พบผลลัพธ์ทั้งหมด 4 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7561/2543
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความประมาทเลินเล่อของผู้ให้บริการโทรคมนาคมในการตรวจสอบเอกสารผู้ใช้บริการ ทำให้โจทก์เสียหาย
จำเลยได้รับอนุญาตจากโจทก์ให้เป็นผู้ดำเนินการจัดให้มีการขยายเครือข่ายการให้บริการและดำเนินการให้บริการวิทยุคมนาคมระบบเซลลูล่าเป็นการให้สัมปทานไปตามข้อสัญญาซึ่งกำหนดว่าผู้ขอเช่าใช้บริการจะต้องมาทำสัญญาเช่าใช้บริการกับจำเลย จำเลยจะให้ผู้เช่าใช้บริการทำสัญญาตามแบบพิมพ์ที่โจทก์กำหนดและจะต้องส่งสัญญาพร้อมสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนและสำเนาทะเบียนบ้านซึ่งเป็นบัญชีรายชื่อของผู้ขอใช้บริการทั้งหลายเสนอต่อโจทก์ จำเลยมีหน้าที่เรียกเก็บเงินค่าเช่าใช้บริการจากผู้ขอเอง ส่วนกรณีการให้บริการโทรศัพท์ระหว่างประเทศเป็นบริการสาธารณะของโจทก์เองตามนโยบายของรัฐบาล โจทก์เป็นผู้เรียกเก็บเงินค่าเช่าใช้บริการเอง แต่ผู้ขอเช่าใช้บริการระหว่างประเทศจะต้องมาทำสัญญากับจำเลยผ่านเครือข่ายวิทยุคมนาคมระบบเซลลูล่าของจำเลย ซึ่งจำเลยจะจัดส่งสัญญาพร้อมหลักฐานของผู้ขอใช้บริการในลักษณะเช่นเดียวกันกับผู้ขอใช้บริการโทรศัพท์ภายในประเทศ ในการที่โจทก์จะเป็นผู้เรียกเก็บค่าเช่าใช้บริการเอง เพื่อความรอบคอบจำเลยควรที่จะตรวจสอบความถูกต้องก่อนที่จำเลยจะขอให้โจทก์เปิดใช้บริการทางไกลระหว่างประเทศ ทั้งนี้จะต้องตรวจสอบสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนและสำเนาทะเบียนบ้านของผู้ขอที่นำมาประกอบสัญญาเป็นสำคัญ จำเลยจะต้องใช้ความละเอียดรอบคอบตรวจสอบหลักฐานได้โดยไม่ยากนัก จะอ้างแต่เพียงว่าได้กรอกข้อความตามที่ผู้ขอเช่าใช้บริการแจ้งมาและมีเอกสารต่าง ๆ ครบถ้วน โดยไม่จำต้องตรวจสอบความถูกต้องแท้จริงของเอกสารหาได้ไม่ เพราะจำเลยจะต้องเป็นผู้ตรวจสอบคนสุดท้ายก่อนที่จะเสนอโจทก์พิจารณาอนุมัติ ในเมื่อจำเลยเห็นโดยชัดแจ้งอยู่แล้วว่าภาพถ่ายบัตรประจำตัวประชาชนของผู้ขอรายนี้เลอะเลือนไม่ชัดเจนและไม่มีลายมือชื่อผู้ถือบัตร จำเลยย่อมสามารถระงับหรือขอให้แก้ไขให้ถูกต้องได้ แต่กลับไม่กระทำ จึงเป็นเหตุให้โจทก์พิจารณาอนุมัติให้ผู้ขอใช้บริการทางไกลระหว่างประเทศ และในที่สุดไม่สามารถเรียกเก็บค่าใช้บริการรายนี้ได้ ถือว่าความเสียหายที่เกิดขึ้นเพราะความประมาทเลินเล่อของจำเลย จำเลยจึงต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5646/2533
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความค่าบริการโทรศัพท์: สิทธิเรียกร้องของผู้ให้บริการโทรคมนาคมมีอายุความ 2 ปีตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 165(7)
จำเลยให้การว่า ฟ้องโจทก์ขาดอายุความ เนื่องจากสิทธิเรียกร้องให้จำเลยชำระหนี้ค่าใช้บริการโทรศัพท์ตามฟ้องเริ่มวันที่ 1 เมษายน2526 โจทก์ฟ้องเกินกำหนดไม่อาจบังคับจำเลยได้ คำให้การดังกล่าวได้แสดงเหตุแห่งการขาดอายุความแล้ว ผู้ใช้บริการวิทยุโทรศัพท์ระหว่างประเทศของโจทก์ โดยเครื่องโทรศัพท์ที่เช่าจากองค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทยผ่านเครื่องวิทยุโทรศัพท์ของโจทก์ จะต้องเสียค่าบริการตามอัตราที่โจทก์กำหนดไว้ ค่าบริการดังกล่าวก็คือสินจ้างนั่นเอง ถือได้ว่าโจทก์เป็นผู้ค้าในการรับทำการงานต่าง ๆ เมื่อโจทก์เรียกเอาสินจ้างอันพึงจะได้รับในการนั้นจากจำเลย สิทธิเรียกร้องดังกล่าวจึงมีอายุความ 2 ปี ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 165(7).
