พบผลลัพธ์ทั้งหมด 12 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2539/2541
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพยายามฆ่าโดยไม่ได้ไตร่ตรองไว้ก่อน พิจารณาจากระยะเวลาและพฤติการณ์
จำเลยและผู้เสียหายอยู่หมู่บ้านเดียวกันและเป็นเพื่อนกันมาก่อน หากจำเลยมีใจคิดจะฆ่าผู้เสียหายหลังจากทะเลาะวิวาททำร้ายกันแล้วก็สามารถกระทำ ได้ง่ายและคงไม่ปล่อยเวลาให้ผ่านไปนานประมาณ 3 เดือนจนเพิ่งมาเกิดเหตุคดีนี้แม้ได้ความว่าจำเลยยังผูกใจเจ็บผู้เสียหายอยู่ ก็ไม่อาจแปลความว่าจำเลยคิดจะฆ่าผู้เสียหายตลอดมา เมื่อจำเลยมาพบผู้เสียหายในงานวัดจึงเกิดความคิดที่จะแก้แค้นผู้เสียหายโดยมิได้มีการพกหรือเตรียมอาวุธมาก่อนแสดงว่าความคิดที่จะฆ่าผู้เสียหายของจำเลยเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อมาพบเห็นผู้เสียหาย ในงานวัดดังกล่าวการที่จำเลยกลับไปบ้านนำอาวุธมีดของกลางมาฟันทำร้ายผู้เสียหายในทันที กรณีจึงไม่แตกต่างกับที่จำเลยไปนำเอาอาวุธมีดจากบริเวณใกล้เคียงมาฟันทำร้ายผู้เสียหายในทันทีที่พบเห็นผู้เสียหาย การกระทำของจำเลยยังถือไม่ได้ว่าได้กระทำโดยไตร่ตรองไว้ก่อน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1177/2537
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อน: พฤติการณ์โกรธเคือง การเตรียมอาวุธ และการลงมือ
โจทก์มีพยานจำนวน 2 ปากเบิกความว่าคืนก่อนวันเกิดเหตุ 1 วันจำเลยกับผู้ตายมีเรื่องทะเลาะกัน ผู้ตายเตะจำเลย 1 ครั้งแล้วก็เลิกรากันไป โดยสอดคล้องกับคำให้การของจำเลยในชั้นสอบสวนว่าหลังจากจำเลยถูกผู้ตายเตะแล้วกลับบ้านนอนไม่หลับทั้งคืน รุ่งเช้าขึ้นจำเลยไปตามหาผู้ตายโดยไปพบผู้ตายอยู่กับเพื่อนที่ทุ่งนาและหาโอกาสยิงผู้ตาย พอเพื่อนผู้ตายลุกขึ้นออกไป จำเลยใช้อาวุธปืนยิงผู้ตายทางด้านหลังจนถึงแก่ความตาย โดยมีพนักงานสอบสวนมาเบิกความยืนยันว่าจำเลยให้การดังกล่าวด้วยความสมัครใจ และคำให้การของจำเลยที่สอดคล้องกับบาดแผลที่ถูกยิง ที่จำเลยต่อสู้ว่า อยู่กับผู้ตายสองต่อสองแล้วผู้ตายด่าจำเลยและท้าให้จำเลยยิง จำเลยบันดาลโทสะจึงยิงผู้ตายนั้น จำเลยมิได้ให้การไว้ในชั้นสอบสวนและจากคำเบิกความของพยานโจทก์อีก 2 ปากที่อยู่ในบริเวณที่เกิดเหตุก็ไม่ปรากฏว่าผู้ตายได้ด่าว่าจำเลยแต่อย่างใด ข้อต่อสู้ของจำเลยดังกล่าวจึงไม่มีน้ำหนักน่าเชื่อถือ พยานหลักฐานโจทก์ฟังได้ว่าจำเลยมีเรื่องโกรธเคืองกับผู้ตายมาก่อนแล้ว ต่อมาจำเลยมาตามหาผู้ตายโดยนำอาวุธปืนไปตั้งใจจะยิงผู้ตาย ซึ่งถือว่าจำเลยมีโอกาสคิดไตร่ตรองไว้ก่อนแล้วว่าจะฆ่าผู้ตายหรือไม่ เมื่อจำเลยไปพบผู้ตายและได้โอกาสก็ยิงผู้ตายจนถึงแก่ความตาย การกระทำของจำเลยจึงเป็นการฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อนตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 289(4)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 282/2529
