คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
โทษสถานเบา

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 6 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 678/2545

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การระงับคดีอาญาจากคำถอนคำร้องทุกข์และการพิจารณาโทษสถานเบาสำหรับความผิดต่อเด็ก
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยทั้งสองในข้อหาความผิดฐานพาหญิงไปเพื่อการอนาจาร ตาม ป.อ. มาตรา 284 และข้อหาความผิดฐานกระทำอนาจารแก่เด็กอายุยังไม่เกิน 15 ปี ตาม ป.อ. มาตรา 279 ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าการกระทำของจำเลยทั้งสองเป็นความผิดกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท ลงโทษบทหนักตาม ป.อ. มาตรา 279 เมื่อต่อมามารดาผู้เสียหายได้ถอนคำร้องทุกข์แทนผู้เสียหายซึ่งเป็นผู้เยาว์แล้ว สิทธินำคดีอาญามาฟ้องสำหรับข้อหาความผิดฐานพาหญิงไปเพื่อการอนาจาร อันเป็นความผิดอันยอมความได้ย่อมระงับไปตาม ป.วิ.อ. มาตรา 39 (2) ชอบที่ศาลอุทธรณ์ภาค 8 จะพิพากษาให้จำหน่ายคดีเฉพาะข้อหาความผิดฐานนี้ออกจากสารบบความเท่านั้น ส่วนข้อหาความผิดฐานกระทำอนาจารแก่เด็กอายุยังไม่เกิน 15 ปี ไม่ใช่ความผิดอันยอมความได้ การถอนคำร้องทุกข์ไม่เป็นผลให้สิทธินำคดีอาญามาฟ้องในความผิดฐานนี้ระงับไปด้วยแต่อย่างใด เมื่อศาลชั้นต้นได้กำหนดโทษจำเลยตามข้อหาความผิดฐานนี้มาแล้ว ศาลอุทธรณ์ภาค 8 จึงต้องพิจารณาและพิพากษาว่าสมควรลงโทษสถานเบาและรอการลงโทษแก่จำเลยตามอุทธรณ์ของจำเลยทั้งสองหรือไม่ การที่ศาลอุทธรณ์ภาค 8 พิพากษาให้จำหน่ายคดีในข้อหาความผิดฐานนี้จากสารบบความด้วย จึงไม่ชอบ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4084/2543

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ รอการลงโทษจำคุกสำหรับผู้พิการทำปืนเถื่อนเพื่อเลี้ยงชีพ พิจารณาโทษสถานเบาและฟื้นฟูผู้กระทำผิด
แม้อาวุธปืนที่จำเลยทำ ประกอบ และซ่อมแซมจะมีหลายกระบอกแต่ก็เป็นเพียงอาวุธปืนยาวประจุปาก (ปืนแก๊ป) อาวุธปืนยาวอัดลมซึ่งมีอานุภาพไม่ร้ายแรง จำเลยร่างกายพิการเนื่องจากเป็นโรคเรื้อนอยู่ระหว่างรักษาตัว ได้ใช้ความรู้ความสามารถเฉพาะตัวรับทำเครื่องมือเครื่องใช้ ในการเกษตรกรรม เพื่อมิให้เป็นภาระแก่สังคม ชาวบ้านเห็นว่าเป็นคนมีฝีมือ จึงไหว้วานให้ช่วยซ่อมแซมอาวุธปืนของกลางซึ่งมีไว้ยิงหนู ยิงกบหรือยิงสัตว์เล็กๆ ที่มากัดกินต้นข้าวเป็นการหารายได้จุนเจือครอบครัว พฤติการณ์แห่งคดีไม่ร้ายแรงนัก ประกอบกับไม่ปรากฏว่า จำเลยเคยได้รับโทษจำคุกมาก่อน ยังอยู่ในวิสัยที่พนักงานคุมประพฤติ จะแก้ไขฟื้นฟูให้จำเลยกลับตัวเป็นพลเมืองดีได้ การลงโทษจำคุก จำเลยระยะสั้นนอกจากจะไม่เกิดผลในการฟื้นฟูแก้ไขความประพฤติ ของจำเลยแล้ว ยังทำให้จำเลยมีประวัติเสื่อมเสีย เมื่อพ้นโทษแล้ว ก็ยากที่จะกลับตัวเป็นพลเมืองดีประกอบสัมมาชีพเลี้ยงตนเองและ ครอบครัวโดยสุจริตต่อไปได้ การรอการลงโทษจำคุกจำเลยและคุม ความประพฤติจำเลยไว้น่าจะเป็นผลดีแก่จำเลยและสังคมโดยส่วนรวมมากกว่า