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 649/2532
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความสิทธิเรียกร้องค่าบริการโทรคมนาคม: โจทก์เป็นผู้ค้าเรียกค่าสินจ้าง อายุความ 2 ปี
โจทก์เป็นนิติบุคคลมีอำนาจหน้าที่เกี่ยวกับการให้บริการและการปฏิบัติการด้านไปรษณีย์และโทรคมนาคมเพื่อความสะดวกแก่ประชาชน แม้โจทก์จะเป็นรัฐวิสาหกิจแต่ผู้ใช้บริการพูดวิทยุโทรศัพท์ระหว่างประเทศของโจทก์โดยเครื่องโทรศัพท์ที่เช่าจากองค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทยผ่านเครื่องวิทยุโทรศัพท์ของโจทก์จะต้องเสียค่าบริการตามอัตราที่โจทก์กำหนดไว้ค่าบริการดังกล่าวก็คือสินจ้าง ดังนี้ ถือได้ว่าโจทก์เป็นผู้ค้าในการรับทำการงานต่างๆ เมื่อโจทก์เรียกเอาสินจ้างอันพึงจะได้รับในการนั้นสิทธิเรียกร้องดังกล่าวจึงมีอายุความ 2 ปี ตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 165(7).(ที่มา-ส่งเสริม)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3316/2557
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การประกอบกิจการโทรคมนาคมโดยไม่ได้รับอนุญาต แม้ กทช. ยังไม่ได้รับการแต่งตั้ง ถือเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.การประกอบกิจการโทรคมนาคม
โครงข่ายโทรคมนาคมตามบทนิยามในมาตรา 4 แห่ง พ.ร.บ.การประกอบกิจการโทรคมนาคม พ.ศ.2544 มีความหมายว่า "กลุ่มของเครื่องโทรคมนาคมที่ต่อถึงกันโดยตรง หรือโดยผ่านเครื่องชุมสายหรือเครื่องอื่นใด เพื่อการโทรคมนาคมระหว่างจุดหมายปลายทางที่กำหนดด้วยระบบสาย ระบบคลื่นความถี่ ระบบแสง ระบบแม่เหล็กไฟฟ้าอื่น ระบบใดระบบหนึ่งหรือหลายระบบรวมกัน" กิจการโทรคมนาคมตามบทนิยามในมาตรา 3 แห่ง พ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ.2543 ซึ่งใช้บังคับอยู่ในขณะเกิดเหตุมีความหมายว่า "กิจการซึ่งให้บริการส่ง การแพร่หรือการรับเครื่องหมาย สัญญาณ ตัวหนังสือ ตัวเลข ภาพ เสียง รหัส หรือการอื่นใด ซึ่งสามารถให้เข้าใจความหมายได้โดยระบบสาย ระบบคลื่นความถี่ ระบบแสง ระบบแม่เหล็กไฟฟ้าอื่น หรือระบบอื่น ระบบใดระบบหนึ่ง หรือหลายระบบรวมกัน หรือกิจการโทรคมนาคมตามที่มีกฎหมายบัญญัติหรือตามที่คณะกรรมการร่วมกำหนดให้เป็นกิจการโทรคมนาคม" การประกอบกิจการของจำเลยที่ 1 คือ การให้บริการส่งตัวหนังสือ ตัวเลข หรือภาพ ทางโทรสารไปยังผู้รับในต่างประเทศ โดยจำเลยที่ 1 นำเครื่องมือ Auto Dialer ไปติดตั้งเชื่อมต่อกับสายโทรศัพท์และโทรสารของลูกค้าที่สมัครเป็นสมาชิก เมื่อสมาชิกใช้บริการจะต้องกดหมายเลขโทรศัพท์ 001 ซึ่งเป็นหมายเลขรหัสโทรศัพท์ทางไกลระหว่างประเทศของการสื่อสารแห่งประเทศไทย หรือบริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) ตามด้วยหมายเลขโทรศัพท์ของผู้รับในต่างประเทศ เครื่องมือ Auto Dialer จะส่งสัญญาณไปยังเครื่องมือ Server ของจำเลยที่ 1 เพื่อแปลงสัญญาณเป็นจดหมายอิเล็กทรอนิกส์แล้วส่งผ่านระบบอินเตอร์เน็ตไปยังเครื่องโทรศัพท์และโทรสารของผู้รับในต่างประเทศ ถือว่าเป็นการประกอบกิจการโทรคมนาคมตามความหมายในมาตรา 3 แห่ง