พบผลลัพธ์ทั้งหมด 9 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6939/2537 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การตั้งผู้อนุบาล: สามี/ภริยาเป็นผู้มีสิทธิก่อน เว้นแต่มีเหตุสำคัญจึงตั้งผู้อื่นได้
กรณีที่ศาลสั่งให้สามีหรือภริยาเป็นคนไร้ความสามารถจะต้องตั้งคู่สมรสเป็นผู้อนุบาลก่อนเพียงคนเดียว หากมีผู้อื่นร้องขอและมีเหตุสำคัญ ศาลจะตั้งผู้อื่นเป็นผู้อนุบาลก็ได้ การจะตั้งทั้งคู่สมรสและบุคคลอื่นเป็นผู้อนุบาลร่วมกันจะไม่สอดคล้องกับประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1463
การจัดการสินสมรสของคนไร้ความสามารถ ผู้อนุบาลต้องปฏิบัติตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1598/16 คือถ้าเป็นการจัดการตามมาตรา 1476 วรรคหนึ่ง ก็จะต้องได้รับอนุญาตจากศาลก่อนจึงไม่มีเหตุสมควรที่จะตั้งผู้ร้องเป็นผู้อนุบาลร่วมกับผู้คัดค้าน
การจัดการสินสมรสของคนไร้ความสามารถ ผู้อนุบาลต้องปฏิบัติตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1598/16 คือถ้าเป็นการจัดการตามมาตรา 1476 วรรคหนึ่ง ก็จะต้องได้รับอนุญาตจากศาลก่อนจึงไม่มีเหตุสมควรที่จะตั้งผู้ร้องเป็นผู้อนุบาลร่วมกับผู้คัดค้าน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6939/2537 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การตั้งผู้อนุบาล: คู่สมรสมีสิทธิก่อน เว้นแต่มีเหตุสำคัญจึงจะตั้งผู้อื่นได้
กรณีที่ศาลสั่งให้สามีหรือภริยาเป็นคนไร้ความสามารถจะต้องตั้งคู่สมรสเป็นผู้อนุบาลก่อนเพียงคนเดียว หากมีผู้อื่นร้องขอและมีเหตุสำคัญ ศาลจะตั้งผู้อื่นเป็นผู้อนุบาลก็ได้ การจะตั้งทั้งคู่สมรสและบุคคลอื่นเป็นผู้อนุบาลร่วมกัน จะไม่สอดคล้องกับประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1463 การจัดการสินสมรสของคนไร้ความสามารถ ผู้อนุบาลต้องปฏิบัติตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1598/16 คือถ้าเป็นการจัดการตามมาตรา 1476 วรรคหนึ่ง ก็จะต้องได้รับอนุญาตจากศาลก่อนจึงไม่มีเหตุสมควรที่จะตั้งผู้ร้องเป็นผู้อนุบาลร่วมกับผู้คัดค้าน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6939/2537
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแต่งตั้งผู้อนุบาล: ต้องแต่งตั้งคู่สมรสก่อน หากมีเหตุสำคัญศาลจึงจะตั้งผู้อื่นได้ การตั้งผู้อนุบาลร่วมไม่เป็นไปตามกฎหมาย