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1234/2542

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลงโทษคดียาเสพติดควรควบคู่การแก้ไขพฤติกรรมของผู้ติดยา การรอการลงโทษเหมาะสมกับโทษสถานเบา
โดยปกติความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดจะต้องประกอบด้วยการลงโทษและแก้ไขพฤติกรรมของผู้กระทำความผิดหรือจำเลยไปพร้อมกันจึงจะเกิดการสัมฤทธิผลตามหลักอาชญาวิทยาและทัณฑกรรม เนื่องจากผู้กระทำความผิดประเภทนี้ส่วนมากจะเป็นผู้ติดยาเสพติดและได้กระทำผิดเพราะติดยาหรือเสี้ยนยาซึ่งไม่เหมือนอาชญากรทั่ว ๆ ไป ฉะนั้นการตั้งสมมติฐานของโจทก์ไว้ว่าจะต้องลงโทษจำคุกจำเลยสถานเดียวแม้เป็นการกระทำความผิดในครั้งแรก อีกทั้งของกลางก็มีไม่มากจนเกินไปนั้นน่าจะไม่ต้องด้วยความประสงค์ของหลักการดังกล่าวการวางโทษจำคุกแต่รอการลงโทษไว้ ลงโทษปรับและคุมความประพฤติ จำเลยโดยให้ไปรายงานตัวต่อพนักงานคุมประพฤติในระยะเวลาสั้น ๆ เดือนละ 1 ครั้ง เพื่อการแก้ไขอีกทางหนึ่งจึงนับว่าเหมาะสมแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 591/2536 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การปรับบทลงโทษอาญาและการพิจารณาโทษสถานเบา กรณีจำเลยให้การรับสารภาพ
ความผิดตาม ป.อ. มาตรา 317 วรรคสาม มีอัตราโทษอย่างต่ำจำคุกตั้งแต่ 5 ปีขึ้นไป หากจำเลยให้การรับสารภาพก็เป็นหน้าที่ของโจทก์ที่จะต้องนำสืบพยานหลักฐานประกอบคำรับสารภาพของจำเลยและศาลจะต้องฟังพยานหลักฐานโจทก์จนกว่าจะพอใจว่า จำเลยได้กระทำผิดจริง ตาม ป.วิ.อ. มาตรา 176 เมื่อโจทก์แถลงไม่ติดใจสืบพยานโจทก์จึงไม่มีพยานหลักฐานที่จะให้ศาลฟังลงโทษจำเลยในบทมาตราดังกล่าวได้ แต่เมื่อความผิดในมาตราดังกล่าวในวรรคแรกมีอัตราโทษจำคุกอย่างต่ำตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไป ศาลลงโทษจำเลยในบทมาตราดังกล่าวได้เฉพาะในวรรคแรกเท่านั้น เมื่อศาลอุทธรณ์วางโทษจำเลยไม่ถูกต้อง ศาลฎีกาชอบที่จะยกขึ้นวินิจฉัยและแก้ไขเสียให้ถูกต้องได้ เนื่องจากเป็นปัญหาเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อย.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1961/2529

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดฐานพรากผู้เยาว์เพื่อการอนาจารและการพิจารณาโทษสถานเบาจากความสัมพันธ์ฉันสามีภรรยา
จำเลยชวนผู้เสียหายอายุ 17 ปี ไปรับประทานอาหารแล้วพาไปร่วมประเวณี โดยบิดามารดาของผู้เสียหายไม่ทราบว่าผู้เสียหายไปไหน ดังนี้ จำเลยมีความผิดฐานพรากผู้เยาว์ไปเพื่อการอนาจารตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 319 แต่จำเลยกับ ผู้เสียหายอยู่กินด้วยกันฉันสามีภรรยาจนผู้เสียหายตั้งครรภ์แล้ว ศาลฎีการอการลงโทษจำคุกให้จำเลย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3577/2551

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การปรับบทลงโทษความผิดฐานกระทำอนาจารเด็กและการพิจารณาโทษสถานเบา
โจทก์บรรยายฟ้องระบุไว้อย่างชัดเจนว่า ขณะเกิดเหตุ จำเลยกระทำอนาจารแก่ผู้เสียหายซึ่งเป็นเด็กอายุยังไม่เกิน 15 ปี โดยจำเลยเอาอวัยวะเพศของจำเลยถูไถบริเวณอวัยะเพศของผู้เสียหาย และใช้มือลูบคลำอวัยะเพศของผู้เสียหายหลายครั้งอันเป็นการกระทำอนาจารโดยผู้เสียหายอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ เมื่อจำเลยให้การรับสารภาพตามฟ้องจึงต้องรับฟังเป็นยุติว่า จำเลยกระทำอนาจารแก่ผู้เสียหายซึ่งเป็นเด็กอายุยังไม่เกิน 15 ปี โดยผู้เสียหายอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดตาม ป.อ. มาตรา 279 วรรคสอง