พบผลลัพธ์ทั้งหมด 3 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5857/2537 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานผลิตและมีแอมเฟตามีนในครอบครอง โดยพิจารณาเจตนาและคุณสมบัติของจำเลย
จำเลยที่ 1 และที่ 2 เป็นสามีภริยากัน จำเลยที่ 3 เป็นบุตรเจ้าพนักงานตำรวจจับจำเลยที่ 1 และที่ 3 ได้ที่บ้านไม่มีเลขที่พบของกลาง เครื่องมือใช้ผลิตแอมเฟตามีน 27 รายการ และค้นบ้านเลขที่ 377 ซึ่งอยู่ห่างไป 500 เมตรพบจำเลยที่ 2 ในบ้านดังกล่าวพบของกลางน้ำยาและอุปกรณ์การผลิตจำนวนมากยาม้าหรือแอมเฟตามีนที่ผลิตแล้ว 180 เม็ด ส่วนอุปกรณ์เช่น บล๊อกปั๊มยี่ห้อยาม้าค้นได้ที่ใต้ฟูกในห้องนอน บ้านไม่มีเลขที่กับบ้านเลขที่ 377 เป็นบ้านของจำเลยที่ 1 และที่ 2ชั้นสอบสวนจำเลยที่ 2 ให้การว่า ผู้นำเครื่องมือผลิตยาม้ามาไว้ในบ้านดังกล่าวนั้นคือนายตี๋เพื่อนของจำเลยที่ 1 และได้ผลิตยาม้าไปแล้วครั้งหนึ่ง การที่จำเลยที่ 2รู้เห็นยินยอมในการที่นายตี๋นำเครื่องมือและอุปกรณ์การผลิตยาม้าหรือแอมเฟตามีนมาทำการผลิตในบ้านของตน รวมทั้งแอมเฟตามีนที่ผลิตเป็นเม็ดแล้วก็เก็บไว้ในบ้านดังกล่าวแล้ว แสดงว่าจำเลยที่ 2 มีเจตนาร่วมกับจำเลยที่ 1 และนายตี๋ทำการผลิตแอมเฟตามีนและร่วมกันมีแอมเฟตามีนไว้ในครอบครอง
จำเลยที่ 3 อายุ 19 ปี ยังอยู่ในอำนาจการปกครองของจำเลย-ที่ 1 และที่ 2 บิดามารดา และอาศัยอยู่กับจำเลยที่ 1 และที่ 2 ในบ้านเกิดเหตุซึ่งเป็นบ้านของจำเลยที่ 1 และที่ 2 การที่จำเลยที่ 1 และที่ 2 ตกลงใจร่วมกับนายตี๋ทำการผลิตแอมเฟตามีนในบ้านดังกล่าว จึงไม่เกี่ยวกับจำเลยที่ 3 ฟังไม่ได้ว่าจำเลยที่ 3 ร่วมกับจำเลยที่ 1 และที่ 2 ทำการผลิตแอมเฟตามีนตามฟ้อง
ในระหว่างพิจารณาของศาลชั้นต้นได้มี พ.ร.บ.วัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2535 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.วัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท พ.ศ. 2518 ออกใช้บังคับโดยเพิ่มเติม มาตรา 13 ทวิ วรรคหนึ่งห้ามมิให้ผู้ใดผลิต ขาย นำเข้า หรือส่งออก ซึ่งวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 2แยกจากเดิม ซึ่งบัญญัติรวมไว้ในมาตรา 13 และแก้ไขโทษปรับตามขั้นสูงตามมาตรา 89 ให้ต่ำลงมาจากปรับห้าแสนบาท เป็นปรับสี่แสนบาท ถือว่าเป็นคุณแก่จำเลยที่ 1 และที่ 2 จึงต้องใช้บทกฎหมายที่แก้ไขเพิ่มเติมใหม่นี้มาปรับแก่คดีของจำเลยทั้งสอง ตาม ป.อ.มาตรา 3 และเมื่อศาลฎีกาเห็นว่าคำให้การในชั้นสอบสวนของจำเลยที่ 1 และที่ 2 เป็นประโยชน์แก่การพิจารณาเป็นเหตุบรรเทาโทษตาม ป.อ.มาตรา 78 เห็นสมควรนำมาเป็นเหตุลดโทษแก่จำเลยที่ 2 แล้วก็ให้เป็นคุณแก่จำเลยที่ 1 ซึ่งคดีได้เสร็จเด็ดขาดไปแล้วด้วยได้
