พบผลลัพธ์ทั้งหมด 2 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 571/2544
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำขอพิจารณาใหม่ต้องแสดงเหตุโดยละเอียดชัดแจ้งถึงข้อคัดค้านคำพิพากษา หากไม่ชัดเจน ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
ปัญหาตามที่จำเลยฎีกาว่าคำร้องขอให้พิจารณาใหม่ของจำเลยได้กล่าวโดยละเอียดชัดแจ้งซึ่งข้อคัดค้านคำตัดสินของศาลแล้วนั้นศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ได้วินิจฉัยไว้ครบถ้วนชัดเจนแล้วว่าคำขอให้พิจารณาใหม่ของจำเลยเป็นเพียงข้อโต้เถียงว่าฟ้องของโจทก์ไม่ถูกต้องและเป็นการกล่าวอ้างเพียงลอย ๆ แต่ไม่ได้แสดงเหตุโดยละเอียดชัดแจ้งว่าคำพิพากษาไม่ชอบ ไม่ถูกต้องอย่างไร หากมีการพิจารณาใหม่แล้วศาลอาจพิพากษาให้จำเลยชนะคดีได้อย่างไร คำขอให้พิจารณาใหม่ของจำเลยไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 208 วรรคสองดังนั้น ปัญหาตามฎีกาของจำเลยจึงเป็นปัญหาอันไม่ควรได้รับการวินิจฉัยจากศาลฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 249 วรรคหนึ่ง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5245/2534 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การปฏิเสธการรับมอบเงินกู้ และการบอกเลิกสัญญาค้ำประกัน จำเลยต้องแสดงเหตุผลชัดแจ้งตามกฎหมาย
จำเลยกล่าวในคำให้การว่า ไม่รับรองว่าจะมีการส่งมอบเงินกู้ครบถ้วนจำนวนตามสัญญาหรือไม่ เพราะไม่ปรากฏจำนวนเงินนั้นทางเอกสารใด นอกจากสัญญารูปแบบมาตรฐานที่โจทก์ทำไว้ก่อนมีการลงนาม จำเลยมิได้กล่าวปฏิเสธให้ชัดแจ้งว่า จำเลยที่ 1 ไม่ได้รับเงินกู้ไปตามสัญญา ทั้งมิได้ให้เหตุผลว่าเหตุใด โจทก์จึงไม่ได้ส่งมอบเงินให้จำเลยที่ 1 เหตุแห่งคำให้การปฏิเสธของจำเลยมิได้แสดงโดยชัดแจ้งตาม ป.วิ.พ. มาตรา 177 วรรคสอง จำเลยจึงไม่มีประเด็นที่จะนำสืบตามข้อกล่าวอ้างของตน การจะบอกเลิกสัญญากันได้นั้น ต้องอาศัยข้อสัญญาหรือกฎหมายที่มีบทบัญญัติให้เลิกสัญญาได้ จะเลิกสัญญาเอาเองโดยไม่มีข้อสัญญายินยอมกันหรือไม่มีกฎหมายบัญญัติให้เลิกสัญญานั้นไม่ได้ สัญญาค้ำประกันเงินกู้ ไม่ได้กำหนดเป็นข้อสัญญาให้จำเลยที่ 2 ถึงที่ 6ฝ่ายผู้ค้ำประกันมีสิทธิเลิกสัญญาได้ และโจทก์ปฏิเสธไม่ยินยอมให้จำเลยที่ 2 ถึงที่ 6 บอกเลิกสัญญา ดังนี้สัญญาค้ำประกันยังไม่ระงับไป.