คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
เอกสารไม่ถูกต้อง

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 5 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5413/2538 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดในความเสียหายจากการเปิดบัญชีด้วยเอกสารไม่ถูกต้อง และเจตนาโดยประมาทของผู้เสียหาย
แม้การกระทำของเจ้าหน้าที่จำเลยที่ 2 กระทำด้วยความประมาทเลินเล่อโดยเปิดบัญชีออมทรัพย์ให้ ว.ในนามของโจทก์ที่ 1 โดยดูแต่เพียงสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของโจทก์ที่ 1 มิได้ดูต้นฉบับบัตรประจำตัวประชาชนของโจทก์ที่ 1 และเปรียบเทียบรูปถ่ายในบัตรประจำตัวประชาชนของโจทก์ที่ 1 กับ ว.เป็นเหตุให้ ว.ถอนเงินที่ ช.ซึ่งเป็นตัวแทนของโจทก์ในการขายคืนพันธบัตรรัฐบาลและโอนเงินที่ขายได้ตามเช็คขีดคร่อมที่ธนาคาร-แห่งประเทศไทยสั่งจ่ายแก่โจทก์ทั้งสองมาเข้าบัญชีออมทรัพย์ดังกล่าวไป อันเป็นการละเมิดต่อโจทก์ทั้งสอง และจำเลยที่ 2 ผู้เป็นนายจ้างจะต้องรับผิดต่อโจทก์ทั้งสองก็ตาม แต่เนื่องจาก ช.ซึ่งเป็นตัวแทนของโจทก์ทั้งสอง นำสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของโจทก์ที่ 1 ให้ ว.ไปขอเปิดบัญชีออมทรัพย์กับจำเลยที่ 2ได้ ถือได้ว่าความเสียหายได้เกิดขึ้นเพราะความผิดอย่างหนึ่งอย่างใดของโจทก์ทั้งสองซึ่งเป็นตัวการประกอบด้วยตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 442จึงให้จำเลยที่ 2 รับผิดต่อโจทก์ทั้งสองเพียงกึ่งหนึ่ง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6363/2537

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิครอบครองที่ดิน: น.ส.3 ก. ที่ออกทับ น.ส.3 เดิม ถือเป็นเอกสารที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย
น.ส.3 ก. เป็นเอกสารสำคัญเกี่ยวกับที่ดินซึ่งกฎหมายสันนิษฐานว่าผู้มีชื่อในเอกสารเป็นผู้มีสิทธิครอบครองเมื่อฟังว่า น.ส.3 ก. ตามเอกสารหมาย จ.3 ออกทับ น.ส.3ตามเอกสารหมาย จ.22 จึงถือได้ว่าเป็นการออกโดยมิชอบอันทำให้ไม่มีผลบังคับตามกฎหมาย โจทก์จึงไม่มีสิทธิครอบครองในที่ดินพิพาทตาม น.ส.3 ก. เอกสารหมาย จ.3 ดังนั้นการที่ศาลอุทธรณ์ยกเอาเรื่องการออก น.ส.3 ก. ของโจทก์ขึ้นวินิจฉัยจึงอยู่ในประเด็นเรื่องการครอบครองที่ดินพิพาทที่ว่ากันมาแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 64/2535

