พบผลลัพธ์ทั้งหมด 5 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5552/2541 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบุกรุกสาธารณสมบัติของแผ่นดิน แม้จำเลยอ้างเป็นเจ้าของ ก็ไม่เป็นเหตุแก้ตัวได้
การที่จำเลยยื่นคำร้องขอถอนคำให้การเดิมและขอให้การรับสารภาพในชั้นฎีกามีผลเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมคำให้การในชั้นฎีกา เป็นการต้องห้ามตาม ป.วิ.อ.มาตรา 163 วรรคสอง ที่บัญญัติให้กระทำได้ก่อนศาลชั้นต้นพิพากษาส่วนที่จำเลยขอให้รอการลงโทษก็เป็นดุลพินิจที่ศาลจะสั่งในคำพิพากษาต่อไป ศาลฎีกาจึงให้ยกคำร้องนี้
ที่ดินที่เกิดเหตุเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินที่ประชาชนใช้ร่วมกัน จำเลยทราบดีว่าที่ดินของจำเลยตามโฉนดที่ดินมีเพียง 2 ไร่ โดยด้านทิศตะวันออกจดภูเขา ด้านทิศเหนือจดถนนสาธารณประโยชน์และภูเขาตามที่ระบุไว้ในโฉนดที่ดินดังกล่าว ขณะเจ้าหน้าที่บริหารที่ดินอำเภอไปตรวจสอบที่ดินที่เกิดเหตุตามคำสั่งของนายอำเภอพบมีการบุกรุกไถภูเขาซึ่งอยู่ด้านทิศเหนือและด้านทิศตะวันออกและตามบันทึกที่โจทก์และจำเลยนำรังวัดที่ดินตามคำสั่งศาลชั้นต้น ปรากฏว่าจำเลยนำชี้ที่ดินของจำเลยเพียง 3 ด้าน โดยจำเลยทราบดีว่าหากจำเลยนำชี้ที่ดินของจำเลยทั้งสี่ด้าน ที่ดินของจำเลยจะมีเนื้อที่มากกว่าที่ระบุไว้ในโฉนดที่ดินของจำเลยนอกจากนี้หลังจากเจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบว่า จำเลยบุกรุกที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินแล้ว ทางอำเภอแจ้งให้จำเลยรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างออกไปจากที่ดินที่เกิดเหตุจำเลยทราบแล้วไม่ยอมรื้อถอนและไม่ยอมออกไป พฤติการณ์ของจำเลยแสดงว่าจำเลยมีเจตนาบุกรุกที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน
เมื่อจำเลยรู้อยู่แล้วว่าที่ดินที่พิพาทเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินการที่จำเลยไม่ยอมรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างและออกไปจากที่ดินที่พิพาทตามคำสั่งของนายอำเภอซึ่งสั่งการตามอำนาจที่มีกฏหมายให้ไว้ แม้จำเลยจะอ้างว่าที่ดินดังกล่าวเป็นของจำเลยก็ไม่ใช่เหตุหรือข้อแก้ตัวอันสมควรที่จะทำให้จำเลยพ้นจากความผิดฐานบุกรุกที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินตาม ป.อ.มาตรา 368
ที่ดินที่เกิดเหตุเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินที่ประชาชนใช้ร่วมกัน จำเลยทราบดีว่าที่ดินของจำเลยตามโฉนดที่ดินมีเพียง 2 ไร่ โดยด้านทิศตะวันออกจดภูเขา ด้านทิศเหนือจดถนนสาธารณประโยชน์และภูเขาตามที่ระบุไว้ในโฉนดที่ดินดังกล่าว ขณะเจ้าหน้าที่บริหารที่ดินอำเภอไปตรวจสอบที่ดินที่เกิดเหตุตามคำสั่งของนายอำเภอพบมีการบุกรุกไถภูเขาซึ่งอยู่ด้านทิศเหนือและด้านทิศตะวันออกและตามบันทึกที่โจทก์และจำเลยนำรังวัดที่ดินตามคำสั่งศาลชั้นต้น ปรากฏว่าจำเลยนำชี้ที่ดินของจำเลยเพียง 3 ด้าน โดยจำเลยทราบดีว่าหากจำเลยนำชี้ที่ดินของจำเลยทั้งสี่ด้าน ที่ดินของจำเลยจะมีเนื้อที่มากกว่าที่ระบุไว้ในโฉนดที่ดินของจำเลยนอกจากนี้หลังจากเจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบว่า จำเลยบุกรุกที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินแล้ว ทางอำเภอแจ้งให้จำเลยรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างออกไปจากที่ดินที่เกิดเหตุจำเลยทราบแล้วไม่ยอมรื้อถอนและไม่ยอมออกไป พฤติการณ์ของจำเลยแสดงว่าจำเลยมีเจตนาบุกรุกที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน
