คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
โอกาสชำระ

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 7 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 554/2544

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขยายระยะเวลาอุทธรณ์และวางค่าธรรมเนียม ศาลควรให้โอกาสชำระค่าธรรมเนียมก่อนสั่งไม่รับอุทธรณ์
โจทก์ยื่นคำร้องขอขยายระยะเวลาอุทธรณ์ ศาลชั้นต้นอนุญาตให้ขยายระยะเวลาอุทธรณ์ไปถึงวันที่ 13 พฤศจิกายน2541 ต่อมาวันที่ 10 พฤศจิกายน 2541 โจทก์ได้ยื่นอุทธรณ์และยื่นคำร้องขอขยายระยะเวลาวางเงินค่าธรรมเนียมศาลชั้นอุทธรณ์ และเงินค่าธรรมเนียมซึ่งจะต้องใช้แก่จำเลยทั้งสามตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นออกไปอีก 15 วัน แต่ศาลชั้นต้นสั่งยกคำร้องและสั่งไม่รับอุทธรณ์ไปพร้อมกันในวันที่ 12 พฤศจิกายน 2541 ซึ่งยังอยู่ในระยะเวลาอุทธรณ์ตามที่ศาลชั้นต้นขยายระยะเวลาอุทธรณ์ให้ ดังนี้ แม้ศาลชั้นต้นจะเห็นควรยกคำร้องขอขยายระยะเวลาการวางเงินค่าธรรมเนียมของโจทก์ แต่เมื่อยังไม่พ้นกำหนดระยะเวลาอุทธรณ์ ศาลชั้นต้นควรให้โอกาสแก่โจทก์ทั้งสองชำระหรือวางเงินดังกล่าวให้ถูกต้องครบถ้วนภายในระยะเวลาอุทธรณ์ก่อน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6260/2541 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขยายเวลาชำระค่าธรรมเนียมศาลเพื่ออุทธรณ์: ศาลควรให้โอกาสจำเลยชำระค่าธรรมเนียมภายในกำหนดเวลาอุทธรณ์เพื่อความเป็นธรรม
แม้ ป.วิ.พ.มาตรา 149 และมาตรา 229 บัญญัติให้จำเลยผู้อุทธรณ์ต้องนำค่าธรรมเนียมศาลที่จะต้องเสียในการอุทธรณ์ และค่าธรรมเนียมที่จะต้องชำระให้แก่อีกฝ่ายหนึ่ง รวมทั้งค่าทนายความที่ศาลสั่ง มาวางศาลพร้อมอุทธรณ์ก็ตาม แต่หากมีพฤติการณ์พิเศษจำเลยทั้งสองย่อมยื่นคำร้องขอต่อศาลให้ขยายระยะเวลาดังกล่าวออกไปได้ ตาม ป.วิ.พ.มาตรา 23
วันที่จำเลยยื่นอุทธรณ์คำพิพากษาของศาลชั้นต้น พร้อมกับยื่นคำร้องขอขยายระยะเวลาวางเงินค่าฤชาธรรมเนียมและค่าขึ้นศาล และวันที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่อนุญาตให้ขยายระยะเวลาวางเงินค่าฤชาธรรมเนียมและค่าขึ้นศาล และสั่งไม่รับอุทธรณ์ของจำเลย พร้อมกันไปในวันเดียวกัน ล้วนยังอยู่ในระยะเวลาอุทธรณ์ และยังไม่ครบกำหนดอุทธรณ์ในวันที่ 7 มีนาคม 2540 ตามที่ศาลชั้นต้นได้อนุญาตให้ขยายระยะเวลาอุทธรณ์ไว้ เหตุนี้แม้ศาลชั้นต้นเห็นว่า การเบิกจ่ายเงินค่าฤชาธรรมเนียมชักช้าเนื่องมาจากความบกพร่องในวิธีการเบิกจ่ายเงินที่มีขั้นตอนไม่เหมาะสมและไม่ใช่พฤติการณ์พิเศษที่จะขอขยายระยะเวลาได้ก็ตาม แต่ย่อมแสดงให้เห็นได้อยู่ในตัวเช่นกันว่าจำเลยมิได้จงใจที่จะฝ่าฝืนต่อกฎหมาย ไม่นำเงินค่าธรรมเนียมศาลและค่าธรรมเนียมซึ่งจะต้องใช้แก่โจทก์ตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นมาวางในวันยื่นอุทธรณ์ประกอบกับยังไม่พ้นกำหนดระยะเวลาอุทธรณ์ดังกล่าวเช่นนี้ เมื่อปรากฏว่าอุทธรณ์ของจำเลยที่ยื่นไว้ยังมิได้ชำระหรือวางค่าธรรมเนียมศาลและค่าธรรมเนียมซึ่งจะต้องใช้แก่โจทก์ตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นโดยถูกต้องครบถ้วน ศาลชั้นต้นก็ควรให้โอกาสแก่จำเลยชำระหรือวางเงินดังกล่าวให้ถูกต้องครบถ้วนภายในระยะเวลาอุทธรณ์ซึ่งยังจะก่อให้เกิดความเป็นธรรมแก่จำเลยที่มิได้จงใจที่จะไม่ชำระหรือวางค่าธรรมเนียมศาลและค่าธรรมเนียมซึ่งจะต้องใช้แก่โจทก์ตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นการที่ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับอุทธรณ์ของจำเลยเสียทีเดียว และศาลอุทธรณ์มีคำสั่งยืนโดยมิได้ให้โอกาสจำเลยก่อนนั้น เมื่อศาลฎีกาเห็นว่าในวันที่ 17 มีนาคม 2540จำเลยได้นำเงินค่าธรรมเนียมศาลในชั้นอุทธรณ์จำนวน 200,000 บาท และค่าธรรมเนียมซึ่งจะต้องใช้แก่โจทก์ตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นมาวางต่อศาลชั้นต้นจนครบถ้วนแล้ว ศาลฎีกาย่อมพิพากษายกคำสั่งของศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์และให้ศาลชั้นต้นรับค่าธรรมเนียมศาลในชั้นอุทธรณ์ที่จำเลยนำมาวาง กับให้รับอุทธรณ์ของจำเลยและให้ศาลชั้นต้นดำเนินการต่อไปได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3120-3121/2538 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ค่าธรรมเนียมศาลกับการรับคำร้องคัดค้านการขายทอดตลาด ศาลชอบที่จะให้โอกาสชำระค่าธรรมเนียมที่ขาดก่อนยกคำร้อง
การร้องคัดค้านการขายทอดตลาดเป็นคำขอเพื่อให้ศาลมีคำสั่งยกกระบวนพิจารณาวิธีการบังคับคดีตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 296 วรรคสอง ต้องทำเป็นคำร้องและเสียค่าธรรมเนียมศาลตามตาราง 2 ท้ายประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ข้อ (3)และ (7) โดยชำระเมื่อยื่นคำขอต่อศาล จำเลยที่ 2 ยื่นคำขอต่อศาลชั้นต้นโดยเสียค่าธรรมเนียมศาล50 บาท ตามที่พนักงานศาลเรียกให้เสีย ไม่ได้จงใจขัดขืนไม่ยอมเสียค่าธรรมเนียมศาลซึ่งขาดอยู่เพียง 20 บาท ศาลชั้นต้นชอบที่จะสั่งให้เสียให้ครบถ้วนภายในเวลาอันสมควร ไม่ควรด่วนยกคำร้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3120-3121/2538 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ค่าธรรมเนียมศาลกับการยื่นคำร้องคัดค้านการขายทอดตลาด ศาลควรให้โอกาสชำระค่าธรรมเนียมที่ขาดก่อนยกคำร้อง
การร้องคัดค้านการขายทอดตลาดเป็นคำขอเพื่อให้ศาลมีคำสั่งยกกระบวนพิจารณาวิธีการบังคับคดีตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา296วรรคสองต้องทำเป็นคำร้องและเสียค่าธรรมเนียมศาลตามตาราง2ท้ายประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งข้อ(3)และ(7)โดยชำระเมื่อยื่นคำขอต่อศาล จำเลยที่2ยื่นคำขอต่อศาลชั้นต้นโดยเสียค่าธรรมเนียมศาล50บาทตามที่พนักงานศาลเรียกให้เสียไม่ได้จงใจขัดขืนไม่ยอมเสียค่าธรรมเนียมศาลซึ่งขาดอยู่เพียง20บาทศาลชั้นต้นชอบที่จะสั่งให้เสียให้ครบถ้วนภายในเวลาอันสมควรไม่ควรด่วนยกคำร้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3120-3121/2538

