พบผลลัพธ์ทั้งหมด 3 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5545/2541
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องแย้งขอคืน/ทำลายเอกสารค้ำประกันเมื่อศาลต้องยกฟ้องอยู่แล้ว ศาลไม่รับฟ้องแย้ง
จำเลยให้การว่า หนังสือสัญญาค้ำประกันท้ายฟ้องเป็นเอกสารที่จำเลยลงลายมือชื่อโดยที่ยังไม่ได้กรอกข้อความโจทก์หรือตัวแทนโจทก์กรอกข้อความลงในเอกสารดังกล่าวโดยไม่ได้รับความยินยอมจากจำเลย จึงเป็นเอกสารปลอมขอให้ยกฟ้อง และฟ้องแย้งบังคับโจทก์คืนเอกสารดังกล่าวแก่จำเลย หากไม่คืนขอให้มีคำพิพากษาหรือคำสั่งทำลายเอกสารดังกล่าวโดยถือเอาคำพิพากษาเป็นการแสดงเจตนาแทน ซึ่งหากพิจารณา ได้ความตามคำให้การจำเลยดังกล่าว ศาลต้องพิพากษายกฟ้อง จำเลยย่อมได้รับผลตามคำพิพากษาอยู่แล้ว กรณีไม่มีเหตุจำเป็น ที่จำเลยจะฟ้องแย้งขอให้บังคับโจทก์คืนเอกสารหรือทำลายเอกสาร ดังกล่าวอีก จึงชอบที่ศาลจะไม่รับฟ้องแย้งของจำเลย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2156/2535 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เอกสารค้ำประกันที่ปิดอากรแสตมป์ล่าช้า แต่โจทก์อ้างเป็นพยานและศาลรับเป็นหลักฐานได้ ไม่ต้องเสียอากรเพิ่ม
จำเลยฎีกาว่าโจทก์ปิดอากรแสตมป์ในเอกสารเมื่อพ้น 90 วันนับแต่วันต้องปิดอากรแสตมป์ โดยมิได้เสียอากรเพิ่ม แต่ขณะโจทก์อ้างส่งเอกสารต่อศาล เอกสารนั้นปิดอากรแสตมป์ครบถ้วนบริบูรณ์ตามกฎหมาย และศาลชั้นต้นได้รับรวมสำนวนไว้แล้ว จึงรับฟังเป็นพยานหลักฐานในคดีได้โดยไม่ต้องเสียอากรเพิ่ม ตามมาตรา 113 แห่งป.รัษฎากร ให้ครบถ้วนก่อน.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2156/2535
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เอกสารค้ำประกันไม่ปิดอากรตั้งแต่แรก แต่ปิดเพิ่มภายหลังและศาลรับรวมสำนวนแล้ว สามารถใช้เป็นหลักฐานได้
หนังสือสัญญาค้ำประกันที่จำเลยทำไว้แก่โจทก์ ไม่ได้ปิดอากรแสตมป์บริบูรณ์มาแต่ต้น แต่เมื่อโจทก์อ้างตนเองเป็นพยานเข้าเบิกความ โจทก์ได้อ้างส่งหนังสือสัญญาดังกล่าวเป็นพยาน โดยได้ปิดอากรแสตมป์ครบถ้วนบริบูรณ์ตามกฎหมายและศาลได้รับรวมสำนวนไว้แล้วจึงรับฟังเป็นพยานหลักฐานในคดีได้โดยไม่จำต้องเสียอากรเพิ่มตามมาตรา 113 แห่งประมวลรัษฎากรให้ครบถ้วน