คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
เหตุผลอันควร

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 9 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1379/2549 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การอุทธรณ์อย่างคนอนาถา: ศาลยืนคำสั่งเดิม แม้จำเลยอ้างยากจน เหตุคดีไม่มีเหตุผลอันควร
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ยกคำร้องขออุทธรณ์อย่างคนอนาถาของจำเลยโดยวินิจฉัยว่า จำเลยมิใช่ผู้ยากจนและคดีไม่มีเหตุผลอันควรที่จะอุทธรณ์ หากจำเลยไม่พอใจคำสั่งดังกล่าว จำเลยมีสิทธิที่ดำเนินการตามที่ ป.วิ.พ. มาตรา 156 วรรคสี่หรือวรรคห้าบัญญัติไว้โดยยื่นคำร้องขอต่อศาลให้พิจารณาคำขอนั้นใหม่เพื่ออนุญาตให้จำเลยนำพยานหลักฐานมาแสดงเพิ่มเติมว่าตนเป็นคนยากจน หรือโดยอุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้นที่ยกคำร้องขออุทธรณ์อย่างคนอนาถาของจำเลยนั้นต่อศาลอุทธรณ์ภายใน 7 วัน นับแต่วันที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งดังกล่าว การที่จำเลยใช้สิทธิตาม ป.วิ.พ. มาตรา 156 วรรคสี่ ยื่นคำร้องต่อศาลชั้นต้นให้พิจารณาคำขอใหม่เพื่ออนุญาตให้จำเลยนำพยานหลักฐานมาแสดงเพิ่มเติมว่าตนเป็นคนยากจน ก็ไม่เป็นประโยชน์แก่รูปคดีของจำเลยเพราะปัญหาที่ว่าคดีของจำเลยมีเหตุผลอันควรที่จะอุทธรณ์หรือไม่ได้ยุติไปแล้ว กรณีไม่มีเหตุที่จะพิจารณาคำขอของจำเลยใหม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3389/2541

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การไม่อยู่ในวันนัดไต่สวนคำร้องขอพิจารณาใหม่โดยไม่มีเหตุผลอันควร อาจถูกมองว่าเป็นการประวิงคดี
จำเลยทั้งสองเคยร้องขอเลื่อนการไต่สวนคำร้องขอให้พิจารณาคดีใหม่โดยอ้างเหตุจำเลยที่ 1 ซึ่งประสงค์ จะสืบเป็นพยานเพียงปากเดียว ติดภาระหน้าที่ราชการถึงสองนัดศาลชั้นต้นก็ได้เห็นความสำคัญของภาระหน้าที่ที่จำเลยที่ 1ต้องปฏิบัติด้วยการอนุญาตให้เลื่อนการไต่สวนมาแล้วทั้งสองนัดการที่จำเลยที่ 1 ไม่มาศาลในนัดที่สามโดยการโทรศัพท์แจ้งให้ทนายความจำเลยทั้งสองแถลงต่อศาลชั้นต้นว่าจำเลยที่ 1ติดประชุมโดยจำเลยที่ 1 ไม่มีหลักฐานที่ควรแก่การเชื่อถือมาแสดงว่ามีการประชุมเรื่องดังกล่าวกันจริงและจำเลยที่ 1จำเป็นจะต้องไปร่วมประชุมด้วยตนเอง ถือว่าจำเลยที่ 1ไม่ให้ความสำคัญแก่คำกำชับและวันเวลานัดของศาลชั้นต้นซึ่งเป็นเวลานัดของหน่วยงานราชการที่สำคัญหน่วยงานหนึ่งเช่นกัน ข้ออ้างของจำเลยที่ 1 จึงมิใช่เหตุจำเป็นอันไม่อาจก้าวล่วงเสียได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4579/2532 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแก้ไขฟ้องอาญา: เหตุผลอันควร, รายละเอียดในฟ้อง, ไม่ทำให้จำเลยเสียเปรียบ
โจทก์ขอแก้ฟ้องวันเวลาที่อ้างว่าจำเลยกระทำความผิดโดยอ้างเหตุว่าเนื่องจากพิมพ์ผิดพลาด เป็นการขอแก้รายละเอียดซึ่งต้องแถลงในฟ้องและเหตุที่โจทก์อ้างมานั้นเป็นเหตุอันสมควรอนุญาตให้โจทก์แก้ฟ้องได้ เพราะอาจเกิดบกพร่องเช่นนั้นได้ ทั้งจำเลยให้การปฏิเสธลอย ๆ และชั้นไต่สวนมูลฟ้อง พยานโจทก์ก็เบิกความว่าจำเลยกระทำความผิดตามวันที่ที่โจทก์ขอแก้ จึงไม่ทำให้จำเลยหลงข้อต่อสู้ชอบที่จะให้โจทก์แก้ฟ้องได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2081/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแก้คำให้การหลังรับสารภาพ: เหตุผลอันควร & การพิจารณาคดีใหม่
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยกระทำความผิดหลายกรรม และเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายฉบับ ข้อเท็จจริงแต่ละกรรมพัวพันกัน แม้เมื่อศาลชั้นต้นพิพากษาแล้วโจทก์ก็ยังอุทธรณ์ว่าศาลชั้นต้นลงโทษจำเลยไม่ครบถ้วนทุกกระทงความผิด ลักษณะของความผิดและพฤติการณ์แห่งคดีเป็นดังนี้ การที่จำเลยขอแก้คำให้การสารภาพเป็นปฏิเสธ โดยอ้างว่าให้การรับสารภาพไปโดยเข้าใจผิดในข้อเท็จจริง ถือได้ว่ามีเหตุอันควร เมื่อจำเลยขอแก้ก่อนศาลชั้นต้นพิพากษา จึงสมควรอนุญาตให้จำเลยแก้คำให้การได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2665/2515

