คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
แถลงเท็จ

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 5 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3229/2538

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาประกันชีวิตเป็นโมฆียะจากการแถลงข้อความเท็จเกี่ยวกับสุขภาพ และการบอกล้างสัญญา
ผู้เอาประกันชีวิตรู้อยู่แล้วว่าตนเองเป็นโรคความดันโลหิตสูงแต่แจ้งในคำขอเอาประกันชีวิตว่าไม่เคยเป็นโรคดังกล่าวอันเป็นความเท็จสัญญาประกันชีวิตย่อมเป็นโมฆียะตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา865วรรคหนึ่ง ส.เป็นผู้ชักชวนให้ธ. ทำสัญญาประกันชีวิตกับจำเลยแม้ส.รู้ว่าธ. เป็นโรคความดันโลหิตสูงก็จะถือว่าจำเลยรู้เช่นนั้นด้วยไม่ได้เพราะส. มิได้เป็นผู้มีอำนาจกระทำการแทนหรือเป็นตัวแทนของจำเลยผู้รับประกันชีวิตแต่เป็นเพียงผู้หาผู้ที่จะเอาประกันชีวิตและดำเนินการทำคำขอเอาประกันชีวิตให้แก่ผู้เอาประกันเท่านั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2695-2696/2527

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ละเมิดอำนาจศาล: การแถลงเท็จ/ขัดขวางการพิจารณาคดี และการแจ้งความเท็จเกี่ยวกับมรณกรรม
ทนายความแถลงต่อศาลว่า บ.จะอยู่กับตัวความหรือไม่ไม่ทราบและจะนำตัว บ.มาศาลได้หรือไม่ก็ไม่ทราบ แม้จะเป็นการแถลงเพื่อผลประโยชน์ของตัวความซึ่งเป็นคู่ความในคดีก็จริงอยู่แต่ก็จะถือว่าการแถลงดังกล่าวเป็นการกระทำของตัวความต่อศาลเพื่อวินิจฉัยว่าเป้นการละเมิดอำนาจศาลไม่ได้ เพราะการกระทำความผิดฐานละเมิดอำนาจศาลนั้น ผู้กระทำผิดจะต้องรับโทษทางอาญาจึงต้องพิเคราะห์เจตนาขอบงผู้ที่จะต้องรับโทษประกอบด้วย เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่าขณะที่ทนายแถลงต่อศาลดังกล่าวตัวความมิได้อยู่ร่วมรู้เห็นในห้องพิจารณาด้วยโดยมิได้มาศาลในวันนั้นย่อมไม่อาจทราบได้ว่า ทนายของตนได้แถลงต่อศาลว่าอย่างไรจึงถือว่าตัวความแถลงข้อความดังกล่าวอันเป็นเท็จในการพิจารณาของศาล ซึ่งจะเป็นความผิดฐานละเมิดอำนาจศาลไม่ได้
ผู้ร้องทั้งสองสำนวนยื่นคำร้อ ขอให้ศาลมีคำสั่งว่า บ.เป็นบุคคลเสมือนไร้ความสามารถสำนวนหนึ่ง และเป็นบุคคลไร้ความสามารถอีกสำนวนหนึ่งในวันนัดสืบพยานผู้ร้อง ผู้ร้องแถลงต่อศาลไม่สามารถนำตัว บ.มาศาลได้เนื่องจากไปอยู่กับผู้คัดค้านที่ 1 ทนายของผู้คัดค้านที่ 1 แถลงว่า บ.จะอยู่กับผู้คัดค้านที่ 1 หรือไม่ ไม่ทราบ จะนำตัวมาศาลได้หรือไม่ก็ไม่ทราบ ศาลจึงมีคำสั่งเมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 2523 ว่า ให้ไต่สวนว่าบ.อยู่กับผู้คัดค้านที่ 1 หรือไม่ ครั้นศาลไต่สวนพยานผู้ร้องเสร็จแล้ว ในระหว่างนัดไต่สวนพยานผู้คัดค้านที่ 1 ฝ่ายผู้คัดค้านที่ 1 ขอเลื่อนการพิจารณาไปหลายครั้ง ต่อมาเมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2524 ผู้คัดค้านที่ 1ได้ให้ทนายยื่นคำร้องขอระบุพยานเพิ่มเติม และขอส่งประเด็นไปสืบพยานเหล่านั้นที่ศาลจังหวัดสุพรรณบุรี เพื่อแสดงว่า บ.อยู่ที่จังหวัดสุพรรณบุรีซึ่งเป็นความเท็จศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่อนุญาต และถือว่าผู้คัดค้านที่ 1 ไม่มีพยานมาสืบ แล้วมีคำสั่งในวันที่ 29 ธันวาคม 2524 ว่า บ.อยู่กับผู้คัดค้านที่ 1 มีความจำเป็นต้องให้ได้ตัวมาตรวจดู ให้นัดพร้อมวันที่2 กุมภาพันธ์ 2525 ครั้นวันที่ 28 มกราคม 2525 ผู้คัดค้านที่ 1 ได้ให้ทนายยื่นคำแถลงว่า บ.ได้ถึงแก่กรรมเมื่อวันที่ 6 กันยายน 2524ปรากฏตามสำเนาใบมรณบัตรท้ายคำแถลง (ซึ่งผู้คัดค้านที่ 1 เองเป็นผู้ไปแจ้งการตาย) ขอให้ศาลจำหน่ายคดี ดังนี้ การกระทำขอผู้คัดค้านที่ 1 ดังกล่าว แสดงให้เห็นเจตนาของผู้คัดค้านที่ 1 ที่จะขัดขวางมิให้การดำเนินกระบวนพิจารณาของศาลเป็นไปโดยรวดเร็วและเที่ยงธรรม ถือได้ว่าเป็นการประพฤติตนไม่เรียบร้อยในบริเวณศาลตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 31(1) ผู้คัดค้านที่ 1 จึงมีความผิดฐานละเมิดอำนาจศาล