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อน พิจารณาจากระยะเวลาโกรธเคือง การเตรียมการ และสถานการณ์ขณะเกิดเหตุ
ท.และจำเลยเคยพิพาทกันเรื่องมรดกก่อนเกิดเหตุประมาณ3ปีในวันเกิดเหตุท.กับจำเลยทะเลาะกันอีกจำเลยพูดขู่จะฆ่าท.ต่อมาจำเลยใช้ปืนยิงท.ได้รับบาดเจ็บสาหัสและกระสุนปืนพลาดไปถูกผู้อื่นถึงแก่ความตายดังนี้การที่ท.และจำเลยมีสาเหตุโกรธเคืองกันมาก่อนนั้นถือไม่ได้เสมอไปว่ามีเจตนาฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อนทั้งเหตุพิพาทเรื่องมรดกก็นานถึง3ปีมาแล้วเหตุที่ทะเลาะกันในวันเกิดเหตุไม่ปรากฏว่าเป็นเรื่องร้ายแรงถึงขนาดที่จะต้องเอาชีวิตกันเหตุยิงกันก็เกิดหลังจากที่ได้ทะเลาะกันแล้วถึง4ชั่วโมงเศษเมื่อไม่ปรากฏว่าจำเลยได้วางแผนเตรียมการเพื่อจะฆ่ามาก่อนแล้วจะถือเอาการที่จำเลยใช้อาวุธปืนยิงท.ขณะที่นั่งคุยกันอยู่นั้นเป็นการฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อนยังไม่ถนัดจำเลยอาจคิดฆ่าท.ขึ้นในขณะที่มาพบเห็นท.ตอนหลังก็เป็นได้จึงยังถือไม่ได้ว่าเป็นการฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อน.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 834/2520 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยิงผู้อื่นด้วยปืน การพิจารณา 'ไตร่ตรองไว้ก่อน' แม้มีเหตุโกรธเคือง แต่หากมีเวลาคิดไตร่ตรอง ถือเป็นเจตนา
กรณีที่จำเลยเป็นฝ่ายด่าว่าโจทก์ร่วมเรื่องโจทก์ร่วมให้คนมาขุดซ่อมท่อประปาที่ที่ดินหน้าร้านโจทก์ร่วม ที่เช่าจากจำเลย โดยโจทก์ร่วมไม่ได้โต้เถียงและได้บอกจำเลยด้วยว่าเมื่อทำเสร็จแล้วจะกลบท่อให้ดังเดิม จำเลยกลับใช้ปืนยิงโจทก์ร่วมถึง 3 นัด ไม่ปรากฏพฤติการณ์ว่าจำเลยถูกข่มเหงอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรมแต่อย่างใด กรณีนี้ถือไม่ได้ว่าจำเลยได้กระทำไปโดยบันดาลโทสะ
และเมื่อปรากฏว่าตามคำของแพทย์ผู้รักษาจำเลยว่าเมื่อประมาณ 3 ปี มาจำเลยเป็นโรคเปลี่ยนวัย แต่เมื่อได้รับรักษารับประทานยาแล้วอาการดีขึ้นและจำเลยเป็นผู้ดูแลกิจการบริการอาบอบนวดของจำเลย ดูแลห้องแถว บังกาโลที่ให้เช่าโดยสามารถดำเนินธุรกิจ และนำเงินไปฝากธนาคารด้วยตนเอง ก่อนที่จำเลยจะยิงโจทก์ร่วม จำเลยด่าว่าโจทก์ร่วมและหลังเกิดเหตุแล้ว จำเลยให้การรับสารภาพในชั้นสอบสวน นำพนักงานสอบสวนไปชี้ที่เกิดเหตุและแสดงท่าทางให้ถ่ายภาพประกอบคำรับโดยตลอด จำเลยมีความรู้สึกผิดชอบดีอย่างบุคคลธรรมดาทั่วไป ถือได้ว่าจำเลยกระทำผิดในขณะที่รู้สึกผิดชอบและสามารถบังคับตนเองได้