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิแก้คำให้การในคดีอาญา: เหตุผลอันควรเมื่อจำเลยปรึกษาทนายความและเข้าใจสิทธิในการต่อสู้คดี
จำเลยถูกฟ้องว่าพยายามฆ่าผู้อื่น ตอนแรกจำเลยให้การรับสารภาพ และไม่ต้องการทนาย ครั้นถึงวันนัดสืบพยานโจทก์ จำเลยได้แต่งทนาย และยื่นคำร้องขอถอนคำให้การเดิม ขอให้การใหม่ว่ามิได้กระทำผิด อ้างเหตุผลว่ารับสารภาพเพราะเข้าใจผิด และไม่ตรงต่อความจริงดังนี้ เป็นเหตุผลที่อาจเป็นไปได้ เพราะขณะจำเลยให้การรับสารภาพ จำเลยไม่มีทนายความต่อเมื่อได้ปรึกษาทนายความแล้ว จึงเกิดความเข้าใจถูกต้องในการต่อสู้คดี นับว่าเป็นเหตุอันควรเมื่อประกอบกับในคดีอาญา จำเลยย่อมมีสิทธิต่อสู้คดีได้เต็มที่ดังที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 165วรรคหนึ่ง ตามรูปคดีจึงสมควรที่จะอนุญาตให้จำเลยแก้คำให้การได้ เมื่อศาลชั้นต้นไม่อนุญาตให้จำเลยแก้คำให้การ และสืบพยานโจทก์ไปฝ่ายเดียว แล้วพิพากษาลงโทษจำเลย จึงไม่ชอบด้วยวิธีพิจารณา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1341/2509

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขัดขืนหมายเรียกไม่เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 168 หากมีเหตุผลอันควรหรือมีการใช้สิทธิไม่ให้การ
เมื่อมีผู้ไปแจ้งความต่อพนักงานสอบสวนกล่าวหาว่าจำเลยบุกรุกที่ดิน จำเลยย่อมตกอยู่ในฐานะเป็นผู้ต้องหาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 2(2) แล้ว ซึ่งในชั้นสอบสวนตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 134 พนักงานสอบสวนจะบังคับให้ผู้ต้องหาให้ถ้อยคำใดๆไม่ได้และมาตรา 135 ก็บัญญัติห้ามมิให้พนักงานสอบสวนล่อลวงหรือขู่เข็ญผู้ต้องหาให้ให้การอีกด้วย จึงเห็นได้ว่าหมายเรียกของพนักงานสอบสวนที่ให้ผู้ต้องหามาเพื่อให้การ ไม่เข้าลักษณะเป็นคำบังคับตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 168
กรณีผู้ต้องหาขัดขืนไม่มาให้การตามหมายเรียกโดยไม่มีข้อแก้ตัวอันควรนั้น ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 66(3) บัญญัติทางแก้ไว้ ให้พนักงานสอบสวนมีอำนาจออกหมายจับตัวมาได้ เป็นการลงโทษอยู่แล้ว จึงเห็นได้ว่าเจตนารมย์ของประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 168 หาได้มุ่งหมายจะใช้บังคับกับผู้ต้องหาที่ขัดขืนไม่มาให้การต่อพนักงานสอบสวนตามหมายเรียกด้วยไม่(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 17/2509)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1447/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การริบของกลางในคดีค้ากำไรเกินควร: ริบเฉพาะส่วนที่เกี่ยวข้องกับการปฏิเสธการขายโดยไม่มีเหตุผล
ไม่ยอมขายสิ่งของที่คณะกรรมการป้องกันการค้ากำไรเกินควรกำหนดราคาไว้อันเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ป้องกันการค้ากำไรเกินควร 2490 นั้น สิ่งของที่ห้ามค้ากำไรเกินควรซึ่งเกี่ยวเนื่องกับความผิดคือสิ่งของที่มีผู้ขอซื้อไม่เกินสมควรแก่การใช้ แต่ผู้ขายไม่ยอมขายโดยไม่มีเหตุผลอันควรเท่านั้น และย่อมริบได้เฉพาะสิ่งของที่ไม่ยอมขายดังกล่าวเท่านั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 763/2478

