คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
แบ่งส่วนจากทรัพย์สิน

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 2 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2816/2537

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาจ้างว่าความโดยแบ่งส่วนจากทรัพย์สิน: โมฆะตามกฎหมายทนายความ
สัญญาจ้างว่าความระหว่างโจทก์ ซึ่งเป็นทนายความกับจำเลยซึ่งเป็นลูกความ ตกลงกันว่า ถ้าลูกความชนะคดีได้ที่ดินที่เป็นมูลพิพาทมาเท่าใด ทนายความขอส่วนได้จากที่ดินที่จะได้มา ไม่ว่าราคาจะขึ้นลงสักเท่าใด อันเป็นการไม่แน่นอน อันถือได้ว่าโจทก์ซึ่งเป็นทนายความรับว่าความโดยวิธีแบ่งเอาส่วนจากทรัพย์สินที่เป็นมูลพิพาทอันจะพึงได้แก่ลูกความมีวัตถุประสงค์ขัดต่อพระราชบัญญัติทนายความ พ.ศ. 2508 มาตรา 41 ประกอบพระราชบัญญัติทนายความพ.ศ. 2477 มาตรา 12(2) เป็นโมฆะตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 113 เดิม (มาตรา 150 ที่แก้ไขใหม่) แม้ต่อมาจะได้มีพระราชบัญญัติ ทนายความ พ.ศ. 2528 ให้ยกเลิก พระราชบัญญัติทนายความพ.ศ. 2508 ไปแล้ว แต่สัญญาจ้างว่าความที่โจทก์นำมาฟ้องนั้นทำขึ้นตั้งแต่ พ.ศ. 2524 ก่อนกฎหมายดังกล่าวยกเลิก จึงไม่ทำให้สัญญาระหว่างโจทก์กับจำเลยซึ่งตกเป็นโมฆะมาตั้งแต่วันทำสัญญาแล้วกลับสมบูรณ์ขึ้นได้อีก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1751/2536

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาจ้างทนายความโดยแบ่งส่วนจากทรัพย์สินที่ได้จากการฟ้องร้อง เป็นโมฆะ แม้กฎหมายจะเปลี่ยนไป
โจทก์รับจ้างว่าความให้จำเลยโดยตกลงกันว่าจำเลยจะต้องจ่ายค่าจ้างให้แก่โจทก์อัตราร้อยละ 10 ของจำนวนเงินที่จำเลยได้รับตามคำพิพากษา จึงเป็นสัญญาจ้างว่าความโดยวิธีแบ่งเอาส่วนจากทรัพย์สินที่เป็นมูลพิพาทอันจะพึงได้แก่ลูกความ อันมีวัตถุประสงค์ขัดต่อ พระราชบัญญัติ ทนายความ พ.ศ. 2508 มาตรา 41 ประกอบพระราชบัญญัติ ทนายความ พ.ศ. 2477 มาตรา 12(2) ซึ่งเป็นกฎหมายที่ใช้บังคับในขณะตกลงทำสัญญากัน จึงตกเป็นโมฆะตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 113 เดิม (มาตรา 150 ที่แก้ไขใหม่) แม้ต่อมาจะได้มีพระราชบัญญัติทนายความ พ.ศ. 2528ยกเลิกกฎหมายข้างต้นแล้วก็ไม่ทำให้สัญญาซึ่งเป็นโมฆะตั้งแต่ต้นกลับสมบูรณ์ขึ้นแต่อย่างใด