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การใช้เอกสารที่ไม่ถูกต้องในการแก้ไขปีเกิด และการพิสูจน์ปีเกิดที่ไม่มีหลักฐานชัดเจน ศาลยกฟ้อง
พยานทุกปากที่โจทก์นำสืบไม่มีผู้ใดยืนยันได้ว่าจำเลยเกิดปีใดแน่ คงมีแต่ จ. ม. และ ท. พยานโจทก์เบิกความอ้างถึงทะเบียนนักเรียนของจำเลยว่า ตามเอกสารดังกล่าวปีเกิดของจำเลยเป็น พ.ศ. 2470 แต่ได้มีการแก้ไขเป็น พ.ศ. 2476 โดยพยานทั้งสามไม่มีผู้ใดทราบว่าจำเลยเกิดปีใด พยานโจทก์เป็นที่สงสัยไม่แน่ชัดว่า จำเลยเกิดปีใด ฟังไม่ได้ว่าข้อความที่จำเลยแจ้งว่าจำเลยเกิดปีพ.ศ. 2476 เป็นเท็จ.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 392/2535 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หนังสือมอบอำนาจและฟ้องเคลือบคลุม: ฟ้องไม่สมบูรณ์หากเอกสารไม่ถูกต้อง แต่ฟ้องไม่เคลือบคลุมหากรายละเอียดสืบได้ในชั้นพิจารณา
หนังสือมอบอำนาจให้ฟ้องคดี ไม่มีกฎหมายบังคับว่าเป็นเอกสารที่จะต้องแนบมาพร้อมกับคำฟ้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 118 และตราสารที่ไม่ปิดแสตมป์ให้บริบูรณ์ตามประมวลรัษฎากรมาตรา 118 ก็มีผลเพียงว่า จะใช้เป็นพยานหลักฐานในคดีแพ่งไม่ได้เท่านั้น แม้ขณะโจทก์ยื่นฟ้องต่อศาลหนังสือมอบอำนาจให้ฟ้องคดีจะมิได้ปิดแสตมป์ให้บริบูรณ์ตามประมวลรัษฎากรก็ไม่มีผลทำให้ฟ้องโจทก์ไม่สมบูรณ์ตามกฎหมาย โจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยที่ 1 เป็นลูกจ้างโจทก์ ในระหว่างที่เป็นลูกจ้างจำเลยที่ 1 ได้ปฏิบัติหน้าที่ก่อให้โจทก์ได้รับความเสียหาย 468,730.38 บาท ขอให้จำเลยที่ 1 กับพวกร่วมกันชำระค่าเสียหายแก่โจทก์ เป็นฟ้องที่แสดงโดยแจ้งชัดซึ่งสภาพแห่งข้อหาและคำขอบังคับ ทั้งข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหาแล้ว สำหรับข้อที่ว่าจำเลยที่ 1 ก่อให้เกิดความเสียหายเมื่อใด และค่าเสียหายแต่ละรายการเป็นจำนวนเท่าใด เป็นรายละเอียดที่โจทก์สามารถนำสืบในชั้นพิจารณาได้ ไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 11707/2554

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การงดสืบพยานและการรับฟังพยานหลักฐานในคดีเช็ค - การประวิงคดีและการยื่นเอกสารไม่ถูกต้อง
ก่อนถึงวันนัดสืบพยานโจทก์และพยานจำเลย หากนางสาว ว. เป็นพยานสำคัญของจำเลย จำเลยก็ชอบที่จะดำเนินการขอให้ศาลชั้นต้นออกหมายเรียกพยานเสียแต่เนิ่น ๆ แต่จำเลยหากระทำไม่ ทั้งตามอุทธรณ์และฎีกาของจำเลยก็มิได้อ้างถึงเหตุขัดข้องแต่ประการใด พฤติการณ์ของจำเลยส่อว่าประสงค์จะขอเลื่อนการสืบพยานจำเลยไปเพื่อประวิงให้ชักช้า การที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งงดสืบพยานจำเลยจึงชอบด้วย ป.วิ.พ. มาตรา 86 วรรคสอง และมาตรา 104 ประกอบ ป.วิ.อ. มาตรา 15 และ พ.ร.บ.จัดตั้งศาลแขวงและวิธีพิจารณาความอาญาในศาลแขวง พ.ศ.2499 มาตรา 4
สัญญากู้เงินมีการขูดลบตกเติมข้อความในสัญญาหลายแห่งโดยไม่มีการลงลายมือชื่อกำกับไว้ เหตุดังกล่าวแต่ประการเดียวยังไม่อาจรับฟังเป็นยุติได้ว่า สัญญากู้เงินดังกล่าวเป็นเอกสารปลอม สำหรับสำเนารายงานประจำวันเกี่ยวกับคดีที่จำเลยอ้างว่าแจ้งความดำเนินคดีเรื่องเอกสารปลอม จำเลยมิได้อ้างส่งต่อศาลชั้นต้น แต่เพิ่งแนบมาท้ายอุทธรณ์และฎีกา โดยไม่ปรากฏเหตุขัดข้องใด จึงเป็นการยื่นเอกสารฝ่าฝืนต่อกฎหมาย ไม่อาจรับเป็นพยานหลักฐานได้