คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
แปรรูป

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 21 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4159/2547

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดฐานมีไม้สักแปรรูปและไม้สักอันยังมิได้แปรรูปเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน
ความผิดฐานมีไม้สักแปรรูปเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ฯ มาตรา 48 วรรคหนึ่ง, 73 วรรคสอง (1) ส่วนความผิดฐานมีไม้สักอันยังมิได้แปรรูปไว้ในครอบครองเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ฯ มาตรา 48 วรรคหนึ่ง, 69 วรรคสอง (1) ความผิดทั้งสองฐานอาศัยเจตนาในการกระทำความผิดแยกต่างหากจากกันได้ แม้จำเลยจะมีไม้ของกลางไว้ในครอบครองคราวเดียวกันก็ตาม การกระทำความผิดของจำเลยจึงเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน หาใช่เป็นการกระทำอันเป็นกรรมเดียวเป็นความผิดกฎหมายหลายบทไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2650/2541 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิด พ.ร.บ.ป่าไม้: ครอบครอง/แปรรูปไม้หวงห้ามในเขตควบคุม แม้รับสารภาพเฉพาะบางข้อหา ศาลใช้ประโยชน์จากคำรับสารภาพทั้งหมดได้
คำว่า "ครอบครอง" ตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2484หมายความรวมถึงครอบครองเพื่อตนเองและครอบครองแทนผู้อื่นด้วย เพราะไม่มีบทกฎหมายใดจำกัดว่าต้องเป็นการครอบครองเพื่อตนเองเท่านั้นจึงจะเป็นความผิดอีกทั้งในทางอาญา การร่วมกันครอบครองไม้หวงห้ามก็เป็นความผิดเช่นเดียวกันดังนั้นการที่จำเลยครอบครองไม้ยูงซึ่งเป็นไม้หวงห้ามประเภท ก.เพื่อแปรรูปให้ผู้ว่าจ้างจึงเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ป่าไม้
เดิมจำเลยให้การปฏิเสธฟ้องโจทก์ทุกข้อหา ก่อนสืบพยานโจทก์จำเลยขอถอนคำให้การเดิมที่ปฏิเสธฟ้องโจทก์ทุกข้อหา เป็นขอให้การรับสารภาพในข้อหาร่วมกับพวกแปรรูปไม้ยูงโดยไม่ได้รับอนุญาต ส่วนข้อหาอื่นคงให้การปฏิเสธเมื่อปรากฏว่าโจทก์ได้กล่าวในฟ้องตอนต้นแล้วว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตร-และสหกรณ์ได้ออกประกาศให้กำหนดเขตควบคุมการแปรรูปไม้ตลอดเขตท้องที่จังหวัดทุกจังหวัด โดยประกาศดังกล่าวทางราชการได้คัดสำเนาประกาศไว้ ณ ที่ว่าการ-อำเภอ ที่ทำการกำนัน และที่สาธารณสถานในท้องที่ที่เกี่ยวข้อง และในท้องที่ที่เกิดเหตุคดีนี้ให้ทราบโดยทั่วกัน และกล่าวในฟ้องต่อไปว่า จำเลยกับพวกร่วมกันแปรรูปไม้ยูงโดยร่วมกันเลื่อยเพื่อเปิดปีกไม้อันเป็นการทำให้ไม้เปลี่ยนรูปและขนาดไปจากเดิมภายในเขตควบคุมการแปรรูปไม้ โดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงาน-เจ้าหน้าที่ เมื่อจำเลยให้การรับสารภาพในข้อหาร่วมกับพวกแปรรูปไม้ยูงโดยไม่ได้รับอนุญาตตามฟ้อง ย่อมเป็นการรับสารภาพตามข้อความที่โจทก์กล่าวในฟ้อง คำให้การรับสารภาพของจำเลยจึงรวมถึงการแปรรูปไม้ภายในเขตควบคุมการแปรรูปไม้และรวมถึงการคัดสำเนาประกาศไว้ ณ ที่ว่าการอำเภอและที่ทำการกำนันหรือที่สาธารณสถานในท้องที่ที่เกี่ยวข้องและในท้องที่ที่เกิดเหตุคดีนี้ด้วย โจทก์จึงไม่จำต้องสืบพยานถึงการปิดสำเนาประกาศดังกล่าว
ความผิดตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2484 มาตรา 48 วรรคหนึ่ง,73 วรรคสอง ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงยี่สิบปี และปรับตั้งแต่ห้าพันบาทถึงสองแสนบาท เมื่อจำเลยให้การรับสารภาพตามฟ้องศาลย่อมพิพากษาโดยไม่สืบพยานหลักฐานในข้อหาความผิดนี้ได้ ตาม ป.วิ.อ.มาตรา 176 วรรคหนึ่ง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 859/2536 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การผลิตสินค้าทางภาษีอากร: การแปรรูปลวดเป็นลวดเสียบกระดาษถือเป็นการผลิตและต้องเสียภาษี
ผู้ผลิตตาม ประมวลรัษฎากร มาตรา 77 นั้น รวมถึงการที่ผู้ใดทำการอย่างใดอย่างหนึ่งให้มีขึ้นซึ่งสินค้าไม่ว่าด้วยวิธีใด ๆ ด้วยซึ่งอาจใช้วัตถุดิบของสินค้าเดิมมาทำเป็นสินค้าใหม่โดยไม่แปรเปลี่ยนสภาพของสินค้าเดิมก็ได้ และไม่จำต้องคำนึงว่าสินค้าใหม่นั้นอาจแปรเปลี่ยนกลับคืนมาเป็นสินค้าเดิมได้หรือไม่ การที่โจทก์ใช้ลวดซึ่งเป็นสินค้าเดิมที่โจทก์ซื้อมาเข้าเครื่องปั๊มออกมาเป็นลวดเสียบกระดาษซึ่งเป็นสินค้าใหม่ โดยลวดซึ่งเป็นวัตถุดิบนั้นยังมีสภาพเป็นลวดเช่นเดิมอยู่เพียงแต่ใช้เครื่องปั๊มตัดและดัดงอให้อยู่ในสภาพเป็นของใช้เสียบกระดาษแล้วนำไปจำหน่าย ถือได้ว่าโจทก์เป็นผู้ผลิตสินค้าลวดเสียบกระดาษ คำว่า "ของใช้" ตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2525หมายถึง "ของสำหรับใช้" เป็นที่เข้าใจของคนทั่ว ๆ ไปว่าประชาชนทั่วไปที่มีของนั้นอยู่สามารถนำของนั้นไปใช้ประโยชน์ได้ทันทีโดยลำพังไม่ต้องนำไปประกอบกับของสิ่งอื่นเสียก่อน ลวดเสียบกระดาษที่พิพาทผู้ใดมีอยู่ในความครอบครองสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ทันทีโดยลำพัง จึงเป็นของใช้ตามบัญชี 1 หมวดที่ 9 ท้ายพระราชกฤษฎีกา ออกตามความใน ประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการลดอัตราและยกเว้นภาษีการค้า (ฉบับที่ 54) พ.ศ. 2517 ลวดเสียบกระดาษผลิตจากโลหะเคลือบจึงเป็นของใช้ผลิตจากโลหะเคลือบอันเข้าลักษณะสินค้าอื่น ๆ ในหมวด 9 บัญชีที่ 1 ท้าย พระราชกฤษฎีกา ดังกล่าวแต่โจทก์ผลิตขายในราชอาณาจักร จึงต้องเสียภาษีการค้าในอัตราร้อยละ9 ของรายรับ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 176/2531