เมื่อจำเลยรู้อยู่แล้วว่าที่ดินที่พิพาทเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินการที่จำเลยไม่ยอมรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างและออกไปจากที่ดินที่พิพาทตามคำสั่งของนายอำเภอซึ่งสั่งการตามอำนาจที่มีกฏหมายให้ไว้ แม้จำเลยจะอ้างว่าที่ดินดังกล่าวเป็นของจำเลยก็ไม่ใช่เหตุหรือข้อแก้ตัวอันสมควรที่จะทำให้จำเลยพ้นจากความผิดฐานบุกรุกที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินตาม ป.อ.มาตรา 368
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 611/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หน้าที่จำเลยในการแสดงเหตุแก้ตัวตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 368 โจทก์ไม่ต้องบรรยายในฟ้อง
คำว่า เหตุหรือข้อแก้ตัวอันสมควร ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 368 นั้น โจทก์ไม่จำต้องบรรยายมาในฟ้องเพราะเป็นหน้าที่ของจำเลยจะต้องนำสืบแสดงออกมา เพื่อให้ตนพ้นผิด ไม่ใช่ให้โจทก์นำสืบว่าจำเลยไม่มีเหตุหรือข้อแก้ตัวอันสมควร
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 611/2503
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หน้าที่จำเลยในการพิสูจน์เหตุแก้ตัวตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 368 โจทก์ไม่ต้องบรรยายในฟ้อง
คำว่า'เหตุหรือข้อแก้ตัวอันสมควร'ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 368 นั้น โจทก์ไม่จำต้องบรรยายมาในฟ้องเพราะเป็นหน้าที่ของจำเลยจะต้องนำสืบแสดงออกมา เพื่อให้ตนพ้นผิด ไม่ใช่ให้โจทก์นำสืบว่าจำเลยไม่มีเหตุหรือข้อแก้ตัวอันสมควร
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 380/2486
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดการพนันจากความเข้าใจผิดชอบด้วยกฎหมาย: เหตุแก้ตัวได้
เข้าเล่นการพนันโดยเข้าใจผิดว่าได้รับอนุญาตให้เล่นได้โดยชอบด้วยกฎหมาย โดยมีข้อแก้ตัวอันควรย่อมไม่มีความผิดตามกฎหมาย
กรณีที่ถือว่าเป็นเรื่องเข้าใจผิดในข้อเท็จจริงและจำเลยย่อมแก้ตัวได้ประชุมใหญ่ครั้งที่ 7/2486
กรณีที่ถือว่าเป็นเรื่องเข้าใจผิดในข้อเท็จจริงและจำเลยย่อมแก้ตัวได้ประชุมใหญ่ครั้งที่ 7/2486
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 178/2477
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หน้าที่นำสืบในคดีอาญา: เมื่อจำเลยอ้างเหตุแก้ตัว
พะยาน หน้าที่นำสืบในคดีอาชญานั้นโดยปกติตกอยู่แก่ฝ่ายโจทก์ผู้กล่าวหา แต่เมื่อโจทก์นำสืบแสดงได้ในเบื้องต้นว่าการกระทำของจำเลยเป็นความผิดแล้ว ถ้าจำเลยกล่าวอ้างข้อยกเว้นแก้ตัวอย่างไรเป็นหน้าที่ของจำเลยต้องนำสืบให้สมข้อต่อสู้ คดีที่โจทก์หาว่าจำเลยยิงช้างของโจทก์ จำเลยรับว่ายิงจริงโจทก์ไม่จำเป็นต้องนำสืบว่าจำเลยมิได้กระทำโดยป้องกันแต่จำเลยมีหน้าที่ต้องนำสืบว่าได้ยิงโดยป้องกันตามข้อต่อสู้