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1274/2513

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแจ้งความเท็จในคดีแพ่งไม่เป็นความผิดอาญาตาม ม.137 และการแถลงเท็จต่อศาลไม่ผิดตาม ม.267 หากไม่มีเจตนาใช้เป็นพยานหลักฐาน
การเอาความเท็จมาฟ้องในคดีแพ่งหรือการที่จำเลยในคดีแพ่งยื่นคำให้การเป็นเท็จ ไม่เป็นความผิดฐานแจ้งความเท็จต่อเจ้าพนักงานตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 137 เพราะมิได้เป็นการแจ้งความต่อเจ้าพนักงาน และการที่โจทก์หรือจำเลยในคดีแพ่งแถลงให้ศาลจดข้อความอันเป็นเท็จลงในสำนวนคดีแพ่งโดยมิได้มีวัตถุประสงค์จะใช้ข้อความนั้นเป็นพยานหลักฐาน ก็หาเป็นความผิดฐานแจ้งให้เจ้าพนักงานจดข้อความอันเป็นเท็จตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 267 ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 22/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแถลงเท็จต่อศาลและเติมข้อความในคำฟ้องหลังศาลสั่งไม่รับฟ้อง ถือเป็นการละเมิดอำนาจศาล
ฟ้องเดิมระบุมาตราที่ขอให้ลงโทษจำเลยเพียงมาตรา 314 ครั้น ศาลตรวจฟ้องมีคำสั่งให้ยกฟ้องเสียโจทก์อุทธรณ์ และได้มีการบังอาจเดิมมาตรา 304 ลงในคำขอท้ายฟ้องในสำนวนที่อยู่ในความดูแลรักษาของศาล ศาลเรียกทนายโ่จทก์และผู้เขียนฟ้อง เดิมมาสอบถาม คนทั้ง 2 ยังยืนยันแถลงเท็จต่อศาลว่ามีมาตรา 304 ในฟ้องเดิมก่อนแล้ว โดยไม่มีความเคราพยำเกรง-ศาล ทำให้เกิดความเสียหายแก่ราชการศาล ดังนี้ ต้องถือว่าได้ประพฤติตนไม่เรียบร้อยในบริเวณศาลได้แล้ว แม้ไม่ได้กระทำลงตอ่หน้าศาล ก็เป็นความผิดฐานละเมิดอำนวจศาลได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 22/2497

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแถลงเท็จต่อศาลและการละเมิดอำนาจศาล กรณีเติมข้อหาในคำฟ้องภายหลัง
ฟ้องเดิมระบุมาตราที่ขอให้ลงโทษจำเลยเพียงมาตรา 314 ครั้นศาลตรวจฟ้องมีคำสั่งให้ยกฟ้องเสียโจทก์อุทธรณ์และได้มีการบังอาจเติมมาตรา 304 ลงในคำขอท้ายฟ้องในสำนวนที่อยู่ในความดูแลรักษาของศาลศาลเรียกทนายโจทก์และผู้เขียนฟ้องเดิมมาสอบถาม คนทั้ง 2 ยังยืนยันแถลงเท็จต่อศาลว่ามีมาตรา 304 ในฟ้องเดิมก่อนแล้วโดยไม่มีความเคารพยำเกรง ศาลทำให้เกิดความเสียหายแก่ราชการศาลดังนี้ ต้องถือว่าได้ประพฤติตนไม่เรียบร้อยในบริเวณศาลได้แล้ว แม้ไม่ได้กระทำลงต่อหน้าศาลก็เป็นความผิดฐานละเมิดอำนาจศาลได้