พบผลลัพธ์ทั้งหมด 4 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2135/2533 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแก้ไขจำนวนหนี้ตามคำพิพากษา: ข้อผิดพลาดเล็กน้อยตาม ป.วิ.พ. มาตรา 143
คำร้องของโจทก์ที่โต้เถียงจำนวนหนี้ที่จำเลยทั้งสองจะต้องชำระตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ว่า จำนวนหนี้ที่จำเลยทั้งสองค้างชำระถึงวันฟ้องมีมากกว่าจำนวนหนี้ที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัย โดยขอให้แก้ไขจำนวนเงินจาก 1,542,827.30 บาท เป็น 1,563,767.08 บาท เพิ่มจากเดิมถึงสองหมื่นบาทเศษนั้น มิใช่ข้อผิดพลาดหรือผิดหลงเล็กน้อยตามความหมายของ ป.วิ.พ. มาตรา 143 วรรคแรก ศาลอุทธรณ์จึงไม่อาจที่จะแก้ไขให้ตามคำร้องดังกล่าวได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2135/2533 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแก้ไขจำนวนหนี้ตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ไม่ใช่ข้อผิดพลาดเล็กน้อยที่แก้ไขได้ตามมาตรา 143 วรรคแรก
โจทก์ยื่นคำร้องขอให้ศาลอุทธรณ์แก้ไขข้อผิดพลาดเล็กน้อยเกี่ยวกับจำนวนหนี้ที่จำเลยทั้งสองค้างชำระถึงวันฟ้องว่ามีมากกว่าจำนวนหนี้ที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัย โดยขอให้แก้ไขจำนวนเงินเพิ่มจากเดิมถึงสองหมื่นบาทเศษ ดังนี้ ข้อที่โจทก์ขอแก้ไขมิใช่ข้อผิดพลาดหรือผิดหลงเล็กน้อยตามความหมายของประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 143 วรรคแรก ศาลอุทธรณ์จึงไม่มีอำนาจแก้ไข
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3702/2553
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
จำกัดวงเงินอุทธรณ์คดีแชร์, ความเป็นอื่นของโจทก์, และการแก้ไขจำนวนหนี้ที่พิพากษา
จำเลยเป็นหัวหน้าวงแชร์ โจทก์ทั้งหกเป็นผู้ร่วมเล่นแชร์วงเดียวกันซึ่งมีจำเลยเป็นหัวหน้าวง แต่โจทก์ทั้งหกต่างมิได้มีผลประโยชน์ได้เสียเกี่ยวข้องกัน ถือไม่ได้ว่าโจทก์ทั้งหกมีผลประโยชน์ได้เสียเกี่ยวข้องกัน ถือไม่ได้ว่าโจทก์ทั้งหกมีผลประโยชน์ร่วมกันในมูลความแห่งคดี ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 59 การคำนวณทุนทรัพย์ในการใช้สิทธิอุทธรณ์ย่อมต้องแยกตามจำนวนเงินที่โจทก์แต่ละคนเรียกร้องให้จำเลยรับผิด หาใช่พิจารณาจากหนี้ที่โจทก์ทั้งหกเรียกร้องรวมกันไม่ เมื่อจำนวนเงินที่ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระแก่โจทก์ที่ 1 ที่ 5 และที่ 6 ไม่เกินห้าหมื่นบาท คดีระหว่างโจทก์ที่ 1 ที่ 5 และที่ 6 กับจำเลยจึงต้องห้ามมิให้อุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริงตาม ป.วิ.พ. มาตรา 224 วรรคหนึ่ง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5554/2561
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
จำเลยที่ 3-5 ร่วมรับผิดชำระหนี้ตั๋วสัญญาใช้เงิน โดยโจทก์มีหลักฐานการรับเงิน และศาลแก้ไขจำนวนหนี้ให้ถูกต้อง
การส่งเอกสารภาษาต่างประเทศต่อศาล ไม่จำต้องทำคำแปลเป็นภาษาไทยเสมอไป นอกจากศาลสั่งให้ทำคำแปล ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 46 วรรคสาม เมื่อเอกสารดังกล่าวเป็นเพียงส่วนหนึ่งแห่งพยานหลักฐานที่รับฟังประกอบกับพยานอื่นที่โจทก์นำสืบ และตามเอกสารมีคำแปลที่เพียงพอแก่การพิจารณาข้อเท็จจริงแล้ว ศาลย่อมรับฟังเอกสารดังกล่าวเป็นพยานหลักฐานของโจทก์ได้