พบผลลัพธ์ทั้งหมด 10 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2688/2545 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิในแผ่นป้ายทะเบียนรถเมื่อเลิกสัญญาเดินรถ: จำเลยมีหน้าที่คืนนายทะเบียน, โจทก์ไม่มีสิทธิยึดถือ
หนังสือแสดงการจดทะเบียนรถ ตาม พ.ร.บ. การขนส่งทางบก พ.ศ. 2522 อันเป็นเอกสารราชการระบุว่า จำเลยเป็นผู้ประกอบการขนส่ง ส่วนผู้ถือกรรมสิทธิ์ในรถยนต์คือบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์โดยโจทก์เป็นผู้เช่าซื้อ ทั้งสัญญาเดินรถเข้าร่วมกิจการของโจทก์และจำเลยก็ระบุให้จำเลยมีอำนาจบอกเลิกสัญญาหรือถอนรถออกจากการเป็นรถร่วมได้ทันที การที่โจทก์ได้รับแผ่นป้ายทะเบียนรถมาโดยผลจากการทำสัญญาเดินรถเข้าร่วมกิจการในเส้นทางสัมปทานของจำเลย เมื่อจำเลยใช้สิทธิบอกเลิกสัญญาเดินรถเข้าร่วมกิจการกับโจทก์แล้วพอถือได้ว่าจำเลยซึ่งเป็นผู้รับใบอนุญาตประกอบการขนส่งจะเลิกใช้รถยนต์โดยสารแล้ว จำเลยจึงมีหน้าที่ต้องแจ้งให้นายทะเบียนประจำจังหวัดทราบและต้องนำแผ่นป้ายทะเบียนรถดังกล่าวคืนแก่นายทะเบียนตามมาตรา 79 แห่ง พ.ร.บ. การขนส่งทางบก พ.ศ. 2522 มิฉะนั้นจำเลยจะมีความผิดและต้องรับโทษทางอาญาตาม มาตรา 143 โจทก์ย่อมไม่มีสิทธิยึดแผ่นป้ายทะเบียนรถนั้นไว้ และต้องส่งคืนให้แก่จำเลยเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2688/2545
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิในแผ่นป้ายทะเบียนรถเมื่อเลิกสัญญาเดินรถร่วม: ผู้ประกอบการขนส่งต้องคืนทะเบียนให้นายทะเบียน
หนังสือแสดงการจดทะเบียนรถระบุว่าจำเลยเป็นผู้ประกอบการขนส่ง ส่วนผู้ถือกรรมสิทธิ์ในรถยนต์คือบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์โดยโจทก์เป็นผู้เช่าซื้อ ประกอบกับสัญญาเดินรถเข้าร่วมกิจการของโจทก์และจำเลยระบุให้จำเลยมีอำนาจบอกเลิกสัญญาหรือถอนรถออกจากการเป็นรถร่วมได้ทันที เมื่อโจทก์ได้รับแผ่นป้ายทะเบียนรถมาโดยผลจากการทำสัญญาเดินรถเข้าร่วมกิจการในเส้นทางสัมปทานของจำเลย และจำเลยใช้สิทธิบอกเลิกสัญญาดังกล่าวโดยชอบแล้ว ถือได้ว่าจำเลยซึ่งเป็นผู้รับใบอนุญาตประกอบการขนส่งจะเลิกใช้รถยนต์โดยสาร จำเลยมีหน้าที่ต้องแจ้งให้นายทะเบียนทราบและคืนแผ่นป้ายทะเบียนรถแก่นายทะเบียนตามมาตรา 79 แห่งพระราชบัญญัติการขนส่งทางบกพ.ศ. 2522 มิฉะนั้นจำเลยจะมีความผิดและต้องรับโทษทางอาญาตามมาตรา 143 โจทก์จึงไม่มีสิทธิยึดถือแผ่นป้ายเลขทะเบียนรถนั้นไว้ จำต้องส่งคืนให้แก่จำเลยตามฟ้องแย้งเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6819/2537 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การใช้แผ่นป้ายทะเบียนปลอม แม้ไม่ใช่ผู้ปลอมแปลงเอง ก็เป็นความผิดฐานใช้เอกสารปลอมและรับของโจร