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ค่าธรรมเนียมศาลกับการยื่นคำร้องคัดค้านการขายทอดตลาด ศาลควรให้โอกาสชำระค่าธรรมเนียมก่อนยกคำร้อง
การร้องคัดค้านการขายทอดตลาดเป็นคำขอเพื่อให้ศาลมีคำสั่งยกกระบวนพิจารณาวิธีการบังคับคดีตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา296วรรคสองต้องทำเป็นคำร้องและเสียค่าธรรมเนียมศาลตามตาราง2ท้ายประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งข้อ(3)และ(7)โดยชำระเมื่อยื่นคำขอต่อศาล จำเลยที่2ยื่นคำขอต่อศาลชั้นต้นโดยเสียค่าธรรมเนียมศาล50บาทตามที่พนักงานศาลเรียกให้เสียไม่ได้จงใจขัดขืนไม่ยอมเสียค่าธรรมเนียมศาลซึ่งขาดอยู่เพียง20บาทศาลชั้นต้นชอบที่จะสั่งให้เสียให้ครบถ้วนภายในเวลาอันสมควรไม่ควรด่วนยกคำร้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 673/2532

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขยายเวลาชำระค่าธรรมเนียมอุทธรณ์: คำสั่งศาลต้องไม่ทำให้โอกาสชำระค่าธรรมเนียมหมดไป
ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งอนุญาตตามคำร้องขงโจทก์ ให้ขยายระยะเวลาการวางเงินค่าธรรมเนียมอุทธรณ์ไปอีก 15 วัน โดยระบุวันเดือนปีที่ครบกำหนดไว้ด้วย ปรากฏว่าในวันที่ศาลชั้นต้นอ่านคำสั่งให้โจทก์ฟังนั้น ได้ล่วงเลยวันที่ครบกำหนดตามคำสั่งศาลอุทธรณ์ไปแล้ว ดังนี้ คำสั่งศาลอุทธรณ์จึงไม่ชอบ เพราะมีผลเท่ากับไม่ได้ขยายระยะเวลาให้โจทก์ เมื่อโจทก์ทราบคำสั่งก็หมดโอกาสที่จะชำระค่าธรรมเนียมเสียแล้ว ขัดกับเจตนารมณ์ของประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 23 กรณีเช่นนี้ศาลฎีกาย่อมพิพากษาแก้เป็นว่าให้โจทก์นำเงินค่าธรรมเนียมชำระต่อศาลชั้นต้นภายใน 15 วัน นับแต่วันฟังคำพิพากษาศาลฎีกา.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6902/2559

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ศาลมีอำนาจสั่งให้ชำระค่าธรรมเนียมศาลก่อนรับฟ้อง แม้ผู้ฟ้องร้องมีเหตุผลในการขอขยายเวลา แต่ศาลควรให้โอกาสชำระค่าธรรมเนียมก่อนสั่งไม่รับฟ้อง
กรณีคู่ความมิได้ชำระหรือวางค่าธรรมเนียมศาลโดยถูกต้องครบถ้วน ศาลภาษีอากรกลางมีอำนาจที่จะสั่งให้คู่ความชำระหรือวางค่าธรรมเนียมศาลให้ถูกต้องครบถ้วนก่อนมีคำสั่งรับหรือไม่รับคำคู่ความได้ ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 18 วรรคสอง ประกอบ พ.ร.บ.จัดตั้งศาลภาษีอากรและวิธีพิจารณาคดีภาษีอากร พ.ศ.2528 มาตรา 29 คดีนี้โจทก์ยื่นฟ้องพร้อมยื่นคำร้องขอขยายระยะเวลาชำระเงินค่าธรรมเนียมศาลครั้งแรก อ้างว่าเจ้าหน้าที่ศาลแจ้งว่าต้องใช้เอกสารการประเมินภาษีเพื่อคำนวณค่าธรรมเนียมศาล ศาลภาษีอากรกลางมีคำสั่งในวันถัดมาว่า ให้โจทก์เสนอหลักฐานการประเมินภาษีเพื่อประกอบการคำนวณทุนทรัพย์ในการเสียค่าขึ้นศาลมาภายใน 5 วัน แล้วจะพิจารณาสั่ง แสดงให้เห็นว่า สาเหตุที่โจทก์มิได้นำเงินค่าธรรมเนียมศาลมาชำระต่อศาล เนื่องจากโจทก์ยังไม่ทราบจำนวนเงินค่าธรรมเนียมศาลที่จะต้องชำระให้ถูกต้อง ต่อมาโจทก์ยื่นคำร้องขอขยายระยะเวลาชำระเงินค่าธรรมเนียมศาลเป็นครั้งที่สองอ้างว่า โจทก์ได้ไปติดตามเอกสารจากสำนักงานสรรพสามิตพื้นที่เชียงใหม่แล้ว ได้รับแจ้งว่าต้องได้รับอนุญาตจากผู้บังคับบัญชาก่อน ย่อมเป็นอำนาจของศาลภาษีอากรกลางที่จะพิจารณาว่ามีเหตุจำเป็นและเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรมที่จะขยายระยะเวลาส่งเอกสารตามที่ศาลภาษีอากรกลางกำหนด ตาม พ.ร.บ.จัดตั้งศาลภาษีอากรและวิธีพิจารณาคดีภาษีอากร พ.ศ.2528 มาตรา 19 หรือไม่ ซึ่งหากเห็นว่าเป็นกรณีที่ไม่มีความจำเป็นที่จะขยายระยะเวลาส่งเอกสารให้แก่โจทก์ ก็ชอบที่จะมีคำสั่งให้โจทก์ชำระค่าธรรมเนียมศาลให้ครบถ้วนภายในระยะเวลาตามที่เห็นสมควรเสียก่อน ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 18 วรรคสอง และทุนทรัพย์ที่พิพาทในศาลภาษีอากรกลางต้องพิจารณาจากหนังสือแจ้งการประเมินแต่ละฉบับ คดีนี้ทุนทรัพย์ที่ปรากฏในหนังสือแจ้งการประเมิน 43,927,464.47 บาท แต่ศาลภาษีอากรกลางมีคำสั่งยกคำร้องโจทก์ทั้งสองฉบับและมีคำสั่งไม่รับฟ้องพร้อมกันไปในวันเดียวกัน โดยโจทก์ไม่มีเวลาชำระค่าธรรมเนียมศาลต่อศาลได้ ตามพฤติการณ์ฟังได้ว่าโจทก์ไม่มีเจตนาจงใจขัดขืนไม่ยอมชำระค่าธรรมเนียมศาล