พบผลลัพธ์ทั้งหมด 8 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7726/2547
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลดโทษจำเลยในคดียาเสพติด: ข้อมูลเบาะแสไม่เพียงพอต่อการลดโทษขั้นต่ำ และการใช้ดุลพินิจลดโทษที่เหมาะสม
จำเลยให้การในชั้นสอบสวนว่าได้รับจ้างขนยาเสพติดให้โทษของกลางจาก จ. จากประเทศสหภาพพม่าเพื่อนำไปส่งที่จังหวัดจันทบุรี และจำเลยให้หมายเลขโทรศัพท์ของ จ. กับนำพนักงานสอบสวนไปชี้บ้านของ จ. ที่อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย โดยจำเลยได้บอกตำหนิรูปพรรณของ จ. แก่พนักงานสอบสวนด้วยก็ตาม แต่ก็ไม่ปรากฏว่า จ. ที่จำเลยอ้างนั้นจะมีตัวตนจริงหรือไม่ และเจ้าพนักงานตำรวจได้มีการขยายผลจับกุม จ. ได้หรือไม่อย่างใด อันจะเป็นการสนับสนุนข้ออ้างของจำเลยให้เป็นความจริง ข้อเท็จจริงจึงรับฟังไม่ได้ว่าคำให้การของจำเลยดังกล่าวเป็นการให้ข้อมูลที่สำคัญ และเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดให้โทษต่อเจ้าพนักงานตำรวจหรือพนักงานสอบสวน ย่อมไม่อาจลงโทษจำเลยน้อยกว่าอัตราโทษขั้นต่ำที่กำหนดไว้สำหรับความผิดนั้นตาม พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษฯ มาตรา 100/2 ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3994/2547
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลงโทษคดียาเสพติด: ข้อมูลจากผู้ต้องหาไม่เพียงพอต่อการลดโทษขั้นต่ำ
จำเลยให้การในชั้นจับกุมและชั้นสอบสวนว่าได้รับจ้างขนยาเสพติดให้โทษของกลางจาก ห. โดยไม่ปรากฏว่า ห. มีตัวตนจริงหรือไม่ และได้มีการขยายผลจับกุม ห. ได้หรือไม่อย่างใด ข้อเท็จจริงจึงรับฟังไม่ได้ว่าคำให้การของจำเลยดังกล่าวเป็นการให้ข้อมูลที่สำคัญและเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดให้โทษต่อเจ้าพนักงานตำรวจหรือพนักงานสอบสวน ย่อมไม่อาจลงโทษจำเลยน้อยกว่าอัตราโทษขั้นต่ำที่กำหนดไว้สำหรับความผิดฐานมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายตาม พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษฯ มาตรา 100/2
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1051/2535
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลงโทษคดีครอบครองกัญชาเพื่อจำหน่าย ศาลฎีกายืนตามโทษขั้นต่ำที่ศาลอุทธรณ์ตัดสิน
จำเลยมีกัญชาไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายเป็นความผิดตาม พ.ร.บ. ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 76 วรรคสอง ซึ่งมีระวางโทษให้จำคุกตั้งแต่สองปีถึงสิบห้าปี และปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงหนึ่งแสนห้าหมื่นบาทการที่ศาลอุทธรณ์วางโทษจำคุกจำเลยเพียง 2 ปี เป็นการลงโทษขั้นต่ำตามบทกฎหมายดังกล่าวแล้วจึงลงโทษต่ำกว่านี้ไม่ได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1019-1021/2506
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การใช้กฎหมายอาญาที่เป็นคุณแก่จำเลย: เลือกใช้บทลงโทษที่เบากว่า แม้กฎหมายเดิมมีโทษขั้นต่ำ