จำเลยที่ 3 อายุ 19 ปี ยังอยู่ในอำนาจการปกครองของจำเลย-ที่ 1 และที่ 2 บิดามารดา และอาศัยอยู่กับจำเลยที่ 1 และที่ 2 ในบ้านเกิดเหตุซึ่งเป็นบ้านของจำเลยที่ 1 และที่ 2 การที่จำเลยที่ 1 และที่ 2 ตกลงใจร่วมกับนายตี๋ทำการผลิตแอมเฟตามีนในบ้านดังกล่าว จึงไม่เกี่ยวกับจำเลยที่ 3 ฟังไม่ได้ว่าจำเลยที่ 3 ร่วมกับจำเลยที่ 1 และที่ 2 ทำการผลิตแอมเฟตามีนตามฟ้อง
ในระหว่างพิจารณาของศาลชั้นต้นได้มี พ.ร.บ.วัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2535 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.วัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท พ.ศ. 2518 ออกใช้บังคับโดยเพิ่มเติม มาตรา 13 ทวิ วรรคหนึ่งห้ามมิให้ผู้ใดผลิต ขาย นำเข้า หรือส่งออก ซึ่งวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 2แยกจากเดิม ซึ่งบัญญัติรวมไว้ในมาตรา 13 และแก้ไขโทษปรับตามขั้นสูงตามมาตรา 89 ให้ต่ำลงมาจากปรับห้าแสนบาท เป็นปรับสี่แสนบาท ถือว่าเป็นคุณแก่จำเลยที่ 1 และที่ 2 จึงต้องใช้บทกฎหมายที่แก้ไขเพิ่มเติมใหม่นี้มาปรับแก่คดีของจำเลยทั้งสอง ตาม ป.อ.มาตรา 3 และเมื่อศาลฎีกาเห็นว่าคำให้การในชั้นสอบสวนของจำเลยที่ 1 และที่ 2 เป็นประโยชน์แก่การพิจารณาเป็นเหตุบรรเทาโทษตาม ป.อ.มาตรา 78 เห็นสมควรนำมาเป็นเหตุลดโทษแก่จำเลยที่ 2 แล้วก็ให้เป็นคุณแก่จำเลยที่ 1 ซึ่งคดีได้เสร็จเด็ดขาดไปแล้วด้วยได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5857/2537
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานผลิตและครอบครองยาเสพติด (แอมเฟตามีน) โดยเจตนาและมีส่วนร่วม รวมถึงการพิจารณาโทษตามกฎหมายแก้ไขใหม่
จำเลยที่ 1 และที่ 2 เป็นสามีภริยากัน จำเลยที่ 3เป็นบุตร เจ้าพนักงานตำรวจจับจำเลยที่ 1 และที่ 3 ได้ที่บ้านไม่มีเลขที่พบของกลาง เครื่องมือใช้ผลิตแอมเฟตามีน 27 รายการ และค้นบ้านเลขที่ 377 ซึ่งอยู่ห่างไป 500 เมตร พบจำเลยที่ 2 ในบ้านดังกล่าวพบของกลางน้ำยาและอุปกรณ์การผลิตจำนวนมาก ยาม้าหรือแอมเฟตามีนที่ผลิตแล้ว 180 เม็ด ส่วนอุปกรณ์เช่น บล๊อกปั๊มยี่ห้อยาม้าค้นได้ที่ใต้ฟูก ในห้องนอน บ้านไม่มีเลขที่กับบ้านเลขที่ 377 เป็นบ้านของจำเลยที่ 1 และที่ 2 ชั้นสอบสวนจำเลยที่ 2 ให้การว่า ผู้นำเครื่องมือผลิตยาม้ามาไว้ในบ้านดังกล่าวนั้นคือนายตี๋เพื่อนของจำเลยที่ 1 และได้ผลิตยาม้าไปแล้วครั้งหนึ่ง การที่จำเลยที่ 2 รู้เห็นยินยอมในการที่นายตี๋นำเครื่องมือและอุปกรณ์การผลิตยาม้าหรือแอมเฟตามีนมาทำการผลิตในบ้านของตน รวมทั้งแอมเฟตามีนที่ผลิตเป็นเม็ดแล้วก็เก็บไว้ในบ้านดังกล่าวแล้ว แสดงว่าจำเลยที่ 