กรณีที่ศาลสั่งให้สามีหรือภริยาเป็นคนไร้ความสามารถจะต้องตั้งคู่สมรสเป็นผู้อนุบาลก่อนเพียงคนเดียวหากมีผู้อื่นร้องขอและมีเหตุสำคัญศาลจะตั้งผู้อื่นเป็นผู้อนุบาลก็ได้การจะตั้งทั้งคู่สมรสและบุคคลอื่นเป็นผู้อนุบาลร่วมกันจะไม่สอดคล้องกับประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา1463 การจัดการสินสมรสของคนไร้ความสามารถผู้อนุบาลต้องปฏิบัติตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา1598/16คือถ้าเป็นการจัดการตามมาตรา1476วรรคหนึ่งก็จะต้องได้รับอนุญาตจากศาลก่อนจึงไม่มีเหตุสมควรที่จะตั้งผู้ร้องเป็นผู้อนุบาลร่วมกับผู้คัดค้าน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2521/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เบิกความเท็จไม่เป็นเหตุสำคัญในคดียาเสพติด ประเด็นคือการครอบครองเฮโรอีน
เมื่อประเด็นของคดีที่โจทก์ถูกฟ้องฐานกระทำผิดต่อพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษอยู่ที่โจทก์ครอบครองเฮโรอีนโดยมิได้รับอนุญาตจริงหรือไม่คำเบิกความของจำเลยผู้จับกุมโจทก์ที่ว่า ไม่เคยรู้จักกับโจทก์ หรือมีสาเหตุโกรธเคืองกับโจทก์และที่ว่า จำเลยทั้งสองไม่เคยจับกุมคุมขังโจทก์ในข้อหามีกัญชา จึงหาเป็นข้อสำคัญในคดีดังกล่าวไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 225/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเบิกความเท็จในคดีเรียกคืนโฉนด การชำระหนี้จำนองไม่เป็นเหตุสำคัญในคดี
ศาลชั้นต้นยกฟ้องโดยข้อกฎหมาย ศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องโดยข้อเท็จจริง โจทก์ฎีกาข้อเท็จจริงได้
จำเลยเบิกความในข้อที่ว่าโจทก์ชำระหนี้จำนองแล้วหรือไม่ ข้อนี้ไม่ว่าจะเท็จหรือไม่เท็จก็ไม่ทำให้สิทธิของโจทก์ที่จะได้รับหรือไม่ได้รับโฉนดคืนในคดีที่โจทก์ฟ้องผันแปรไปจึงไม่ใช่ข้อสำคัญในคดี ไม่มีมูลความผิดฐานเบิกความเท็จ
จำเลยเบิกความในข้อที่ว่าโจทก์ชำระหนี้จำนองแล้วหรือไม่ ข้อนี้ไม่ว่าจะเท็จหรือไม่เท็จก็ไม่ทำให้สิทธิของโจทก์ที่จะได้รับหรือไม่ได้รับโฉนดคืนในคดีที่โจทก์ฟ้องผันแปรไปจึงไม่ใช่ข้อสำคัญในคดี ไม่มีมูลความผิดฐานเบิกความเท็จ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 553/2513 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เบิกความเท็จเป็นเหตุให้ศาลหลงเชื่อและพิพากษาคดีแพ่งผิดพลาด ถือเป็นความผิดฐานเบิกความเท็จ
ธนาคารฟ้องขอให้บังคับโจทก์ชำระเงินตามตั๋วแลกเงิน โจทก์ได้ให้การต่อสู้คดีว่า นายมานิตย์ได้ชำระเงินตามตั๋วแลกเงินให้ธนาคารฯ แทนโจทก์ตามเช็คเลขที่ เค.0343109 แล้ว ข้อที่ว่าธนาคารได้รับเช็คชำระเงินตามตั๋วแลกเงินแล้วหรือไม่ จึงเป็นข้อสำคัญในคดี ฉะนั้น ที่จำเลยเบิกความในฐานะผู้จัดการธนาคารฯ ว่าได้รับแต่ตั๋วแลกเงินจากโจทก์ ไม่มีเช็คกำกับด้วย อันเป็นความเท็จ ถือได้ว่าจำเลยได้เบิกความเท็จอันเป็นข้อสำคัญในคดีการกระทำของจำเลยจึงมีมูลเป็นความผิดฐานเบิกความเท็จตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 177
