คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
เอาทรัพย์

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 4 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1283/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเปลี่ยนแปลงฐานความผิดจากยักยอกทรัพย์ (มาตรา 353) เป็นเอาทรัพย์ (มาตรา 314) ทำให้การฎีกาในข้อเท็จจริงต้องห้าม
ศาลชั้นต้นลงโทษจำเลยฐานยักยอกตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 353 จำเลยยักยอกเงิน 2 ครั้ง ต่างกรรมต่างวาระกัน จำคุกจำเลยกระทงละ 2 ปี 6 เดือน รวม 2 กระทง 5 ปี
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ว่า จำเลยผิดฐานยักยอกตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 314 ให้ลงโทษจำคุกกระทงละ 1 ปี 6 เดือน รวมจำคุก 3 ปี
ดังนี้ถือว่าแก้ไขเล็กน้อย ต้องห้ามมิให้ฎีกาในข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218 (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 23/2503) (ควรเทียบดูฎีกาที่ 619/2499)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 236/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขุดถอนพืชผลยังไม่ถือเป็นการเอาทรัพย์ของผู้อื่นไปจนกว่าจะมีการนำไป การกระทำจึงเป็นเพียงพยายามชิงทรัพย์
ตามสภาพของพืชผลต้องติดอยู่กับต้นหรือปลูกปักอยู่ในดิน การทำให้ผลไม้หลุดออกจากต้น เช่นสอยมะม่วง หรือตัดขนุนให้หล่นลงมา หรือ ขุดถอนมันหรือต้นหอมให้หลุดพ้นขึ้นจากดินโดยยังไม่ทันเอาไปด้วยนั้น ยังเรียกไม่ได้ว่าเป็นการเอาทรัพย์ของผู้อื่นไปดังที่ท่านบัญญัติไว้ใน ก.ม.อาญา ม.288
คนร้ายถอนต้นหอมของผู้อื่นขึ้นมา ทิ้งเกลื่อนอยู่บนร่องสวน ยังไม่ทันจะเอาไป พอดีเจ้าทรัพย์มาพบเสีย+ดังนี้ เป็นผิดฐานพยายามลักทรัพย์เท่านั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 236/2491

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขุดถอนพืชผลยังไม่ถือเป็นการเอาทรัพย์ของผู้อื่นไปจนกว่าจะเคลื่อนย้ายออกไป
ตามสภาพของพืชผลต้องติดอยู่กับต้นหรือปลูกปักอยู่ในดินการทำให้ผลไม้หลุดออกจากต้น เช่นสอยมะม่วงหรือตัดขนุนให้หล่นลงมา หรือขุดถอนมันหรือต้นหอมให้หลุดพ้นขึ้นจากดินโดยยังไม่ทันเอาไปด้วยนั้นยังเรียกไม่ได้ว่าเป็นการเอาทรัพย์ของผู้อื่นไปดังที่ท่านบัญญัติไว้ใน กฎหมายลักษณะอาญา มาตรา288
คนร้ายถอนต้นหอมของผู้อื่นขึ้นมาทิ้งเกลื่อนอยู่บนร่องสวน ยังไม่ทันจะเอาไปพอดีเจ้าทรัพย์มาพบเสียก่อนดังนี้ เป็นผิดฐานพยายามลักทรัพย์เท่านั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 607/2479

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดฐานชิงทรัพย์: การทำร้ายเพื่อเอาทรัพย์ ถือเป็นองค์ประกอบความผิดโดยไม่ต้องแสดงเจตนาเป็นโจรลักทรัพย์
โจทก์ฟ้องกล่าวความว่าจำเลยใช้กำลังทำร้ายเจ้าทุกข์เพื่อที่จะเอาทรัพย์ของเจ้าทุกข์ไปเพียงเท่านี้ย่อมเป็นมูลความผิดฐานชิงทรัพย์แล้ว หาต้องแสดงว่าจำเลยเอาทรัพย์ไปโดยเจตนาทุจจริตคิดเป็นโจรลักทรัพย์อย่างใด คดีที่ศาลอุทธรณ์ย้อนสำนวนไปพิจารณาพิพากษาใหม่นั้น แม้ศาลได้นัดพิจารณาแลเลื่อนการพิจารณาไปจำเลยก็ยังฎีกาได้ภายในอายุความ+