2 มีเจตนาร่วมกับจำเลยที่ 1 และนายตี๋ทำการผลิตแอมเฟตามีนและร่วมกันมีแอมเฟตามีนไว้ในครอบครอง จำเลยที่ 3 อายุ 19 ปี ยังอยู่ในอำนาจการปกครองของจำเลยที่ 1 และที่ 2 บิดามารดา และอาศัยอยู่กับจำเลยที่ 1และที่ 2 ในบ้านเกิดเหตุซึ่งเป็นบ้านของจำเลยที่ 1 และที่ 2การที่จำเลยที่ 1 และที่ 2 ตกลงใจร่วมกับนายตี๋ทำการผลิตแอมเฟตามีนในบ้านดังกล่าว จึงไม่เกี่ยวกับจำเลยที่ 3ฟังไม่ได้ว่าจำเลยที่ 3 ร่วมกับจำเลยที่ 1 และที่ 2 ทำการผลิตแอมเฟตามีนตามฟ้อง ในระหว่างพิจารณาของศาลชั้นต้นได้มีพระราชบัญญัติวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท (ฉบับที่ 3)พ.ศ. 2535 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท พ.ศ. 2518ออกใช้บังคับโดยเพิ่มเติม มาตรา 13 ทวิ วรรคหนึ่ง ห้ามมิให้ผู้ใดผลิต ขาย นำเข้า หรือส่งออก ซึ่งวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 2 แยกจากเดิม ซึ่งบัญญัติรวมไว้ในมาตรา 13 และแก้ไขโทษปรับตามขั้นสูงตามมาตรา 89 ให้ต่ำลงมาจากปรับห้าแสนบาท เป็นปรับสี่แสนบาท ถือว่าเป็นคุณแก่จำเลยที่ 1 และที่ 2 จึงต้องใช้บทกฎหมายที่แก้ไขเพิ่มเติมใหม่นี้มาปรับแก่คดีของจำเลยทั้งสอง ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 3 และเมื่อศาลฎีกาเห็นว่าคำให้การในชั้นสอบสวนของจำเลยที่ 1 และที่ 2 เป็นประโยชน์แก่การพิจารณาเป็นเหตุบรรเทาโทษตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 เห็นสมควรนำมาเป็นเหตุลดโทษแก่จำเลยที่ 2 แล้วก็ให้เป็นคุณแก่จำเลยที่ 1ซึ่งคดีได้เสร็จเด็ดขาดไปแล้วด้วยได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3158/2535 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลงโทษฐานมีแอมเฟตามีนในครอบครอง แม้ไม่มีคำขอท้ายฟ้อง ศาลลงโทษได้ตามบทลงโทษที่เบากว่า
โจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยได้กระทำความผิดฐานมีแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองเพื่อขายและขายแอมเฟตามีน ขอให้ลงโทษตาม พ.ร.บ. วัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท พ.ศ. 2518 มาตรา 13และ 89 ความผิดตามฟ้องดังกล่าวนี้ย่อมรวมถึงการมีแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองซึ่งเป็นความผิดตามมาตรา 62 วรรคหนึ่ง และ 106อยู่ด้วย ถือได้ว่า ความผิดตามฟ้องรวมการกระทำหลายอย่างแต่ละอย่างอาจเป็นความผิดได้อยู่ในตัวเอง เมื่อทางพิจารณาฟังได้ว่า จำเลยมีแอมเฟตามีนไว้ในครอบครอง ศาลจึงมีอำนาจลงโทษจำเลยในการกระทำความผิดฐานมีแอมเฟตามีนไว้ในครอบครอง ซึ่งมีบทลงโทษเบากว่าตามที่พิจารณาได้ความได้ ตาม ป.วิ.อ. มาตรา 192 วรรคท้าย.