จำเลยปลอมหนังสือในหน้าที่ตน มีความผิดตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 229 มีอัตราโทษอย่างต่ำให้จำคุกตั้งแต่ 5 ปีขึ้นไป ซึ่งเป็นกฎหมายที่ใช้ขณะกระทำผิด แต่เมื่อประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 3 ให้ใช้กฎหมายในส่วนที่เป็นคุณแก่ผู้กระทำผิด จึงต้องใช้มาตรา 161 แห่งประมวลกฎหมายอาญาเป็นบทลงโทษ และในบทความผิดที่จะใช้แก่จำเลยนี้ ไม่มีอัตราโทษจำคุกอย่างต่ำไว้ เมื่อจำเลยให้การรับสารภาพ ศาลก็ลงโทษจำเลยได้โดยไม่ต้องฟังพยานโจทก์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 906/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรวมโทษกระทงความผิด – ศาลมีอำนาจไม่เรียงกระทงและไม่ต้องลงโทษขั้นต่ำทุกกระทง
กฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 71 บัญญัติว่า ในคำพิพากษาอันเดียวกันศาลจะลงโทษทุกกระทงก็ได้ ดังนี้ ย่อมเป็นที่เข้าใจได้ว่าศาลจะไม่เรียงกระทงลงโทษก็ได้ และเมื่อไม่เรียงกระทงลงโทษแล้ว ก็ไม่จำต้องลงโทษไม่น้อยกว่าอัตราขั้นต่ำของทุกกระทงความผิด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1212-1213/2479
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกำหนดโทษขั้นต่ำตามกฎหมาย และการพิจารณาความผิดฐานปลอมแปลงเอกสารทางราชการ
ในกรณีที่กฎหมายกำหนดโทษอย่างต่ำในความผิดอย่างหนึ่งไว้ ศาลจะลงโทษจำเลยในความผิดอย่างนั้นต่ำกว่าอัตราที่กำหนดไว้นั้นไม่ได้
ในคดีที่ศาลชั้นต้นลงโทษจำคุกจำเลย 7 ปี ศาลอุทธรณ์แก้เป็น 4 ปี ในบทและมาตราเดียวกันเช่นนี้ จำเลยจะฎีกาในข้อเท็จจริงมิได้
ในคดีที่ศาลชั้นต้นลงโทษจำคุกจำเลย 7 ปี ศาลอุทธรณ์แก้เป็น 4 ปี ในบทและมาตราเดียวกันเช่นนี้ จำเลยจะฎีกาในข้อเท็จจริงมิได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 191/2473
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจศาลในการกำหนดโทษปรับเทียบเท่าโทษจำคุก เมื่อกฎหมายไม่ได้กำหนดโทษขั้นต่ำ
จำแทนค่าปรับอยู่ในดุลพินิจของศาลเพราะกฎหมายไม่บัญญัติเกณฑ์โทษคั่นต่ำปัญหากฎหมาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 8332/2554
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลงโทษคดีป่าสงวน: ศาลฎีกายืนตามศาลล่าง แม้ลดโทษแล้ว เพราะเป็นโทษขั้นต่ำตามกฎหมาย และไม่เข้าหลักเกณฑ์เปลี่ยนเป็นกักขัง
ความผิดตาม พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2507 มาตรา 31 วรรคสอง (3) มีระวางโทษจำคุกตั้งแต่สองปีถึงสิบห้าปี การที่ศาลอุทธรณ์ภาค 8 พิพากษาลงโทษจำคุกจำเลยเพียง 2 ปี เป็นการลงโทษในระวางโทษจำคุกขั้นต่ำตามที่กฎหมายบัญญัติไว้ ทั้งยังลดโทษให้จำเลยอีกกึ่งหนึ่งซึ่งเป็นอัตราสูงสุดที่กฎหมายบัญญัติไว้แล้ว ศาลฎีกาจึงไม่อาจลงโทษให้เบากว่านี้ได้อีก ส่วนที่จำเลยขอให้เปลี่ยนโทษจำคุกเป็นกักขังแทนตาม ป.อ. มาตรา 23 นั้น เมื่อศาลอุทธรณ์ภาค 8 ลดโทษให้จำเลยแล้วคงจำคุก 1 ปี ซึ่งเป็นการลงโทษจำคุกเกิน 3 เดือน จึงไม่เข้าหลักเกณฑ์ที่จะเปลี่ยนโทษจำคุกเป็นกักขังแทนโทษจำคุกให้จำเลยได้