาเกิดขึ้น ก็เป็นข้อความที่กล่าวอย่างเคลือบคลุม ไม่ปรากฏว่าจำเลยรู้ว่าเป็นเท็จในข้อใด คำว่า "หรือมิได้มีการกระทำผิดอาญาเกิดขึ้น" ก็เป็นคำกล่าวอย่างกว้างๆ ไม่แน่ชัดว่าเหตุที่ไม่มีการกระทำผิดเกิดขึ้นนั้นเป็นเพราะไม่มีการกระทำหรือว่าเป็นเพราะการกระทำนั้นไม่เป็นผิดอาญาทั้งมีคำว่า "หรือ" ประกอบอยู่ในฟ้อง ซึ่งเป็นถ้อยคำที่แสดงถึงการไม่ยืนยันให้แน่ชัด ฟ้องโจทก์เช่นนี้ย่อมไม่สมบูรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158(5)
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยไปแจ้งความเท็จหาว่าโจทก์ลักทรัพย์เป็นเหตุให้เจ้าพนักงานจับโจทก์ไปควบคุมไว้ ขอให้ลงโทษจำเลยฐานทำให้เสื่อมเสียอิสระภาพนั้น การที่โจทก์ถูกจับกุมและถูกควบคุมตัวดังที่กล่าวในฟ้อง ย่อมเป็นหน้าที่ของเจ้าพนักงานซึ่งจะเห็นสมควรปฏิบัติต่อโจทก์อย่างใดตามควรแก่กรณี เพียงแต่พิจารณาฟ้อง ก็ยกฟ้องได้แล้ว เพราะตามที่บรรยายในฟ้องจำเลยยังไม่มีความผิดฐานนี้
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยไปแจ้งความเท็จหาว่าโจทก์ลักทรัพย์เป็นเหตุให้เจ้าพนักงานจับโจทก์ไปควบคุมไว้ ขอให้ลงโทษจำเลยฐานทำให้เสื่อมเสียอิสระภาพนั้น การที่โจทก์ถูกจับกุมและถูกควบคุมตัวดังที่กล่าวในฟ้อง ย่อมเป็นหน้าที่ของเจ้าพนักงานซึ่งจะเห็นสมควรปฏิบัติต่อโจทก์อย่างใดตามควรแก่กรณี เพียงแต่พิจารณาฟ้อง ก็ยกฟ้องได้แล้ว เพราะตามที่บรรยายในฟ้องจำเลยยังไม่มีความผิดฐานนี้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 278/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดอาญาแผ่นดินฐานเสื่อมเสียอิสรภาพ: สิทธิฟ้องของอัยการไม่ต้องอาศัยการร้องทุกข์ของผู้เสียหาย
ความผิดฐานเสื่อมเสียอิสระภาพตาม กฎหมายอาญามาตรา268วรรคสามเป็นความผิดอาญาแผ่นดินโดยตรง มิใช่ความผิดต่อส่วนตัวโดยปกติพนักงานอัยการย่อมมีสิทธิจะฟ้องร้องจำเลยในความผิดฐานนี้ได้โดยไม่จำเป็นต้องอาศัยการร้องทุกข์ของผู้เสียหายเพียงแต่โจทก์บรรยายฟ้องถึงเรื่องข่มขืนกระทำชำเราด้วยเพื่อให้ได้ความสมบูรณ์ตามรูปเรื่องซึ่งความจริงเรื่องข่มขืนกระทำชำเรานั้นผู้เสียหายได้ถอนคำร้องทุกข์ไปแล้วย่อมเป็นที่เห็นได้ชัดว่าผู้เสียหายมีสิทธิที่จะถอนได้แต่เฉพาะเรื่องที่เป็นความผิดต่อส่วนตัวเท่านั้นไม่เกี่ยวกับความผิดอันเป็นอาญาแผ่นดินโดยตรงประการใดเลยและไม่เป็นการกระทบกระเทือนถึงสิทธิฟ้องคดีของโจทก์ในเรื่องความผิดฐานเสื่อมเสียอิสระภาพดังกล่าวมาแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1617/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การหน่วงเหนี่ยวกักขัง ทำร้ายร่างกาย และเสื่อมเสียอิสรภาพ ศาลต้องพิจารณาข้อหาอย่างครบถ้วน
คดีได้ความจากคำเบิกความของผู้เสียหายว่า จำเลยบอกว่าจะจับตัวไปส่งสถานีตำรวจ แล้วจำเลยก็คุมตัวผู้เสียหายไป และเตะผู้เสียหายในระหว่างทาง แล้วหาส่งตัวผู้เสียหายต่อกำนันหรืออำเภอไม่ เพียงเท่านี้ ศาลจะด่วนยกข้อหาฐานทำให้เสื่อมเสียอิสรภาพตาม กฎหมายลักษณะอาญามาตรา 270 เสียโดยไม่พิจารณาให้สิ้นกระแสความตามกระบวนพิจารณาหาชอบได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 845/2487
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การมอบหมายให้ผู้อื่นจับกุม ไม่ถึงการทำให้เสื่อมเสียอิสรภาพ
จำเลยบอกให้กำนันจับเขาโดยหาว่าลักแหวน เขาถูกจับควบคุมดังนี้จำเลยไม่มีผิดฐานทำให้เสื่อมเสียอิสรภาพ เพราะการจะจับหรือไม่อยู่ในดุลยพินิจของกำนัน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 668/2487
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข่มขู่เรียกทรัพย์โดยอาศัยความกลัว มีความผิดฐานทำให้เสื่อมเสียอิสรภาพ
จำเลยพูดขู่เข็ญผู้เสียหายว่าจะให้ตำรวจจับ ถ้าไม่ให้เงิน 35 บาทผู้เสียหายมีความกลัวจึงได้ให้เงินแก่จำเลยไป ดังนี้ จำเลยย่อมมีความผิดฐานทำให้เสื่อมเสียอิสรภาพ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 590/2485 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การควบคุมตัวเกินเหตุ แม้ไม่มีเหตุให้เชื่อว่าจะหลบหนี เป็นความผิดฐานทำให้เสื่อมเสียอิสรภาพ
เมื่อพฤติการณ์แสดงว่าผู้ต้องหาว่าลักทรัพย์จะไม่หลบหนีแล้วถ้าผู้จับจะใช้วิธีล่ามโซ่ ก็ย่อมมีผิดตามมาตรา 270