แม้ตามพยานหลักฐานจะไม่ปรากฏว่า จำเลยเป็นผู้ปลอมแปลงแผ่นป้ายทะเบียนรถยนต์ แต่การที่จำเลยขับรถยนต์ของผู้เสียหายที่ถูกคนร้ายลักไปและติดแผ่นป้ายทะเบียนรถยนต์ซึ่งจำเลยรู้อยู่ว่าเป็นแผ่นป้ายการเขียนปลอมไปตามทางสาธารณะ โดยมุ่งหมายให้ประชาชนผู้พบเห็นเข้าใจว่าเป็นแผ่นป้ายทะเบียนรถยนต์ของทางราชการ ก็เป็นการใช้หรืออ้างเอกสารแผ่นป้ายทะเบียนรถเป็นความผิดตาม ป.อ. มาตรา 268 อีกกระทงหนึ่งซึ่งแยกออกจากกระทงความผิดฐานรับของโจร
แม้ฎีกาของจำเลยในส่วนที่ว่าศาลฎีกาสมควรพิพากษาลดมาตราส่วนโทษที่กำหนดไว้สำหรับความผิดทั้งสองฐานหรือไม่ จะเป็นฎีกาในดุลพินิจของศาลอันเป็นข้อเท็จจริงต้องห้ามมิให้ฎีกาตาม ป.วิ.อ. มาตรา 218 วรรคแรก ก็ตามแต่เมื่อจำเลยฎีกาในข้อแรกเป็นปัญหาข้อกฎหมายมาด้วย ศาลฎีกามีอำนาจวินิจฉัยลงโทษจำเลยและลดมาตราส่วนโทษตาม ป.อ. มาตรา 76 ให้เหมาะสมแก่ความผิดได้
แม้ฎีกาของจำเลยในส่วนที่ว่าศาลฎีกาสมควรพิพากษาลดมาตราส่วนโทษที่กำหนดไว้สำหรับความผิดทั้งสองฐานหรือไม่ จะเป็นฎีกาในดุลพินิจของศาลอันเป็นข้อเท็จจริงต้องห้ามมิให้ฎีกาตาม ป.วิ.อ. มาตรา 218 วรรคแรก ก็ตามแต่เมื่อจำเลยฎีกาในข้อแรกเป็นปัญหาข้อกฎหมายมาด้วย ศาลฎีกามีอำนาจวินิจฉัยลงโทษจำเลยและลดมาตราส่วนโทษตาม ป.อ. มาตรา 76 ให้เหมาะสมแก่ความผิดได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3199/2536
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาทำปลอมเอกสารราชการและใช้เอกสารปลอม กรณีลงชื่อแทนเจ้าพนักงานและใช้แผ่นป้ายทะเบียนปลอม
นอกจากจำเลยได้กรอกข้อความลงในใบคู่มือการจดทะเบียนรถยนต์โดยลงชื่อของจำเลยในช่องลงชื่อของเจ้าของรถแล้ว จำเลยยังลงชื่อบุคคลอื่นในช่องลงชื่อผู้บันทึกและนายทะเบียนด้วย แสดงให้เห็นว่าจำเลยทราบอยู่แล้วว่าผู้บันทึกและนายทะเบียนซึ่งเป็นเจ้าพนักงานเป็นผู้มีอำนาจกระทำเอกสารดังกล่าว หาใช่จำเลยไม่ จำเลยจึงมีเจตนาทำปลอมใบคู่มือการจดทะเบียนอันเป็นเอกสารราชการ เมื่อจำเลยเป็นผู้ทำปลอมใบคู่มือการจดทะเบียนรถยนต์ย่อมแสดงว่าจำเลยมีเจตนาทำปลอมแผ่นป้ายทะเบียนรถยนต์ 2 แผ่นเพราะจำเลยได้นำไปใช้ติดกับรถยนต์ของกลางเพื่อให้ตรงกับหมายเลขทะเบียนในใบคู่มือการจดทะเบียนรถยนต์ การที่จำเลยเป็นผู้ทำปลอมใบคู่มือการจดทะเบียนรถยนต์และแผ่นป้ายวงกลมแสดงการเสียภาษีรถยนต์ และว่าจ้างให้ผู้อื่นทำปลอมแผ่นป้ายทะเบียนรถยนต์ 2 แผ่น แล้วนำเอกสารทั้งหมดไปใช้กับรถยนต์ของกลาง ย่อมฟังได้ว่าจำเลยมีเจตนาใช้เอกสารปลอมดังกล่าว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1817/2526
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
แผ่นป้ายทะเบียนที่แจ้งเลิกใช้แล้ว ไม่ถือเป็นเอกสารปลอม การกระทำจึงไม่ผิดฐานใช้เอกสารปลอม
จำเลยที่ 1 นำแผ่นป้ายทะเบียนรถยนต์ที่แท้จริงซึ่งทางราชการออกให้เพื่อใช้กับรถยนต์ของจำเลยที่ 2 ซึ่งจำเลยที่ 2 ได้แจ้งเลิกใช้แล้วมาใช้กับรถยนต์ของกลาง การกระทำของจำเลยทั้งสองจึงไม่เป็นความผิดฐานใช้เอกสารปลอม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3078/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การใช้แผ่นป้ายทะเบียนรถยนต์ของผู้อื่น แม้มีเจตนาทำให้ผู้อื่นหลงเชื่อ ไม่ถือเป็นความผิดฐานปลอมแปลงหรือใช้เอกสารปลอม หากเป็นเอกสารที่ออกให้ถูกต้อง
การที่จำเลยนำแผ่นป้ายทะเบียนรถยนต์หมายเลข น. 0311 พังงา ซึ่งเป็นแผ่นป้ายทะเบียนรถยนต์ที่ทางราชการออกให้แก่รถยนต์ของ ส. นำไปใช้ติดกับรถยนต์จำเลยซึ่งเป็นรถยนต์อีกคันหนึ่ง แม้จะโดยมีเจตนาแสดงให้ผู้อื่นหลงเชื่อว่ารถยนต์ของจำเลยเป็นรถยนต์ที่มีหมายเลขทะเบียน น. 0311 พังงา ก็ตามเมื่อแผ่นป้ายทะเบียนรถยนต์ดังกล่าวเป็นแผ่นป้ายทะเบียนรถยนต์ที่แท้จริงซึ่งทางราชการออกให้แก่รถยนต์คันอื่น จำเลยย่อมไม่มีความผิดฐานปลอมเอกสารหรือใช้เอกสารราชการปลอม
(อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 1181/2523
(อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 1181/2523
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3078/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การใช้แผ่นป้ายทะเบียนรถยนต์ของผู้อื่น แม้มีเจตนาทำให้ผู้อื่นหลงเชื่อ ไม่ถือเป็นความผิดฐานปลอมเอกสารหรือใช้เอกสารปลอม
การที่จำเลยนำแผ่นป้ายทะเบียนรถยนต์หมายเลข น.0311พังงาซึ่งเป็นแผ่นป้ายทะเบียนรถยนต์ที่ทางราชการออกให้แก่รถยนต์ของ ส. นำไปใช้ติดกับรถยนต์จำเลยซึ่งเป็นรถยนต์อีกคันหนึ่ง แม้จะโดยมีเจตนาแสดงให้ผู้อื่นหลงเชื่อว่ารถยนต์ของจำเลยเป็นรถยนต์ที่มีหมายเลขทะเบียน น.0311 พังงา ก็ตามเมื่อแผ่นป้ายทะเบียนรถยนต์ดังกล่าวเป็นแผ่นป้ายทะเบียนรถยนต์ที่แท้จริงซึ่งทางราชการออกให้แก่รถยนต์คันอื่น