พบผลลัพธ์ทั้งหมด 6 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 117/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแสดงข้อความเพื่อความชอบธรรมและการป้องกันส่วนได้เสียตามคลองธรรม ไม่เป็นความผิดฐานหมิ่นประมาท
โจทก์เป็นหัวหน้าแผนกบัญชีของบริษัทบริษัทให้ออกจากงานต่อมาจำเลยซึ่งเป็นกรรมการผู้จัดการบริษัทได้ปิดประกาศไว้ที่สำนักงานของบริษัทแจ้งแก่พนักงานทุกคนมีใจความว่าแฟ้มเอกสารประวัติพนักงานได้ถูกทำลายและสูญหายไปเป็นการกระทำของอดีตหัวหน้าแผนกบัญชี(คือโจทก์)จึงขอความร่วมมือจากพนักงานทุกคนให้ร่วมกันจัดทำแฟ้มประวัติพนักงานการกระทำดังกล่าวของจำเลยเป็นการแสดงข้อความโดยสุจริตเพื่อความชอบธรรม ป้องกันส่วนได้เสียเกี่ยวกับตนตามคลองธรรมไม่มีความผิดฐานหมิ่นประมาท.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 117/2529
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแสดงข้อความโดยสุจริตเพื่อป้องกันส่วนได้เสียตามคลองธรรม ไม่เป็นความผิดฐานหมิ่นประมาท
โจทก์เป็นหัวหน้าแผนกบัญชีของบริษัทบริษัทให้ออกจากงานต่อมาจำเลยซึ่งเป็นกรรมการผู้จัดการบริษัทได้ปิดประกาศไว้ที่สำนักงานของบริษัทแจ้งแก่พนักงานทุกคนมีใจความว่าแฟ้มเอกสารประวัติพนักงานได้ถูกทำลายและสูญหายไปเป็นการกระทำของอดีตหัวหน้าแผนกบัญชี(คือโจทก์)จึงขอความร่วมมือจากพนักงานทุกคนให้ร่วมกันจัดทำแฟ้มประวัติพนักงานการกระทำดังกล่าวของจำเลยเป็นการแสดงข้อความโดยสุจริตเพื่อความชอบธรรมป้องกันส่วนได้เสียเกี่ยวกับตนตามคลองธรรมไม่มีความผิดฐานหมิ่นประมาท.(ที่มา-ส่งเสริมฯ)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1337/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแสดงข้อความเพื่อปกป้องสิทธิของตน มิใช่ความผิดหมิ่นประมาท
การแสดงข้อความโดยสุจริต เพื่อความชอบธรรมป้องกันส่วนได้เสียเกี่ยวกับตนตามคลองธรรม ซึ่งไม่เป็นความผิดฐานหมิ่นประมาท ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 329(1)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2723/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแสดงข้อความโดยสุจริตด้วยความเป็นธรรมเป็นข้อยกเว้นความผิดฐานหมิ่นประมาท
ข้อเท็จจริงฟังได้ว่าจำเลยลงข้อความโฆษณาในหนังสือพิมพ์ของจำเลยโดยอาศัยบทความที่เขียนโดยชาวต่างประเทศที่ลงพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ต่างประเทศฉบับหนึ่งซึ่งพิมพ์ออกจำหน่ายในประเทศสหรัฐอเมริกา มีข้อความโดยย่อว่า ซีไอเอ ได้จ่ายเงิน 250 ล้านบาทอุดหนุนหน่วย "นวพล" ที่ซีไอเอ ร่วมกับเจ้าหน้าที่รัฐบาลไทยบางคนตั้งขึ้นมาเพื่อกำราบประชาชนและนักศึกษาที่มีกิจกรรมต่อต้านสหรัฐฯโจทก์เป็นผู้เสนอโครงการ "นวพล" นี้โดยมีการติดต่อกับเจ้าหน้าที่ชั้นสูงของกระทรวงการต่างประเทศและกลาโหมของสหรัฐฯ มาก่อนเงินอุดหนุน "นวพล" นี้ เฉพาะตัวโจทก์ได้รับเงินเดือน ๆ ละ 8 หมื่นบาท ดังนี้ แม้หากจะฟังว่าข้อความตามที่จำเลยลงโฆษณานั้นมีความหมายเป็นการหมิ่นประมาทโจทก์ก็ตามแต่การกระทำของจำเลยเป็นการแสดงข้อความโดยสุจริตด้วยความเป็นธรรม ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 329(3) ไม่มีความผิดฐานหมิ่นประมาท
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 256/2518
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแสดงข้อความเพื่อความชอบธรรมและการป้องกันส่วนได้เสีย ไม่เป็นความผิดหมิ่นประมาท
โจทก์เป็นผู้จัดการฝ่ายเคมีของบริษัท โจทก์ติดต่อให้บริษัทคู่แข่งของบริษัท ล. เป็นตัวแทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์เคมีของบริษัท ฮ. ต่อมาโจทก์ออกจากบริษัท ล. ไปทำงานกับบริษัท บ. จำเลยผู้จัดการบริษัทจึงประกาศปิดไว้ที่บริษัท ล. ให้พนักงานทราบทั่วกันว่าโจทก์ถูกห้ามเข้ามาในบริเวณสำนักงานและคลังพัสดุของบริษัท เพราะโจทก์ได้กระทำผิดระเบียบกฎข้อบังคับของบริษัทและทำให้บริษัทเสียประโยชน์การกระทำของจำเลยดังกล่าวเป็นการแสดงข้อความโดยสุจริตเพื่อความชอบธรรมและป้องกันส่วนได้เสียเกี่ยวกับบริษัท ล. ตามคลองธรรม ตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 329(1) ไม่มีความผิดฐานหมิ่นประมาท
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1529/2501
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การหลอกลวงเพื่อเอาทรัพย์ การแสดงเจตนาที่ไม่ชัดเจนไม่ถึงขั้นหลอกลวง
ฟ้องโจทก์ที่บรรยายว่า จำเลยมาพูดหลอกลวงโจทก์โดยเจตนาทุจริตขอเอาหนังสือสัญญาขายฝากไปโดยหลอกลวงว่าจะเอาไปรักษาไว้ให้เพื่อความปลอดภัยในการสูญหาย เมื่อถึงกำหนดไถ่ถอนจะคืนให้และจะมาบอกให้ไปไถ่นั้น ยังถือไม่ได้ว่าเป็นการหลอกลวงด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อความจริงซึ่งควรบอกให้แจ้งตามความใน มาตรา341 แห่งประมวลกฎหมายอาญา เพราะถ้อยคำของจำเลยดังที่โจทก์ระบุมาในฟ้องนั้นเป็นแต่เพียงมีความหมายว่าจะเอาไปเก็บไว้ให้เท่านั้น ถึงแม้จะเป็นความจริงดังโจทก์กล่าวหา ก็เอาผิดแก่จำเลยตามโจทก์ฟ้องไม่ได้