พบผลลัพธ์ทั้งหมด 5 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5643/2538 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขอพิจารณาคดีใหม่ต้องแสดงเหตุผลโต้แย้งคำตัดสินชัดเจน การกล่าวอ้างสัญญาเช่ายังไม่หมดอายุโดยไม่มีหลักฐานไม่เพียงพอ
คำร้องขอให้พิจารณาใหม่ของจำเลยกล่าวเพียงว่าสัญญาเช่ายังไม่ครบอายุยังมีอายุสัญญาเช่าอีก9ปีโดยไม่มีเหตุผลหรือหลักฐานอ้างอิงสนับสนุนว่าเหตุใดจำเลยจึงยังคงมีสิทธิอยู่อีกทั้งๆที่ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่าสัญญาเช่ามีผลบังคับตามกฎหมายได้เพียง3ปีซึ่งครบกำหนดไปแล้วและโจทก์ได้บอกเลิกสัญญาโดยชอบแล้วคำร้องขอของจำเลยจึงมิได้กล่าวโดยละเอียดชัดแจ้งซึ่งข้อคัดค้านคำตัดสินชี้ขาดของศาลชั้นต้นเห็นการไม่ชอบตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา208วรรคสอง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4764/2537
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฎีกาไม่รับวินิจฉัยเนื่องจากมิได้ยกเหตุผลโต้แย้งคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ และฎีกาเรื่องค่าฤชาธรรมเนียมไม่ถูกต้อง
โจทก์บรรยายฟ้องฎีกาข้อแรกถึงข้อเท็จจริงตามที่โจทก์นำสืบแล้วลงท้ายฎีกาว่าโจทก์ไม่เห็นพ้องด้วย ขอให้โจทก์ฎีกาพิพากษากลับคำพิพากษาศาลอุทธรณ์โดยมิได้ยกเหตุผลขึ้นโต้แย้งคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ว่าไม่ชอบข้อไหนอย่างไร ถือไม่ได้ว่าเป็นการกล่าวอ้างข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายโดยชัดแจ้งในฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 249 วรรคหนึ่งศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย ส่วนที่โจทก์ฎีกาว่าศาลชั้นต้นกำหนดค่าทนายความให้โจทก์ใช้แก่จำเลยสูงเกินไปนั้น เมื่อศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยฎีกาข้อแรก คดีคงเหลือปัญหาตามฎีกาซึ่งเป็นเรื่องค่าฤชาธรรมเนียมอย่างเดียว เมื่อโจทก์มิได้ยกเหตุว่าศาลชั้นต้นมิได้กำหนดหรือคำนวณให้ถูกต้องตามกฎหมาย ถือว่าเป็นฎีกาต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 168
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1605/2535
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฎีกาไม่ชัดแจ้ง – เหตุผลโต้แย้งคำพิพากษาไม่เพียงพอ & ประเด็นใหม่ไม่ยกขึ้น – ไม่รับวินิจฉัย
จำเลยฎีกาอ้างเพียงว่า คำเบิกความของโจทก์ไม่น่าเชื่อถือโดยมิได้กล่าวอ้างมาในฎีกาว่าฝ่ายจำเลยมีพยานหลักฐานน่าเชื่อถือกว่าหรือไม่ อย่างไร มิได้โต้แย้งคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ว่าจำเลยทั้งสองควรชนะคดีอย่างไร จึงเป็นฎีกาที่ไม่ชัดแจ้งตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 249 ปัญหาว่า ที่พิพาทเป็นที่ราชพัสดุหรือไม่ จำเลยมิได้ให้การต่อสู้ไว้ ทั้งมิใช่ปัญหาเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชนจึงเป็นฎีกาไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 249
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2690/2530
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การอ้างเหตุผลโต้แย้งคำเบิกความของผู้เสียหายในอุทธรณ์ ถือเป็นการระบุข้อเท็จจริงตามกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา
ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่าจำเลยมีความผิดโดยอาศัยคำเบิกความของผู้เสียหายเป็นหลัก เมื่อจำเลยอ้างคำเบิกความบางตอนของผู้เสียหายมาในอุทธรณ์และให้เหตุผลว่าเหตุใดจึงไม่ควรเชื่อคำเบิกความของผู้เสียหาย ถือว่าจำเลยได้ระบุข้อเท็จจริงโดยย่อที่ยกขึ้นอ้างอิงตามความหมายของประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 193 วรรคสองแล้ว.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 442/2510
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขอพิจารณาคดีใหม่หลังขาดนัด สืบเนื่องจากจำเลยไม่ทราบการฟ้องคดี และมีเหตุผลโต้แย้งข้อเท็จจริงที่ศาลพิจารณา
คำขอให้พิจารณาคดีใหม่ของจำเลยกล่าวว่า จำเลยไม่ทราบว่าโจทก์ฟ้องเพราะย้ายภูมิลำเนาไปอยู่ในที่กันดารห่างไกลจึงไม่ได้ต่อสู้คดี ความจริงจำเลยไม่ได้กู้เงินโจทก์ไม่ได้พิมพ์ลายมือในสัญญากู้ศาลพิจารณาคดีโจทก์ฝ่ายเดียว แล้วพิพากษาให้จำเลยแพ้คดี ดังนี้ เท่ากับจำเลยกล่าวแสดงเหตุผลละเอียดชัดแจ้งแล้วว่า ถ้าจำเลยได้ต่อสู้คดีสืบพยานจำเลยก็อาจชนะคดีโดยศาลอาจฟังว่าจำเลยไม่ได้กู้เงินโจทก์ถือได้ว่าคำขอของจำเลยได้กล่าวโดยละเอียดถึงเหตุที่ขาดนัดและ ข้อคัดค้านคำตัดสินชี้ขาดของศาลตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 208 แล้ว