จำเลยย่อมไม่มีความผิดฐานปลอมเอกสารหรือใช้เอกสารราชการปลอม (อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 1141/2523)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2457/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การใช้แผ่นป้ายทะเบียนปลอมเพื่อหลีกเลี่ยงการยึดรถจากผู้ให้เช่าซื้อ มีความผิดฐานใช้เอกสารราชการปลอม
จำเลยนำแผ่นป้ายทะเบียนรถคันอื่นไปติดไว้ที่รถจักรยานยนต์คันที่จำเลยครอบครอง และใช้ขับขี่แทนแผ่นป้ายทะเบียนรถเดิม อันมีหมายเลขทะเบียนไม่ตรงกัน มีความผิดฐานใช้เอกสารราชการปลอม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2241/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การใช้แผ่นป้ายทะเบียนปลอมเพื่อแสดงว่าเป็นรถยนต์ที่มีทะเบียนถูกต้อง ถือเป็นความผิดฐานปลอมและใช้เอกสารราชการปลอม
แผ่นป้ายทะเบียนหมายเลข ต.ด.01839 ของกลางเป็นหมายเลขทะเบียนที่ทางการออกให้กับรถยนต์คันหนึ่งของจำเลยที่ถูกชนพังใช้การไม่ได้ แม้แผ่นป้ายดังกล่าวจำเลยเป็นผู้กระทำขึ้นเพื่อใช้แทนแผ่นป้ายอันแท้จริงซึ่งทางการจะต้องเป็นผู้ทำและมอบให้เจ้าของรถยนต์ก็ตาม แต่โดยทางปฏิบัติหากทางการยังไม่มีแผ่นป้ายทะเบียนให้ ก็อนุโลมให้ถือว่าเป็นแผ่นป้ายทะเบียนโดยชอบ แต่จะนำป้ายทะเบียนของกลางไปใช้กับรถยนต์คันอื่นหาได้ไม่ การที่จำเลยนำแผ่นป้ายหมายเลขทะเบียนดังกล่าวไปติดเพื่อใช้กับรถยนต์คันของกลางโดยมีเจตนาแสดงให้ผู้อื่นหลงเชื่อว่า รถยนต์คันของกลางซึ่งเป็นรถที่ผิดกฎหมายเป็นรถที่มีทะเบียนถูกต้อง จึงเห็นได้ว่าแผ่นป้ายทะเบียนหมายเลข ต.ด.01839 ที่จำเลยทำขึ้นนั้น หาได้นำไปใช้กับรถยนต์คันของตนที่ได้รับอนุญาตไม่ หากแต่นำไปใช้เป็นหมายเลขทะเบียนปลอมของรถยนต์คันของกลางโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชนให้หลงเชื่อว่าแผ่นป้ายทะเบียนหมายเลขนั้นเป็นเอกสารราชการอันแท้จริงที่ทางการออกให้ใช้กับรถยนต์คันของกลาง การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดฐานปลอมและใช้เอกสารปลอม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7968/2555
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การปลอมและใช้เอกสารราชการปลอม (แผ่นป้ายทะเบียน/เสียภาษี) ร่วมกับรับของโจร ศาลฎีกาพิจารณาความผิดฐานปลอมและใช้เป็นกรรมเดียว