วันเวลาเกิดเหตุในฟ้องคดีอาญาเป็นเพียงรายละเอียดที่โจทก์บรรยายมาในฟ้องหาใช่ข้อสารสำคัญไม่ และเมื่อการพิจารณาเป็นเพียงชั้นไต่สวนมูลฟ้องซึ่งจำเลยยังมิได้ให้การ ยังไม่ปรากฏว่าจำเลยหลงข้อต่อสู้จึงยกเอาเหตุข้อเท็จจริงที่ปรากฏในทางพิจารณาแตกต่างกับข้อเท็จจริงดังที่กล่าวในฟ้องขึ้น ยกฟ้องในชั้นนี้ยังไม่ได้
(อ้างฎีกาที่ 93/2513)
วันเวลาเกิดเหตุในฟ้องคดีอาญาเป็นเพียงรายละเอียดที่โจทก์บรรยายมาในฟ้องหาใช่ข้อสารสำคัญไม่ และเมื่อการพิจารณาเป็นเพียงชั้นไต่สวนมูลฟ้องซึ่งจำเลยยังมิได้ให้การ ยังไม่ปรากฏว่าจำเลยหลงข้อต่อสู้จึงยกเอาเหตุข้อเท็จจริงที่ปรากฏในทางพิจารณาแตกต่างกับข้อเท็จจริงดังที่กล่าวในฟ้องขึ้น ยกฟ้องในชั้นนี้ยังไม่ได้
(อ้างฎีกาที่ 93/2513)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 553/2513
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เบิกความเท็จเป็นเหตุให้ศาลหลงเชื่อและพิพากษาคดีแพ่งผิดพลาด ถือเป็นข้อสำคัญในคดีอาญา
ธนาคารฟ้องขอให้บังคับโจทก์ชำระเงินตามตั๋วแลกเงิน โจทก์ได้ให้การต่อสู้คดีว่า นายมานิตย์ได้ชำระเงินตามตั๋วแลกเงินให้ธนาคารฯ แทนโจทก์ ตามเช็คเลขที่ เค.0343109 แล้ว ข้อที่ว่าธนาคารได้รับเช็คชำระเงินตามตั๋วแลกเงินแล้วหรือไม่ จึงเป็นข้อสำคัญในคดี ฉะนั้น ที่จำเลยเบิกความในฐานะผู้จัดการธนาคารฯ ว่าได้รับแต่ตั๋วแลกเงินจากโจทก์ไม่มีเช็คกำกับด้วย อันเป็นความเท็จ ถือได้ว่าจำเลยได้เบิกความเท็จอันเป็นข้อสำคัญในคดีการกระทำของจำเลยจึงมีมูลเป็นความผิดฐานเบิกความเท็จตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 177
วันเวลาเกิดเหตุในฟ้องคดีอาญาเป็นเพียงรายละเอียดที่โจทก์บรรยายมาในฟ้อง หาใช่ข้อสารสำคัญไม่ และเมื่อการพิจารณาเป็นเพียงชั้นไต่สวนมูลฟ้องซึ่งจำเลยยังมิได้ให้การ ยังไม่ปรากฏว่าจำเลยหลงข้อต่อสู้จึงยกเอาเหตุข้อเท็จจริงที่ปรากฏในทางพิจารณาแตกต่างกับข้อเท็จจริงดังที่กล่าวในฟ้องขึ้น ยกฟ้องในชั้นนี้ยังไม่ได้ (อ้างฎีกาที่ 93/2512)
วันเวลาเกิดเหตุในฟ้องคดีอาญาเป็นเพียงรายละเอียดที่โจทก์บรรยายมาในฟ้อง หาใช่ข้อสารสำคัญไม่ และเมื่อการพิจารณาเป็นเพียงชั้นไต่สวนมูลฟ้องซึ่งจำเลยยังมิได้ให้การ ยังไม่ปรากฏว่าจำเลยหลงข้อต่อสู้จึงยกเอาเหตุข้อเท็จจริงที่ปรากฏในทางพิจารณาแตกต่างกับข้อเท็จจริงดังที่กล่าวในฟ้องขึ้น ยกฟ้องในชั้นนี้ยังไม่ได้ (อ้างฎีกาที่ 93/2512)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1235/2506
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เหตุสำคัญให้คู่หมั้นไม่ยอมสมรส: การหมิ่นประมาทอย่างร้ายแรง และข่าวลือความสัมพันธ์ชู้สาวที่ไม่เป็นความจริง