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การจำแนกประเภทพิกัดศุลกากรเหล็กแผ่นที่นำเข้าและแปรรูป
เหล็กแผ่นสินค้าที่โจทก์นำเข้าเป็นเหล็กแผ่นที่ผลิตไม่ได้มาตรฐานถูกตัดออก บริษัทผู้ขายขายเหล็กพิพาทอย่างเป็นเศษเหล็ก โจทก์นำเหล็กดังกล่าวไปตัดซอยเป็นแผ่นเล็ก ๆ และเผาให้ร้อนรีดเป็นเหล็กเส้นตามขนาดและมาตรฐานที่ตลาดต้องการและนำออกจำหน่ายทั้งหมดโดยมิได้นำไปขายเป็นเหล็กแผ่น เหล็กพิพาทจึงจัดอยู่ในประเภทพิกัดที่ 73.03 มิใช่ประเภทพิกัดที่73.13.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1028-1029/2529

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การประเมินภาษีการค้ากรณีนำเข้ากระดาษแล้วนำมาตัดเป็นม้วนเล็กขาย ไม่ถือเป็นการผลิตกระดาษชนิดใหม่
หมวด8(9) โจทก์สั่งกระดาษม้วนใหญ่มีความกว้าง782มิลิเมตรยาวประมาณ6,100เมตรจากต่างประเทศเข้ามาในราชอาณาจักรได้เสียภาษีการค้าในฐานะผู้นำเข้าร้อยละ7ของรายรับตามบัญชีอัตราภาษีการค้าท้ายหมวด4ประมวลรัษฎากรประเภทการค้า1การขายของชนิด1(ก)แล้วโจทก์นำกระดาษดังกล่าวมาพิมพ์เป็นลายไม้ก๊อกตัดให้มีความกว้าง48มิลลิเมตรยาว2,000เมตรม้วนเป็นม้วนเล็กๆขายให้โรงงานยาสูบไปใช้พันก้นกรองบุหรี่เช่นนี้การประกอบกิจการของโจทก์ไม่เข้าลักษณะเป็นการผลิตกระดาษใช้พันก้นกรองบุหรี่ตามนัยประมวลรัษฎากรมาตรา77เพราะการที่โจทก์นำกระดาษม้วนใหญ่มาพิมพ์เป็นลายไม้ก๊อกแล้วตัดทำเป็นม้วนเล็กๆนั้นเป็นการทำให้เหมาะสมและสะดวกแก่การใช้พันก้นกรองบุหรี่สินค้ากระดาษที่โจทก์นำเข้ามายังเป็นกระดาษอย่างเดิมมิได้แปรรูปหรือแปรสภาพเป็นสินค้าใหม่โจทก์จึงไม่ต้องเสียภาษีการค้าในฐานะผู้ผลิตกระดาษทุกชนิดตามบัญชี1หมวด8(9)ท้ายพระราชกฤษฎีกาฯ(ฉบับที่54)พ.ศ.2517ในอัตราร้อยละ7ของรายรับตามบัญชีอัตราภาษีการค้าท้ายหมวด4ประเภทการค้า1การขายของชนิด1(ก)อีก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3305/2524 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การกระทำผิดฐานแปรรูปและครอบครองไม้สักโดยไม่ได้รับอนุญาต ถือเป็นความผิดสองกรรมสองกระทง
ฟ้องว่าจำเลยมีไม้สักแปรรูปไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติป่าไม้ฯมาตรา 48, 73 และมีไม้สักอันยังมิได้แปรรูปไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นความผิดตามมาตรา 69 จำเลยให้การรับสารภาพ. แม้จำเลยกระทำผิดในวันเดียวกันก็เป็นการกระทำผิดสองกรรมสองกระทงความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 91