บันทึกคำให้การของ ส. ข. และ ด. เป็นคำให้การที่มีรายละเอียดได้เล่าถึงเหตุการณ์ก่อนถูกเจ้าพนักงานตำรวจทำการจับกุม โดยบุคคลทั้งสามต่างให้การว่า จำเลยเป็นผู้มีส่วนร่วมและรู้เห็นกับการกระทำความผิดมาตั้งแต่ต้น แม้บันทึกคำให้การของบุคคลทั้งสามจะเป็นพยานบอกเล่าก็ตาม แต่โจทก์มีร้อยตำรวจเอก บ. ซึ่งเป็นผู้สอบสวนพยานมาเบิกความรับรอง ประกอบกับทั้งสามคนต่างได้ถูกฟ้องในความผิดเกี่ยวกับรับของโจรและร่วมกันปลอมและใช้เอกสารราชการปลอมต่อศาลชั้นต้นและศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาลงโทษคดีถึงที่สุดแล้ว ดังนั้น คำให้การของบุคคลทั้งสามดังกล่าวจึงรับฟังสนับสนุนพยานโจทก์ได้ นอกจากนี้ ตามพฤติการณ์ของจำเลยก่อนและขณะถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจทำการตรวจรถยังได้ความว่าจำเลยกับ ส. กับพวกเดินทางมาจากกรุงเทพมหานครพร้อมกัน ทั้งยังได้เข้าร่วมเจรจากับกลุ่มชาวกัมพูชาที่ตลาดบ้านแหลมจนกระทั่งขับรถยนต์ทั้งสองคันออกจากตลาดบ้านแหลมพร้อมกันและถูกเรียกตรวจพร้อมกัน จำเลยยังได้แอบอ้างแสดงตัวต่อเจ้าพนักงานตำรวจว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทั้งขอความอนุเคราะห์ให้ปล่อยรถยนต์คันที่ ส. เป็นผู้ขับ พฤติการณ์ของจำเลยตามที่พยานโจทก์นำสืบย่อมแสดงออกได้โดยชัดแจ้งว่า จำเลยรู้เห็นเป็นใจและร่วมกับ ส. กับพวกปลอมทะเบียนรถยนต์และปลอมแผ่นป้ายวงกลมเสียภาษีรถยนต์ซึ่งติดอยู่กับรถยนต์คันที่ ส. เป็นผู้ขับจริง
แต่การปลอมและใช้แผ่นป้ายทะเบียนรถยนต์ปลอมและแผ่นป้ายวงกลมแสดงการเสียภาษีปลอมนั้น ตามพฤติการณ์เห็นได้ว่า จำเลยกับพวกมีเจตนาอย่างเดียวกันคือ ให้บุคคลทั่วไปและเจ้าพนักงานตำรวจเห็นว่ารถยนต์ดังกล่าวเป็นรถยนต์ที่ถูกต้องตามกฎหมาย การกระทำของจำเลยในประเด็นนี้จึงเป็นกรรมเดียวตาม ป.อ. มาตรา 90 ปัญหาข้อนี้เป็นข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย ศาลฎีกามีอำนาจยกขึ้นวินิจฉัยได้เองตาม ป.วิ.อ. มาตรา 195 วรรคสอง ประกอบมาตรา 225
แต่การปลอมและใช้แผ่นป้ายทะเบียนรถยนต์ปลอมและแผ่นป้ายวงกลมแสดงการเสียภาษีปลอมนั้น ตามพฤติการณ์เห็นได้ว่า จำเลยกับพวกมีเจตนาอย่างเดียวกันคือ ให้บุคคลทั่วไปและเจ้าพนักงานตำรวจเห็นว่ารถยนต์ดังกล่าวเป็นรถยนต์ที่ถูกต้องตามกฎหมาย การกระทำของจำเลยในประเด็นนี้จึงเป็นกรรมเดียวตาม ป.อ. มาตรา 90 ปัญหาข้อนี้เป็นข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย ศาลฎีกามีอำนาจยกขึ้นวินิจฉัยได้เองตาม ป.วิ.อ. มาตรา 195 วรรคสอง ประกอบมาตรา 225