ส่วนในกรณีที่ปรากฏว่า ก่อนจำเลยใช้ปืนยิงโจทก์ร่วม จำเลยได้ด่าว่าโจทก์ร่วมโดยจำเลยโกรธโจทก์ร่วมที่ให้คนมาขุดท่อประปาในที่ดินของจำเลยเสร็จแล้วจำเลยและโจทก์ร่วมต่างแยกเข้าร้านของตน ซึ่งถือได้ว่าเหตุการณ์ในตอนนี้ได้ผ่านพ้นไปแล้ว แต่ต่อมาอีกประมาณ 10 นาที โจทก์ร่วมออกมาดูท่อประปาที่ขุดตามที่คนขุดท่อประปาขอให้มาดู จำเลยวิ่งออกจากร้านโดยไม่พูดจา แล้วใช้ปืนยิงโจทก์ร่วมทันทีเช่นนี้ มิใช่จำเลยกระทำการยิงโจทก์ร่วมในขณะที่เกิดโทสะพลุ่งขึ้นเฉพาะหน้า หากแต่เป็นการที่จำเลยใช้เวลาที่อยู่ในร้านประมาณ 10 นาที คิดไตร่ตรองทบทวนดีแล้วว่าจะยิงโจทก์ร่วมหรือไม่ และได้ตระเตรียมปืนไว้ใช้ยิง ดังนี้ที่จำเลยใช้ปืนยิงโจทก์ร่วมจึงเป็นการกระทำโดยไตร่ตรองไว้ก่อน
และเมื่อปรากฏว่าตามคำของแพทย์ผู้รักษาจำเลยว่าเมื่อประมาณ 3 ปี มาจำเลยเป็นโรคเปลี่ยนวัย แต่เมื่อได้รับรักษารับประทานยาแล้วอาการดีขึ้นและจำเลยเป็นผู้ดูแลกิจการบริการอาบอบนวดของจำเลย ดูแลห้องแถว บังกาโลที่ให้เช่าโดยสามารถดำเนินธุรกิจ และนำเงินไปฝากธนาคารด้วยตนเอง ก่อนที่จำเลยจะยิงโจทก์ร่วม จำเลยด่าว่าโจทก์ร่วมและหลังเกิดเหตุแล้ว จำเลยให้การรับสารภาพในชั้นสอบสวน นำพนักงานสอบสวนไปชี้ที่เกิดเหตุและแสดงท่าทางให้ถ่ายภาพประกอบคำรับโดยตลอด จำเลยมีความรู้สึกผิดชอบดีอย่างบุคคลธรรมดาทั่วไป ถือได้ว่าจำเลยกระทำผิดในขณะที่รู้สึกผิดชอบและสามารถบังคับตนเองได้
ส่วนในกรณีที่ปรากฏว่า ก่อนจำเลยใช้ปืนยิงโจทก์ร่วม จำเลยได้ด่าว่าโจทก์ร่วมโดยจำเลยโกรธโจทก์ร่วมที่ให้คนมาขุดท่อประปาในที่ดินของจำเลยเสร็จแล้วจำเลยและโจทก์ร่วมต่างแยกเข้าร้านของตน ซึ่งถือได้ว่าเหตุการณ์ในตอนนี้ได้ผ่านพ้นไปแล้ว แต่ต่อมาอีกประมาณ 10 นาที โจทก์ร่วมออกมาดูท่อประปาที่ขุดตามที่คนขุดท่อประปาขอให้มาดู จำเลยวิ่งออกจากร้านโดยไม่พูดจา แล้วใช้ปืนยิงโจทก์ร่วมทันทีเช่นนี้ มิใช่จำเลยกระทำการยิงโจทก์ร่วมในขณะที่เกิดโทสะพลุ่งขึ้นเฉพาะหน้า หากแต่เป็นการที่จำเลยใช้เวลาที่อยู่ในร้านประมาณ 10 นาที คิดไตร่ตรองทบทวนดีแล้วว่าจะยิงโจทก์ร่วมหรือไม่ และได้ตระเตรียมปืนไว้ใช้ยิง ดังนี้ที่จำเลยใช้ปืนยิงโจทก์ร่วมจึงเป็นการกระทำโดยไตร่ตรองไว้ก่อน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2009/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อน: การกระทำโดยมีโกรธเคืองเป็นแรงจูงใจ และใช้ตำแหน่งหน้าที่อำนวยความสะดวก
จำเลยโกรธผู้ตายที่กล่าวหาว่าจำเลยลักกระบือไปฆ่า จึงหาเหตุไปจับผู้ตายโดยอาศัยการที่จำเลยเป็นอาสาสมัครรักษาดินแดน เมื่อจำเลยจับผู้ตายได้แล้ว ก็พาผู้ตายไปฆ่าทิ้งเสียที่กลางป่า การกระทำของจำเลยจึงถือได้ว่าเป็นการกระทำที่ไตร่ตรองไว้ก่อน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 849/2512 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฆ่าผู้อื่นโดยมีเหตุโกรธเคืองและขัดขืน แต่ไม่มีเจตนาไตร่ตรองไว้ก่อน
