พบผลลัพธ์ทั้งหมด 3 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2907/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแก้ไขรายงานการประชุมสภาเทศบาลโดยมิชอบ เพื่อให้ผู้เกี่ยวข้องหลงเชื่อ เป็นความผิดฐานปลอมเอกสารและใช้เอกสารปลอม
จำเลยเป็นปลัดเทศบาลและเป็นเลขานุการสภาเทศบาล จำเลยไม่อยู่ปฏิบัติหน้าที่ ประธานสภาเทศบาลจึงแต่งตั้งให้ ส.รองปลัดเทศบาลทำหน้าที่เลขานุการสภาเทศบาลแทนจำเลย จำเลยได้ใช้ให้แก้ไขรายงานการประชุมที่ ส. ทำขึ้น โดยจำเลยไม่มีอำนาจแก้ไขได้โดยพลการ เพื่อจะให้ผู้เกี่ยวข้องหลงเชื่อว่าสภาเทศบาลมีมติตามที่จำเลยได้แก้ไข โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น จำเลยจึงมีความผิดฐานใช้ให้ผู้อื่นปลอมเอกสารตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 265 ประกอบด้วยมาตรา 84 จำเลยเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ดูแลรักษาเอกสารดังกล่าว จำเลยจึงมีความผิดตามมาตรา 161 อีกบทหนึ่ง เมื่อจำเลยนำเอกสารปลอมนั้นไปอ้างในการขออนุมัติต่อผู้ว่าราชการจังหวัด จำเลยจึงมีความผิดฐานใช้เอกสารปลอมตามมาตรา 268 อีกกระทงหนึ่ง
จำเลยในฐานะเลขานุการสภาเทศบาลเป็นผู้มีหน้าที่ทำรายงานการประชุมของสภาเทศบาล จำเลยทำรายงานการประชุมขึ้นตามอำนาจหน้าที่ของตนและลงลายมือชื่อตัวเองเป็นผู้ทำ มิได้ทำในนามของบุคคลอื่น เอกสารนั้นจึงเป็นเอกสารที่แท้จริงที่จำเลยทำขึ้น แม้ข้อความในเอกสารจะไม่เป็นความจริง ก็ไม่ทำให้เป็นเอกสารปลอมตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 161 แต่เป็นการทำเอกสารอันเป็นความเท็จตามมาตรา 162 เมื่อโจทก์มิได้บรรยายฟ้องและขอให้ลงโทษตามมาตรา 162 จึงลงโทษจำเลยไม่ได้
ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 คำว่า "เพื่อ" ให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด ถือว่าเป็นเจตนาพิเศษ การที่จำเลยแก้ไขมติของสภาเทศบาลในรายงานการประชุมโดยไม่มีเจตนาเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่เทศบาล หากเป็นการกระทำไปเพราะความเข้าใจผิดพลาดเกี่ยวกับระเบียบกระทรวงมหาดไทย จำเลยจึงไม่มีความผิดตามมาตรา 157
จำเลยในฐานะเลขานุการสภาเทศบาลเป็นผู้มีหน้าที่ทำรายงานการประชุมของสภาเทศบาล จำเลยทำรายงานการประชุมขึ้นตามอำนาจหน้าที่ของตนและลงลายมือชื่อตัวเองเป็นผู้ทำ มิได้ทำในนามของบุคคลอื่น เอกสารนั้นจึงเป็นเอกสารที่แท้จริงที่จำเลยทำขึ้น แม้ข้อความในเอกสารจะไม่เป็นความจริง ก็ไม่ทำให้เป็นเอกสารปลอมตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 161 แต่เป็นการทำเอกสารอันเป็นความเท็จตามมาตรา 162 เมื่อโจทก์มิได้บรรยายฟ้องและขอให้ลงโทษตามมาตรา 162 จึงลงโทษจำเลยไม่ได้
ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 คำว่า "เพื่อ" ให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด ถือว่าเป็นเจตนาพิเศษ การที่จำเลยแก้ไขมติของสภาเทศบาลในรายงานการประชุมโดยไม่มีเจตนาเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่เทศบาล หากเป็นการกระทำไปเพราะความเข้าใจผิดพลาดเกี่ยวกับระเบียบกระทรวงมหาดไทย จำเลยจึงไม่มีความผิดตามมาตรา 157
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 625/2484
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เพิกถอนการฉ้อฉล, สิทธิรังนก, พยานหลักฐาน, การตีราคาทรัพย์สิน, แก้ไขรายงานพิจารณา
เจ้าหนี้ผู้ฟ้องขอให้เพิกถอนการฉ้อฉลไม่ต้องเป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษา,รัฐบาลมีอำนาจถือสิทธิหวงแหนการเก็บรังนกนางแอ่น และมีอำนาจทำสัญญาให้ผู้อื่นผูกขาดได้
การอ้างสำนวนความซึ่งอยู่ในศาลเป็นพะยานนั้นไม่จำต้องร้องขอให้ศาลเรียกมา
พะยานซึ่งตีราคาสวนยางรายงานการสำรวจสวนซึ่งผู้อื่นไปตรวจทำมานั้นไม่นับว่าเป็นพะยานบอกเล่า
ยื่นคำร้องขอแก้รายงานการพิจารณาของศาลโดยอ้างว่าศาลจดไว้ไม่ตรงตามข้อตกลงในเมื่อล่วงเลยมาถึง 9 วันศาลไม่อนุญาตได้ไม่ผิดกฎหมาย
คดีฟ้องขอให้เพิกถอนการฉ้อฉล คู่ความเสียค่าธรรมเนียมอย่างคดีไม่มีทุนทรัพย์ตลอดมา เมื่อศาลล่างพิพากษายืนกันมา คู่ความจะฎีกาในข้อเท็จจริงไม่ได้
ฎีกาซึ่งไม่ได้ยกเหตุผลสนับสนุนนั้น ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยอ้างฎีกาที่ 1243/2479 ที่ 13/2480 ที่ 68/2480
การอ้างสำนวนความซึ่งอยู่ในศาลเป็นพะยานนั้นไม่จำต้องร้องขอให้ศาลเรียกมา
พะยานซึ่งตีราคาสวนยางรายงานการสำรวจสวนซึ่งผู้อื่นไปตรวจทำมานั้นไม่นับว่าเป็นพะยานบอกเล่า
ยื่นคำร้องขอแก้รายงานการพิจารณาของศาลโดยอ้างว่าศาลจดไว้ไม่ตรงตามข้อตกลงในเมื่อล่วงเลยมาถึง 9 วันศาลไม่อนุญาตได้ไม่ผิดกฎหมาย
คดีฟ้องขอให้เพิกถอนการฉ้อฉล คู่ความเสียค่าธรรมเนียมอย่างคดีไม่มีทุนทรัพย์ตลอดมา เมื่อศาลล่างพิพากษายืนกันมา คู่ความจะฎีกาในข้อเท็จจริงไม่ได้
ฎีกาซึ่งไม่ได้ยกเหตุผลสนับสนุนนั้น ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยอ้างฎีกาที่ 1243/2479 ที่ 13/2480 ที่ 68/2480
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 594/2473
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแก้ไขรายงานทางการเงินโดยมิชอบ และความผิดฐานปลอมแปลงเอกสารของเจ้าหน้าที่รัฐ
จำเลยแก้รายงานและบัญชีจำนวนเงินค่าปรับ จำนวนเงิน 6 บาท เปน 4 บาท เพื่อให้ตรงกับความจริง ต้องมีผิดฐานปลอมหนังสือ