คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ใจความสำคัญ

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 3 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 797/2532

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การโอนสิทธิเรียกร้อง: แม้ใช้คำไม่ตรงตามกฎหมาย แต่หากใจความชัดเจนถือเป็นการโอนสิทธิเรียกร้องสมบูรณ์
แม้ข้อความในเอกสารจะใช้ถ้อยคำว่า "โอนสิทธิรับเงินสินจ้าง"โดยมิได้ใช้คำว่า "โอนสิทธิเรียกร้อง" ตามชื่อที่กฎหมายบัญญัติไว้โดยตรงก็ตาม แต่เมื่อใจความในเอกสารดังกล่าวทั้งฉบับเป็นเรื่องการโอนสิทธิเรียกร้อง ก็ย่อมต้องฟังว่าเป็นเรื่องการโอนสิทธิเรียกร้อง และแม้หลักฐานการขอเบิกและจ่ายเงินจะระบุชื่อจำเลยร่วมผู้โอนสิทธิเรียกร้องเป็นผู้ขอเบิกและผู้รับก็ตาม ก็ไม่เป็นเหตุให้การโอนสิทธิเรียกร้องซึ่งมีผลสมบูรณ์ตามกฎหมายอยู่แล้วต้องเสียไปการที่จำเลยร่วมผู้โอนสิทธิเรียกร้องมีหนังสือบอกเลิกการโอนสิทธิเรียกร้องถึงโจทก์ผู้รับโอนสิทธิเรียกร้องและจำเลยซึ่งเป็นลูกหนี้โดยโจทก์มิได้ตกลงยินยอมด้วยนั้น ย่อมไม่มีผลให้จำเลยหลุดพ้นจากหนี้ตามสิทธิเรียกร้องดังกล่าวที่มีต่อโจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 338/2518

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เอกสารบางส่วนเป็นภาษาต่างประเทศใช้เป็นหลักฐานได้หากอ่านใจความสำคัญได้
เอกสารตอนบนมีข้อความเป็นภาษาไทย ตอนล่างมีข้อความเป็นภาษาจีน โจทก์มิได้ส่งคำแปลเป็นภาษาไทย แต่ข้อความที่เป็นภาษาไทยอยู่บางส่วนนั้น อ่านได้ใจความว่า จำเลยยืมเงินโจทก์ ดังนี้ ศาลรับฟังเอกสารดังกล่าวเป็นพยานหลักฐานว่าได้มีการกู้ยืมเงินกันได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1121/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำฟ้องด้วยวาจาคดีป่าไม้ ศาลต้องบันทึกใจความสำคัญครบถ้วน แม้ไม่ใช่รายละเอียดทั้งหมด
คดีผิด พ.ร.บ. ป่าไม้ ซึ่งอยู่ในอำนาจของศาลแขวง เมื่อจำเลยรับสารภาพ ผู้ว่าคดีนำมาฟ้องต่อศาลแขวงด้วยวาจา ศาลบันทึกใจความฟ้องในแบบพิมพ์บันทึกคำฟ้อง ฯลฯ ตามมาตรา 20 พ.ร.บ. จัดตั้งศาลแขวง ฯลฯ ว่าจำเลยบังอาจตั้งโรงค้าไม้แปรรูปเพื่อทำการจำหน่าย และมีไม้แปรรูปไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต จำเลยให้การรับสารภาพ ตลอดข้อหา ดังนี้ถือว่า จำเลยได้กระทำภายในเขตควบคุมการแปรรูปไม้ที่รัฐมนตรีได้กำหนดและประกาศตามกฎหมายแล้ว และไม้ที่มีไว้ในครอบครองก็เป็นไม้ประเภทหวงห้ามด้วย ซึ่งไม่ใช่ใจความสำคัญ ศาลจึงไม่บันทึกไว้ ข้อหาตามคำฟ้องของโจทก์จึงเข้าหลักเกณฑ์เป็นความผิดตามกฎหมายที่โจทก์ขอให้ลงโทษแล้ว
บันทึกที่ว่า จำเลยให้การรับสารภาพตลอดข้อหา ซึ่งเป็นตัวพิมพ์ในแบบพิมพ์ ต้องถือว่าศาลได้สอบถามจำเลยแล้ว จึงเท่ากับ ศาลได้บันทึกคำให้การจำเลยตามที่สอบถามด้วยลายมือของศาลเหมือนกัน ย่อมมีผลใช้ได้ตามกฎหมายโดยสมบูรณ์ทุกประการ