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 571/2518

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การซื้อยาเส้นจากชาวไร่เพื่อนำไปแปรรูป ไม่ถือเป็นความผิดตามพ.ร.บ.ยาสูบ หากยังไม่ได้นำออกขาย
จำเลยได้รับใบอนุญาตให้ประกอบอุตสาหกรรมยาสูบ โดยตั้งโรงงานประกอบอุตสาหกรรมยาสูบในเขตอำเภอเมืองฯ จังหวัดนครศรีธรรมราชจำเลยไปซื้อยาเส้นจากชาวไร่ที่บ้านของชาวไร่ในอำเภอท่าศาลาจังหวัดเดียวกัน ยาเส้นดังกล่าวได้รับยกเว้นไม่ต้องปิดแสตมป์ยาสูบเพราะเป็นยาเส้นที่ชาวไร่ผลิตได้จำเลยกำลังขนย้ายยาเส้นนี้ไปยังสถานที่ประกอบการค้าของตนเพื่อดำเนินการก่อนนำออกขาย ระหว่างทางถูกเจ้าพนักงานตำรวจจับ ดังนี้ ถือไม่ได้ว่าจำเลยมีไว้เพื่อขายซึ่งยาเส้นที่มิได้ปิดแสตมป์ยาสูบ ตามพระราชบัญญัติยาสูบพ.ศ.2509 มาตรา 24 จำเลยจึงไม่มีความผิด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1176/2511

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องผิดหลายกระทงในวันเดียวกัน: ไม้หวงห้ามยังไม่แปรรูปและแปรรูปแล้ว ศาลฎีกาพิพากษาให้เรียงกระทงลงโทษ
ฟ้องว่ามีไม้หวงห้ามยังมิได้แปรรูปโดยมิได้รับอนุญาต.อันเป็นความผิดตามมาตรา 69. กับมีไม้หวงห้ามที่แปรรูปแล้วโดยมิได้รับอนุญาต อันเป็นผิดตามมาตรา 48,73.เป็นฟ้องบรรยายการกระทำสองกรรมเป็นความผิดสองกระทง มิใช่กรรมเดียวเป็นผิดหลายบท.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 361/2508

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ไม้ยังไม่แปรรูป: เจตนาพรางเพื่อหลีกเลี่ยงข้อกฎหมาย
ไม้ของกลางเป็นไม้สดไม่มีรอยตราค่าภาคหลวง หรือรอยตรารัฐบาลขายแต่อย่างใด และไม่ปรากฏว่าจำเลยซื้อมาจากที่ไหนอย่างใดจำเลยได้เอาไม้ของกลางนี้มาฝังดินทำเป็นเสาเรือนโดยไม่ได้บากให้เป็นช่องรับไม้รอดที่ตียึดเสากลับตีพุกประกับช่วยเป็นการแสดงเจตนาให้เห็นได้ว่าจำเลยเอามาทำเสาเรือนเพื่อพราง ไม่ใช่เพื่อให้เป็นเสาเรือนอย่างถาวรไม้ของกลางจึงยังไม่เป็นไม้แปรรูป

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1550/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลงโทษฐานครอบครองไม้หวงห้ามแปรรูป ต้องพิจารณาประเภทไม้ที่ครอบครองตามฟ้อง
ฟ้องว่าจำเลยมีใช้ในความครอบครองซึ่งไม้หวงห้ามแปรรูปเป็นเสาถาก 75 ท่อน ขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ.2484 มาตรา 69 และพระราชบัญญัติป่าไม้ (ฉบับที่ 4) พ.ศ.2503 มาตรา 12 ซึ่งเป็นบทลงโทษผู้มีไม้หวงห้ามอันยังมิได้แปรรูป และโจทก์นำสืบฟังได้ว่าไม้ของกลางเป็นไม้แปรรูป คือ ถากเป็นเสาแล้ว ดังนี้จะลงโทษจำเลยฐานมีไม้หวงห้ามอันยังมิได้แปรรูปตามที่โจทก์ขอให้ลงโทษไม่ได้
of 3