จำเลยที่ 1 เป็นผู้ใหญ่บ้านเคยมีสาเหตุกับผู้ตาย จำเลยที่ 1 หาพรรคพวกไปแกล้งจับผู้ตาย หาว่ากระทำความผิดอาญา โดยที่ผู้ตายเองก็เป็นผู้ที่ถูกกล่าวหาว่าร่วมกับพวกหลอกลวงเอาเงินจากพ่อค้าและราษฎรไปอยู่เหมือนกัน จำเลยที่ 1 กับพวกเอาโซ่มัดผู้ตาย เอาผู้ตายไปล่ามโซ่ไว้ใต้ถุนบ้าน แล้วจำเลยที่ 1-2-3-4 กับพวกเอาตัวผู้ตายออกจากบ้านไป บอกว่าจะเอาตัวไปส่งจังหวัดในคืนวันเกิดเหตุ ผู้ตายพยายามขัดขืนไม่ยอมไป จำเลยกับพวกเอาโซ่ลากคอผู้ตายไป แล้วร่วมกันฆ่าผู้ตายในระหว่างทางเห็นได้ว่าเมื่อตอนที่จำเลยกับพวกนำตัวผู้ตายออกจากบ้านไปนั้น จำเลยกับพวกอาจจะยังไม่มีเจตนาจะฆ่าผู้ตาย แต่การที่กลับมาเปลี่ยนใจฆ่าผู้ตายน่าจะเป็นเพราะผู้ตายพยายามขัดขืนไม่ยอมไปก็ได้ พฤติการณ์ยังไม่พอฟังว่าเป็นการฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 327/2511 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อน: พฤติการณ์โกรธเคือง, เตรียมอาวุธ, และวางแผน
จำเลยโกรธผู้ตายซึ่งเป็นแม่ยายของจำเลยเพราะเคยหาว่าจำเลยลักเงิน และเคยให้จำเลยกับภริยาแยกจากบ้านไปอยู่ที่อื่นคืนเกิดเหตุตอนหัวค่ำ จำเลยเอามีดไปซ่อนไว้ครั้นตอนดึกจำเลยกลับมาได้ใช้มีดที่ซ่อนไว้ไปฟันผู้ตายขณะนอนหลับทั้งจำเลยเคยให้การในชั้นสอบสวนว่าจำเลยได้หาโอกาสจะฆ่าผู้ตายมาก่อน และจำเลยเคยจ้างผู้มีชื่อฆ่าผู้ตายด้วย เช่นนี้ เป็นการฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1401/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สมคบคิดฆ่าผู้อื่น: พฤติการณ์ร่วมกระทำความผิดและมีสาเหตุโกรธเคือง
จำเลยได้ไปกับพวกอีกคนหนึ่ง แล้วพวกของจำเลยใช้ปืนยิงผู้ตาย จำเลยกับพวกก็พากันวิ่งหนีไปด้วยกัน จำเลยเป็นคนมีสาเหตุกับผู้ตายมาก่อน ก่อนเกิดเหตุพวกจำเลยคนนั้นก็นั่งคุยอยู่ที่เรือนจำเลย จำเลยย่อมมีความผิดฐานสมคบกับพวกฆ่าคนโดยเจตนา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2000/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาฆ่าจากการทำร้ายด้วยอาวุธมีด กรณีมีสาเหตุโกรธเคืองและความรุนแรงในการกระทำ
จำเลยกับผู้ตายเคยโกรธเคืองกันมาก่อน เมื่อจำเลยใช้มีดปลายแหลมยาวประมาณ 1 คืบแทงผู้ตายที่ท้องเสยมีดขึ้นทำให้เป็นแผลยาว 9 ซ.ม.กว้าง 4 ซ.ม. จนลำไส้หลัก ดังนี้แสดงว่าจำเลยมีเจตนาฆ่า
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1836/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาฆ่าจากเหตุโกรธเคือง: การใช้ปืนยิงประชิดตัวบ่งชี้เจตนา
ใช้ปืนยิงจากรั้วบ้านไปถูกผู้เสียหาย ซึ่งอยู่ในบริเวณรั้วบ้านที่ใต้ตาตุ่ม กระสุนตุงหลังเท้า โดยมีสาเหตุโกรธเคืองกันมาก่อน ถือว่ามีเจตนาจะฆ่าผู้เสียหายให้ถึงแก่ความตาย.