พบผลลัพธ์ทั้งหมด 6 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2105/2541
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกู้ยืมเงินแทนกันและผลกระทบต่อผู้มีหนี้สินจริง กรณีจำนองที่ดินเพื่อชำระหนี้
เมื่อนาย ภ. และนาง ล. กู้ยืมเงินไปจากโจทก์ โดยมีจำเลยเป็นผู้นำที่ดินไปจดจำนองเป็นประกัน แม้สัญญาจำนองจะ เขียนว่าจำเลยเป็นผู้กู้ยืมเงินจากโจทก์ก็เป็นการเขียนข้อความ ลงไว้ไม่ตรงตามความเป็นจริง ต้องถือว่าการกู้ยืมเงินดังกล่าว เป็นกรณีที่จำเลยทำแทนนาย ภ.และนางล.ต่อมาเมื่อนายภ. และนางล. มอบเงินให้จำเลยไปไถ่ถอนจำนองจากโจทก์ ปรากฏว่ายังมีหนี้เงินยืมค้างชำระบางส่วน จำเลยจึงทำสัญญากู้ยืมเงินให้ไว้กับโจทก์ ก็ต้องถือว่าจำเลยทำสัญญากู้ยืมเงินดังกล่าวกับโจทก์แทนนาย ภ.และนาง ล.หาใช่จำเลยเป็นผู้กู้ยืมเงินจากโจทก์ไม่ ดังนั้นบุคคลผู้ซึ่งมีความผูกพันที่จะต้องชำระหนี้ตามสัญญาฉบับดังกล่าวคือ นายภ. และนาง ล. มิใช่จำเลย เมื่อนายภ.กับนางล.ชำระหนี้ดังกล่าวให้โจทก์เรียบร้อยแล้วหนี้ตามฟ้องจึงระงับ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5353/2539
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ผลของการวินิจฉัยอายุความของจำเลยร่วม และการใช้ข้อกฎหมายแทนกันในคดีแพ่ง
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยทั้งสิบเอ็ดร่วมกันละเมิดต่อโจทก์ขอให้ร่วมกันรับผิดชดใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์ซึ่งมูลความแห่งคดีเป็นการชำระหนี้ไม่อาจแบ่งแยกได้แม้จำเลยที่4ที่8และที่9จะไม่ได้ยกอายุความขึ้นต่อสู้และจำเลยอื่นมิได้ยื่นคำร้องให้ศาลชี้ขาดเบื้องต้นในปัญหาข้อกฎหมายดังกล่าวก็ได้รับประโยชน์จากข้อต่อสู้และคำร้องขอชี้ขาดเบื้องต้นในปัญหาข้อกฎหมายของจำเลยที่3และที่7ด้วยโดยถือการดำเนินกระบวนพิจารณาของคู่ความร่วมคนหนึ่งเมื่อกระทำไปแล้วย่อมถือว่าได้กระทำแทนคู่ความอื่นร่วมด้วยตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา59(1)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5363/2538
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การโอนที่ดินแทนกัน ตัวการฟ้องเรียกทรัพย์คืนได้ แม้ไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือ
จำเลยรับโอนที่ดินไว้แทนโจทก์ครึ่งหนึ่ง การที่โจทก์ฟ้องให้บังคับจำเลยโอนที่ดินให้แก่โจทก์ครึ่งหนึ่ง จึงเป็นเรื่องตัวการฟ้องเรียกทรัพย์คืนจากจำเลยซึ่งเป็นตัวการ แม้ไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือและจดทะเบียนกันไว้ก็ฟ้องร้องให้บังคับคดีกันได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 120/2490
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อพิพาทเรื่องการครอบครองที่ดินหลังสัญญาซื้อขายฝากไม่สมบูรณ์ ศาลต้องพิจารณาข้อเท็จจริงเพื่อวินิจฉัยว่าเป็นการครอบครองแทนกันหรือขายขาด
โจทก์ฟ้องขอไถ่ที่ดินที่ขายฝากซึ่งไม่ได้ทำหนังสือสัญญาย่อมเป็นการแสดงว่า จำเลยครอบครองที่ในฐานะแทนโจทก์ เมื่อจำเลยต่อสู้ว่าโจทก์ขายขาด ก็เป็นเรื่องที่ต้องพิจารณาข้อเท็จจริงต่อไป
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1277/2473
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองแทนกันและปรปักษ์: การยินยอมให้ทายาทครอบครองไม่ถือเป็นการครอบครองปรปักษ์
ปกครองแทนกันปกครองปรปักษ์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1572/2557
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลงลายมือชื่อแทนกันโดยไม่ชอบ และความเสียหายจากการปลอมเอกสาร
การที่จำเลยที่ 2 ลงลายมือชื่อ ล. ไม่มีกฎหมายให้อำนาจลงลายมือชื่อแทนกันได้ แม้ ล.จะอนุญาตหรือให้ความยินยอม และเจ้าหน้าที่ผู้จัดทำบันทึกแนะนำให้จำเลยที่ 2 ลงลายมือชื่อ ล. ก็ลงลายมือชื่อแทนกันไม่ได้ การที่จำเลยที่ 2 ลงลายมือชื่อ ล. ในเอกสารหมาย จ. 2 ถึง จ. 4 จึงเป็นการลงลายมือชื่อปลอมในเอกสาร แต่ในความผิดฐานแจ้งความเท็จและความผิดฐานปลอมเอกสารนี้จะต้องได้ความด้วยว่าอยู่ในลักษณะที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชนหรือไม่ เมื่อได้ความจากโจทก์ร่วมว่าโจทก์ร่วมลงลายมือชื่อโอนลอยในคำร้องโอนสิทธิการเช่าสัญญาเช่าอาคารดังกล่าวโดยไม่ได้สนใจว่าใครจะนำเอกสารดังกล่าวไปกรอกข้อความอย่างไร แสดงให้เห็นว่า โจทก์ร่วมพอใจในราคาค่าตอบแทนการโอนสิทธิการเช่าเสียมากกว่า หาใช่มีข้อตกลงโอนสิทธิการเช่าอาคารพิพาทให้แก่จำเลยที่ 1 โดยเจาะจงแต่อย่างใดไม่ สอดคล้องกับที่ ส. เจ้าหน้าที่เทศบาลตำบลสตึก พยานโจทก์และโจทก์ร่วมซึ่งเป็นผู้จัดทำเอกสารเกี่ยวกับคำร้องโอนสิทธิการเช่าเบิกความว่า โจทก์ร่วมประสงค์จะโอนสิทธิการเช่าอาคารพิพาทให้แก่ ล. ทั้งใบเสร็จรับเงินค่าคำร้องโอนสิทธิการเช่าอาคารตามเอกสารหมาย จ. 5 ก็ระบุว่าได้รับเงินจาก ล. จากพฤติการณ์ดังกล่าวโจทก์ร่วมและเทศบาลตำบลสตึกไม่อยู่ในฐานะที่จะอ้างว่าได้รับความเสียหาย จำเลยทั้งสองจึงไม่มีความผิดฐานแจ้งความเท็จและฐานปลอมเอกสารตามฟ้อง