พ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ.2543 เครื่องมือ Auto Dialer และเครื่องมือ Server ของจำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นกลุ่มของเครื่องโทรคมนาคมที่ต่อถึงกันโดยผ่านเครื่องชุมสายโทรศัพท์ เพื่อแปลงสัญญาณโทรสารเป็นจดหมายอิเล็กทรอนิกส์แล้วส่งผ่านระบบอินเตอร์เน็ตไปยังเครื่องโทรศัพท์และโทรสารของผู้รับในต่างประเทศก็ถือได้ว่าเป็นโครงข่ายโทรคมนาคมตามความหมายในมาตรา 4 แห่ง พ.ร.บ.การประกอบกิจการโทรคมนาคม พ.ศ.2544 พฤติการณ์ที่จำเลยที่ 1 ประกอบกิจการให้บริการส่งโทรสารไปยังผู้รับในต่างประเทศโดยลูกค้าผู้ใช้บริการจะต้องสมัครเป็นสมาชิกซึ่งจำเลยที่ 1 เปิดโอกาสให้บุคคลทั่วไปสามารถสมัครเป็นสมาชิกได้และมีลูกค้าเป็นสมาชิกถึงประมาณ 500 ราย ผลการประกอบกิจการนับแต่ปี 2546 จนถึงวันที่ 15 มีนาคม 2548 ปรากฏว่ามีรายได้มากถึงประมาณ 11,000,000 บาท บ่งชี้ว่าจำเลยที่ 1 มีวัตถุประสงค์ในการให้บริการแก่บุคคลทั่วไปจำนวนมากโดยไม่จำกัดจำนวนลูกค้าที่ต้องการสมัครเป็นสมาชิก จึงเป็นการประกอบกิจการโทรคมนาคมที่มีโครงข่ายเป็นของตนเองและต้องได้รับอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคมแบบที่สามตามมาตรา 7 (3) แห่ง พ.ร.บ.การประกอบกิจการโทรคมนาคม พ.ศ.2544
มาตรา 79 แห่ง พ.ร.บ.การประกอบกิจการโทรคมนาคม พ.ศ.2544 กำหนดให้สิทธิแก่การสื่อสาร แห่งประเทศไทยและองค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทยในการที่จะประกอบกิจการโทรคมนาคมต่อไปในระหว่างเวลาที่ กทช. ยังไม่ออกใบอนุญาตให้ จำเลยที่ 1 ซึ่งไม่ได้รับสิทธิตามบทกฎหมายมาตราดังกล่าวเช่นเดียวกับหน่วยงานทั้งสองย่อมจะต้องหยุดประกอบกิจการโทรคมนาคมไว้ก่อน จนกว่าจะมีการแต่งตั้ง กทช. และจำเลยที่ 1 ได้รับใบอนุญาตจาก กทช. แล้ว พฤติการณ์ที่จำเลยที่ 1 ยังประกอบกิจการโทรคมนาคมต่อไปนับแต่วันที่ พ.ร.บ.การประกอบกิจการโทรคมนาคม พ.ศ.2544 ใช้บังคับโดยไม่ได้รับใบอนุญาตจาก กทช. บ่งชี้ว่าจำเลยที่ 1 มีเจตนาฝ่าฝืนบทบัญญัติแห่งกฎหมายดังกล่าว การกระทำของจำเลยที่ 1 จึงเป็นความผิดตามฟ้อง จำเลยที่ 2 ในฐานะกรรมการของจำเลยที่ 1 ย่อมจะต้องระวางโทษเช่นเดียวกับจำเลยที่ 1 ด้วย
มาตรา 79 แห่ง พ.ร.บ.การประกอบกิจการโทรคมนาคม พ.ศ.2544 กำหนดให้สิทธิแก่การสื่อสาร แห่งประเทศไทยและองค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทยในการที่จะประกอบกิจการโทรคมนาคมต่อไปในระหว่างเวลาที่ กทช. ยังไม่ออกใบอนุญาตให้ จำเลยที่ 1 ซึ่งไม่ได้รับสิทธิตามบทกฎหมายมาตราดังกล่าวเช่นเดียวกับหน่วยงานทั้งสองย่อมจะต้องหยุดประกอบกิจการโทรคมนาคมไว้ก่อน จนกว่าจะมีการแต่งตั้ง กทช. และจำเลยที่ 1 ได้รับใบอนุญาตจาก กทช. แล้ว พฤติการณ์ที่จำเลยที่ 1 ยังประกอบกิจการโทรคมนาคมต่อไปนับแต่วันที่ พ.ร.บ.การประกอบกิจการโทรคมนาคม พ.ศ.2544 ใช้บังคับโดยไม่ได้รับใบอนุญาตจาก กทช. บ่งชี้ว่าจำเลยที่ 1 มีเจตนาฝ่าฝืนบทบัญญัติแห่งกฎหมายดังกล่าว การกระทำของจำเลยที่ 1 จึงเป็นความผิดตามฟ้อง จำเลยที่ 2 ในฐานะกรรมการของจำเลยที่ 1 ย่อมจะต้องระวางโทษเช่นเดียวกับจำเลยที่ 1 ด้วย