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การป้องกันตนเองที่เกินสมควรแก่เหตุ: ศาลฎีกาวินิจฉัยว่าเป็นการป้องกันตามกฎหมาย
พฤตติการณ์ที่ฟังว่าเป็นการกระทำโดยป้องกันถือมีดเมาสุราขึ้นมาท้าทาย+ เตะบุตร์จำเลยตก+ แล้วยังแสดงกิริยาทำร้ายจำเลยแลผู้อื่นอีกจำเลยจึงฟันผู้ตาย 3 ทีในทันใดนั้นเอง เป็นการ+
หมายเหตุ ส่วนประเด็นว่าควรแก่เหตุหรือไม่ศาลไม่วินิจฉัยถึง เพราะ+
ประมวลวิธีพิจารณาอาญา + ศาลเดิมจำคุก 10 ปี ตาม + -55
ศาลอุทธรณ์แก้เป็นจำคุก 1 ปี ม.249-53 +ข้อเท็จจริงได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7402/2551

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเลื่อนการสืบพยานเนื่องจากติดตามตัวพยานไม่ได้ ศาลไม่ควรด่วนงดสืบพยานทันที
โจทก์ขอให้ศาลออกหมายเรียกพยานโจทก์ตามบัญชีระบุพยานอันดับ 2 ถึงอันดับ 7 ให้มาศาลตามกำหนดเวลาที่ศาลนัดสืบพยานโจทก์ไว้ในวันที่ 7 และ 8 เมษายน 2547 แล้ว เมื่อพยานโจทก์ดังกล่าวไม่มาศาล โจทก์แถลงต่อศาลว่าพยานทั้งหมดได้รับหมายเรียกแล้ว จึงเป็นหน้าที่ของพยานที่จะต้องมาเบิกความต่อศาลตามกำหนดนัด จะถือว่าเป็นความผิดของโจทก์ที่ไม่ติดตามพยานมาศาลหาได้ไม่ และในวันนัดสืบพยานโจทก์วันที่ 8 เมษายน 2547 ศาลชั้นต้นให้เลื่อนการสืบพยานโจทก์โดยมีคำสั่งให้ออกหมายจับพยานโจทก์ดังกล่าวก็เพื่อให้ได้ตัวพยานมาเบิกความ จึงต้องให้เวลาแก่โจทก์พอสมควรที่จะสามารถดำเนินการตามหมายจับได้ การที่ศาลชั้นต้นให้เลื่อนคดีไปเพียง 1 วัน โดยให้นัดสืบพยานโจทก์พร้อมพยานจำเลยตามที่นัดไว้ในวันรุ่งขึ้น เห็นได้ว่าเป็นเวลากระชั้นชิดไปสำหรับการติดตามจับพยาน ซึ่งไม่แน่ว่าจะยังพบตัวอยู่ตามที่อยู่ที่พยานเคยให้ไว้หรือไม่ เมื่อในวันนัดที่เลื่อนไปดังกล่าว ปรากฏว่ายังไม่ได้ตัวพยานมาศาลตามหมายจับและโจทก์แถลงขอเลื่อนคดี โดยยังประสงค์จะติดตามพยานมาสืบ แม้จะได้ความจากโจทก์ว่าพยานทั้งหมดที่ศาลออกหมายจับมีอาชีพรับจ้างมีที่อยู่ไม่เป็นหลักแหล่ง แต่หากให้เวลาโจทก์พอสมควรโจทก์ก็อาจให้เจ้าพนักงานตำรวจติดตามสืบหาที่อยู่ของพยานและได้ตัวมาเบิกความต่อศาลได้ การขอเลื่อนคดีของโจทก์จึงมีเหตุอันควร กรณียังไม่สมควรที่ศาลชั้นต้นจะด่วนงดสืบพยานโจทก์ดังกล่าวทันทีอันอาจเป็นเหตุให้เสียความยุติธรรมได้ ชอบที่ศาลชั้นต้นจะเลื่อนการพิจารณาสืบพยานโจทก์ไปตาม ป.วิ.อ. มาตรา 179 วรรคสอง