ชายคู่หมั้นตั้งรังเกียจหญิงคู่หมั้น โดยหญิงคู่หมั้นนั่งซ้อนท้ายรถจักรยานซึ่งชายอื่นขี่เพื่อไปดูภาพยนตร์ในเวลากลางคืน มีเพื่อนไปด้วยกันรวม 7 คน แล้วชาวบ้านคิดเดาและลือกันว่าหญิงนั้นมีความสัมพันธ์ทางชู้สาวกับชายที่ขี่จักรยานนั้น การที่หญิงคู่หมั้นกระทำเพียงเท่านี้ แล้วต่อมาหญิงนั้นไม่ยอมสมรสกับชายคู่หมั้น ก็จะถือว่าเพราะมีเหตุผลสำคัญอันเกิดแต่หญิงนั้นหาได้ไม่ หญิงนั้นจึงมิต้องคืนของหมั้นเพราะเหตุเช่นนี้
ชายคู่หมั้นหมิ่นประมาทหญิงคู่หมั้นซึ่งเป็นการร้ายแรงตามความหมายในมาตรา 1500(2) แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ย่อมเป็นเหตุผลอันสำคัญอันเกิดแต่ชายคู่หมั้นซึ่งหญิงคู่หมั้นจะไม่ยอมสมรสกับชายนั้นโดยมิต้องคืนของหมั้นได้
ถ้อยคำที่ถือว่าเป็นการหมิ่นประมาทซึ่งเป็นการร้ายแรงตามความหมายในมาตรา 1500(2)
ชายคู่หมั้นหมิ่นประมาทหญิงคู่หมั้นซึ่งเป็นการร้ายแรงตามความหมายในมาตรา 1500(2) แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ย่อมเป็นเหตุผลอันสำคัญอันเกิดแต่ชายคู่หมั้นซึ่งหญิงคู่หมั้นจะไม่ยอมสมรสกับชายนั้นโดยมิต้องคืนของหมั้นได้
ถ้อยคำที่ถือว่าเป็นการหมิ่นประมาทซึ่งเป็นการร้ายแรงตามความหมายในมาตรา 1500(2)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 640/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เหตุปฏิเสธการสมรสและการแบ่งทรัพย์สินหลังสร้างเรือนหอ
ชายหญิงทำพิธีแต่งงานกันตามประเพณี แต่หญิงไม่ยอมหลับนอนร่วมประเวณีกับชายฉันสามีภริยาโดยแยกไปนอนเสียคนละห้องกับชายอยู่มาประมาณ 10 วัน มารดาของหญิงบอกให้ชายพาหญิงเข้าห้องเอาเองชายจึงเข้าไปจับเอวหญิงออกมาจากห้องที่หญิงนอน หญิงฉวยแจกันตีศีรษะชายแตกโลหิตออกแจกันหักแล้วยังใช้แจกันตีชายถูกโหนกแก้มเป็นบาดแผลต้องเย็บถึง 7 เข็ม ชายจึงกลับบ้านและไม่ยอมจดทะเบียนสมรสกับหญิงดังนี้ถือว่าการกระทำของหญิงเป็นเหตุผลสำคัญอันพอที่จะทำให้ชายปฏิเสธไม่ยอมสมรสด้วยหญิงตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1441 ได้ ชายจึงมีสิทธิเรียกของหมั้นคืนจากหญิงได้
โจทก์จำเลยร่วมกันนำสัมภาระและลงทุนปลูกสร้างเรือนขึ้น 1หลัง แต่ไม่ได้ความพอจะชี้ได้ว่าสัมภาระชิ้นใดเป็นของผู้ใดได้ทุกชิ้น ทั้งไม่ได้ความว่าแต่ละฝ่ายได้มีส่วนเป็นเจ้าของอยู่เกินกว่าครึ่ง ดังนี้ ต้องถือว่า โจทก์และจำเลยมีส่วนเป็นเจ้าของเรือนรายนี้เท่าๆกัน
โจทก์จำเลยร่วมกันนำสัมภาระและลงทุนปลูกสร้างเรือนขึ้น 1หลัง แต่ไม่ได้ความพอจะชี้ได้ว่าสัมภาระชิ้นใดเป็นของผู้ใดได้ทุกชิ้น ทั้งไม่ได้ความว่าแต่ละฝ่ายได้มีส่วนเป็นเจ้าของอยู่เกินกว่าครึ่ง ดังนี้ ต้องถือว่า โจทก์และจำเลยมีส่วนเป็นเจ้าของเรือนรายนี้เท่าๆกัน